“สุเทพ” เชื่อเพื่อไทยรับคำสั่ง “นช.แม้ว” ถอดองค์คณะพิพากษา “ทักษิณ” โกงชาติ ลั่นไม่มีทางสำเร็จ ชี้สวนความรู้สึกคนส่วนใหญ่ ยันศาลตัดสินตามพยานหลักฐาน ปูดมีบางกลุ่มเกาะนักโทษเคลื่อนไหวหวังผลอีกด้าน เชื่อคนส่วนใหญ่เป็นพลังแก้ปัญหาชาติได้
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง และบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามเดินหน้ารวบรวบรายชื่อประชาชนเพื่อยื่นถอดถอน 9 องค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ว่า นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และคนอื่น รวมทั้งสายอื่นๆ ก็รับคำสั่งมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าเขาจะต่อสู้ทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้นพวกนี้ก็พยายามต่อไป แต่สิ่งที่เขาพยายามจะทำมันก็สวนกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ เพราะในวันที่ 26 ก.พ.ที่ศาลพิพากษาตลอดเวลา 7 ชม.กว่า ที่ศาลได้บรรยายความละเอียดชัดเจน มีเหตุมีผลทุกอย่างทุกประการ ได้แสดงให้เห็นชัดว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศก็ได้เปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสู้คดีแล้ว
“เมื่อเหตุผลพยานหลักฐานทั้งหลายมันชี้ชัด ศาลก็พิพากษาไปตามพยานหลักฐานเหล่านั้น ประชาชนก็ได้ฟังอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเขามาประกาศไม่รับอำนาจศาล พยายามหาทางถอดถอนศาลอะไรต่างๆ ก็ว่าไป ถ้ากฎหมายเปิดช่องก็ทำไป ถ้ากฎหมายไม่เปิดช่องก็ทำไม่ได้ มีข้อกฎหมายอยู่ พี่น้องประชาชนไม่ต้องไปหวั่นไหว ไม่ต้องตกใจ มันไม่มีทางจะสำเร็จไปได้หรอกว่าถ้าศาลพิพากษาไม่ถูกใจเรา เราก็จะต้องปลดผู้พิพากษามันเป็นไปไม่ได้อย่างนั้น” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า เชื่อในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดหรือไม่ว่า ตัวเขาเป็นเพียงสัญลักษณ์หนึ่งในกระบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและเรียกร้องประชาธิปไตยในไทยหรือยังมองว่าการเคลื่อนไหวจะจบหรือไม่อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งกดปุ่ม นายสุเทพกล่าวว่า จริง ๆ แล้วในกลุ่มที่ทำงานกันอยู่ อาจมีภาพที่ซ้อนกันอยู่ ในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณชัดเจนว่าเขาต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของเขา แต่ว่ามีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่แอบอิงอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มานานแล้ว ก็มีเป้าหมายในการต่อสู้อีกแบบหนึ่ง คนสองกลุ่มนี้พึ่งพาอาศัยกันมาระยะหนึ่งแล้ว นั้นเป็นไปได้ว่าการต่อสู้ในลักษณะที่มีเป้าหมายต่างกัน แต่พึ่งพาอาศัยกัน
เมื่อถามว่า ถ้าเป็นอย่างนี้การควบคุมรองรับสถานการณ์ก็ไม่จบ นายสุเทพกล่าวว่า บังเอิญเป็นโชคไม่ดีของบ้านเมืองที่เราเจอคนทั้งสองกลุ่ม แต่เรามีหน้าที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา โดยคนส่วนใหญ่ในประเทศที่จะเป็นพลังในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาคีดยึดทรัพย์อย่างเข้มงวดไปอีกหรือไม่อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า จะพิจารณาดูตามความเหมาะสม เป็นหน้าที่เราที่ต้องดูแลคนที่ทำงานให้บ้านเมืองได้รับความปลอดภัย