00 เวลานี้ถ้าใครมองเข้าไปในหัวใจของ ทักษิณ ชินวัตร กับเมีย คือ พจมาน ณ ป้อมเพชร (แม้จะอย่ากันไปแล้วหรือไม่ หรือใช้นามสกุลอะไรก็ตาม) คงจะร้อนรุ่มกลุ้มใจอกแทบระเบิด คนที่ตลอดเวลาคิดแต่เรื่องตัวเงินและผลกำไร แต่กลับมาถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ถึง 4.63 หมื่นล้านบาท แถมยังถูกประจานความชั่ว ที่ตัวเองอำพรางกับคนทั่วไปมานาน นี่แหละที่ทำให้เขาแทบคลั่ง และก็อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เป้าหมายล่าสุดหันมาถล่มศาลเข้าไปเต็มๆ โดยเฉพาะเน้นบิดเบือนใส่ร้ายว่า ศาลไม่ชอบธรรม
00 เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ เพื่อชี้ให้สังคมได้เห็นว่าการยึดทรัพย์ไม่เป็นธรรม และนำไปสู่การขยายผลในการปลุกระดมประชาชนที่ใช้ข้อมูลกรอกหูอยู่ด้านเดียวให้หลงเชื่อ โดยลากเอาเรื่องที่มาจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 มาเป็นเหตุ จากนั้นก็ถือโอกาสโจมตี “ป๋าเปรม” พร้อมกันไปด้วย เพื่อกดดันให้ “เหนือ” ขึ้นไปอีก
00 ต้องการบีบให้ “นิรโทษกรรม” ให้ตัวเอง แล้ว “ยุบสภา” ซึ่งมีวิธีการ “ชั่วๆ” แบบนี้เท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองและส่วนรวมจะ “ฉิบหาย” อย่างไรกูไม่สน ขอให้ได้เงินที่โกงไปคืนมา และกลับมามีอำนาจอีกรอบเป็นใช้ได้ เพราะคนเราลองหน้ามืดแล้วย่อมทำได้ทุกอย่าง โดยไม่เลือกวิธีการ
00 สั่งเดินหน้าเต็มตัว จากคำแถลงของหนึ่งใน “3 เกลอ” จตุพร พรหมพันธุ์ บอกว่าจะระดมรายชื่อชาวบ้านกว่า 2 หมื่นชื่อ เพื่อยื่นต่อวุฒิสภาให้ถอดถอนองค์คณะผู้พิพากษาที่ตัดสินยึดทรัพย์ของ ทักษิณ หลายคนฟังแล้วคงได้แต่ “สมเพช” ว่ามันเป็นไปได้กันถึงขนาดนี้ ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของคนทั่วไปว่าจะคิดอย่างไร
00 มองอีกมุมหนึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เมื่อเศรษฐีขี้โกงคนหนึ่งกำลังหน้ามืด คิดว่ากำลังจะเสียเงินก้อนใหญ่ไปจึงต้องยอมลงทุนหาทางยับยั้งเพื่อไม่ให้สูญเสียเพิ่มขึ้น แม้ผลในวันข้างหน้าอาจต้องหมดทุกอย่าง แต่ยอมจ้าง ยอมจ่ายแค่ไหนก็ต้องกัดฟัน ดังนั้นการเคลื่อนไหวของแกนนำเสื้อแดงเวลานี้ ดูเหมือนมีการเตรียมการกันอย่างคึกคักไว้ให้พร้อมก่อนถึงวันชุมนุมใหญ่วันที่ 14 มี.ค. แต่แทบทุกอย่างมันต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าเช่ารถ ค่าจ้างรายหัว ยิ่งใครเสี่ยงมาก ก็ต้องจ่ายเพิ่ม
00 ยิ่งงานนี้เป็นการต่อสู้เพื่อเงิน และอำนาจของ ทักษิณเพียวๆโดดๆ ดังนั้นคนที่ต้องจ่ายมือเป็นระวิงก็จะเป็นใครไปไม่ได้ และอย่าได้แปลกใจที่กลายเป็นช่วง “นาทีทอง” ของแกนนำเสื้อแดง ยิ่งใครออก “แอ็กชั่น” มากยิ่งต้องสมควรรับเป็นก้อน ถือว่าเป็นจ็อบช่วงหน้าแล้งก็แล้วกัน แต่สำคัญที่สุดต้อง “จ่ายจริง” กันเห็นๆ ไม่เช่นนั้นก็ตัวใครตัวมัน ขอให้โชคดีก่อนถึงวันตาย ภายใน 3 วัน 7 วัน นะ “แม้ว”นะ
00 สำหรับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่ได้ดิบได้ดีจากการเป็นหัวหน้าม็อบไปป่วนหน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับบำเหน็จเป็นถึง รองประธานสภาผู้แทนฯ แต่แทนที่เมื่อได้รับมาแล้ว จะทำหน้าที่ให้สมเกียติ รักษาความเป็นกลางให้แนบเนียน แต่นี่กลับยังไม่ทิ้งนิสัยถ่อยยังไปขึ้นเวทีเสื้อแดงอยู่ประจำพูด จาหยาบคายจนเป็นนิสัย ล่าสุดยังไปเสนอหน้าให้ความเห็นในญัตติการซักฟอกรัฐบาล ทำผิดมารยาทของคนที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ประธานสภา ก็สมควรแล้วที่จะถูกสมาชิกยื่นถอดถอนให้เป็นตัวอย่าง !!
00 เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ เพื่อชี้ให้สังคมได้เห็นว่าการยึดทรัพย์ไม่เป็นธรรม และนำไปสู่การขยายผลในการปลุกระดมประชาชนที่ใช้ข้อมูลกรอกหูอยู่ด้านเดียวให้หลงเชื่อ โดยลากเอาเรื่องที่มาจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 มาเป็นเหตุ จากนั้นก็ถือโอกาสโจมตี “ป๋าเปรม” พร้อมกันไปด้วย เพื่อกดดันให้ “เหนือ” ขึ้นไปอีก
00 ต้องการบีบให้ “นิรโทษกรรม” ให้ตัวเอง แล้ว “ยุบสภา” ซึ่งมีวิธีการ “ชั่วๆ” แบบนี้เท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองและส่วนรวมจะ “ฉิบหาย” อย่างไรกูไม่สน ขอให้ได้เงินที่โกงไปคืนมา และกลับมามีอำนาจอีกรอบเป็นใช้ได้ เพราะคนเราลองหน้ามืดแล้วย่อมทำได้ทุกอย่าง โดยไม่เลือกวิธีการ
00 สั่งเดินหน้าเต็มตัว จากคำแถลงของหนึ่งใน “3 เกลอ” จตุพร พรหมพันธุ์ บอกว่าจะระดมรายชื่อชาวบ้านกว่า 2 หมื่นชื่อ เพื่อยื่นต่อวุฒิสภาให้ถอดถอนองค์คณะผู้พิพากษาที่ตัดสินยึดทรัพย์ของ ทักษิณ หลายคนฟังแล้วคงได้แต่ “สมเพช” ว่ามันเป็นไปได้กันถึงขนาดนี้ ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของคนทั่วไปว่าจะคิดอย่างไร
00 มองอีกมุมหนึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เมื่อเศรษฐีขี้โกงคนหนึ่งกำลังหน้ามืด คิดว่ากำลังจะเสียเงินก้อนใหญ่ไปจึงต้องยอมลงทุนหาทางยับยั้งเพื่อไม่ให้สูญเสียเพิ่มขึ้น แม้ผลในวันข้างหน้าอาจต้องหมดทุกอย่าง แต่ยอมจ้าง ยอมจ่ายแค่ไหนก็ต้องกัดฟัน ดังนั้นการเคลื่อนไหวของแกนนำเสื้อแดงเวลานี้ ดูเหมือนมีการเตรียมการกันอย่างคึกคักไว้ให้พร้อมก่อนถึงวันชุมนุมใหญ่วันที่ 14 มี.ค. แต่แทบทุกอย่างมันต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าเช่ารถ ค่าจ้างรายหัว ยิ่งใครเสี่ยงมาก ก็ต้องจ่ายเพิ่ม
00 ยิ่งงานนี้เป็นการต่อสู้เพื่อเงิน และอำนาจของ ทักษิณเพียวๆโดดๆ ดังนั้นคนที่ต้องจ่ายมือเป็นระวิงก็จะเป็นใครไปไม่ได้ และอย่าได้แปลกใจที่กลายเป็นช่วง “นาทีทอง” ของแกนนำเสื้อแดง ยิ่งใครออก “แอ็กชั่น” มากยิ่งต้องสมควรรับเป็นก้อน ถือว่าเป็นจ็อบช่วงหน้าแล้งก็แล้วกัน แต่สำคัญที่สุดต้อง “จ่ายจริง” กันเห็นๆ ไม่เช่นนั้นก็ตัวใครตัวมัน ขอให้โชคดีก่อนถึงวันตาย ภายใน 3 วัน 7 วัน นะ “แม้ว”นะ
00 สำหรับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่ได้ดิบได้ดีจากการเป็นหัวหน้าม็อบไปป่วนหน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับบำเหน็จเป็นถึง รองประธานสภาผู้แทนฯ แต่แทนที่เมื่อได้รับมาแล้ว จะทำหน้าที่ให้สมเกียติ รักษาความเป็นกลางให้แนบเนียน แต่นี่กลับยังไม่ทิ้งนิสัยถ่อยยังไปขึ้นเวทีเสื้อแดงอยู่ประจำพูด จาหยาบคายจนเป็นนิสัย ล่าสุดยังไปเสนอหน้าให้ความเห็นในญัตติการซักฟอกรัฐบาล ทำผิดมารยาทของคนที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ประธานสภา ก็สมควรแล้วที่จะถูกสมาชิกยื่นถอดถอนให้เป็นตัวอย่าง !!