xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชม ตร.หาเบาะแสมือบึ้มเร็ว แขวะ “เหล่” ร้อนตัว ท้า พท.โชว์หลักฐานบัญชีดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
โฆษกประชาธิปัตย์ชมเปาะตำรวจหาเบาะแสมือปาบึ้ม ธ.กรุงเทพเร็ว ชูมาตรการป้องกันรัฐเจ๋งโคตร งง “นพเหล่” ร้อนตัวโต้แทนนายไม่ได้ทำ ทำคนสงสัย จวก “จตุพล่าม” เลี้ยงแกะ ปูดยึดเงิน “ทักษิณ” 3 หมื่นล้านต่อ ยันกระบวนการยุติธรรมสิ้นสุดแล้ว ปัดรัฐขึ้นบัญชีดำ 212 “แก๊งแดง” ท้าเปิดเอกสาร จวกเอาชื่อพระมาปลุกระดมหวังเพิ่มชนวนรุนแรง

วันนี้ (1 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบภายหลังคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าการคลี่คลายสถานการณ์ และพบเบาะแสเบื้องต้นของผู้ก่อการร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว จนได้รูปพรรณสัณฐานของผู้ดำเนินการและสามารถรักษาความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่มีต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย และคาดว่าจะดำเนินการไปสู่การจับกุมขยาย แต่ทั้งนี้ก็เป็นการสะท้อนมาตรการในการเตรียมการล่วงหน้าของรัฐบาลด้านความมั่นคงที่วางกลไลการเฝ้าระวัง ทำให้รูปแบบการก่อวินาศกรรมเปลี่ยนจากการวางแผนใช้ระเบิดที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงเพื่อหวังผลมุ่งหวังผลทำลาย มาเป็นการเคลื่อนไหวแบบใช้รถเร็วปาระเบิดเพื่อป่วนทำลายความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยรัฐบาลจะป้องกันต่อไปจนกว่าจะสามารถควบคุมคุมการเคลื่อนไหว ไม่ให้สัมฤทธิผล และไม่ให้นำไปสู่ความตื่นตระหนกตกใจ และความหวาดกลัวของประชาชนและสังคม

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่น่าแปลกใจ ทำไมนายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงรีบออกมาปฏิเสธ ทั้งที่ยังไม่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มแนวร่วมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่าหากไม่มี หรือไม่ยอมเจราจาก็จะเกิดความรุนแรง รวมทั้งคำพูดที่บอกว่าต่อไปนี้จะมีต้องดำเนินการใต้ดินด้วย ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า แผนการต่อไปคือการยึดเงินอีก 3 หมื่นล้านบาท เป็นคำพูดที่ปราศจากข้อเท็จจริง เพราะคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าสิ้นสุดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการอุทธรณ์ภายในวันที่ 21 มีนาคม ที่ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา แต่ก็มีไม่น้อยที่มีความคิดเห็นแตกต่างว่าทรัพย์สินที่เหลือ 3 หมื่นล้าน เป็นทรัพย์ที่ใช้ในการก่อการทำทุจริต หากไม่ใช้เงิน 3 หมื่นล้าน ก็ไม่สามารถมีผลประกอบการขยายเป็น 7.6 หมื่นล้านได้ แต่ก็ต้องเคารพต่อคำวินิฉัยของศาลและไม่ได้มีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เพื่อหวังเคลื่อนไหวทางการเมืองและสร้างความขัดแย้งในสังคม

ส่วนข่าวการขึ้นแบล็กลิสต์ 212 รายนั้น โฆษก ปชป.ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีพฤติการณ์ขึ้นบัญชีดำบุคคลใดก็ตามที่ถูกกล่าวหาโดยไม่มีความเป็นธรรมเป็นอันขาด การสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในการก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นไปตามหลักฐา และข้อเท็จจริงทั้งสิ้น และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกรณีกลุ่ม นปช. และกรณีการก่อความวุ่นวายของกลุ่มอื่นๆ นั้น ก็มีคดีอยู่ในชั้นสอบสวนและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกัน เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีพฤติกรรมการก้าวล่วงหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงขอท้าให้ผู้ที่ใส่ร้ายเพื่อหวังผลทางการเมืองเปิดเผยว่ารายชื่อนั้นคืออะไร ปรากฏการสั่งการหรือไม่ และที่น่ากังวลคือการออกมาปลุกระดมว่า มีการคุกคามพระภิกษุอาวุโสหลายท่าน ถือว่าเป็นการดึงมิติเรื่องศาสนาเข้ามาสู่ความขัดแย้งการเมือง จะเพิ่มชนวนเหตุความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม จากการจงใจให้ประชาชนหลงเชื่อกับแนวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย และกลุ่ม นปช.
กำลังโหลดความคิดเห็น