xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ชี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงกว่า เม.ย.เลือด เหตุ “แม้ว” ใช้อ้างขึ้นศาลโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ
รองนายกฯ ด้านความมั่นคง สั่งการเจ้าหน้าที่ ตร.ขอกำลังทหารเสริม ระมัดระวังเหตุป่วนเมือง เชื่อสถานการณ์คงจะรุนแรงกว่าช่วง เม.ย.เลือด แจงเหตุ “แม้ว” ทุ่มหมดหน้าตัก หวังใช้เป็นข้ออ้างในศาลโลก ระบุขอประเมินสถานการณ์รายวัน ยันไม่จำเป็นงัด กม.พิเศษบังคับใช้ มั่นใจจับจับมือปาระเบิดป่วนเมืองได้แน่ ย้อนถามเสื้อแดงป้ายสีรัฐบาลจะก่อสถานการณ์เพื่ออะไร

วันนี้ (28 ก.พ.) ที่วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดในหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลว่า ตนได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุขว้างระเบิดลูกแรกได้ จากนั้นไม่เกิน 15 นาที นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โทร.มาสอบถามกับตน ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบก็ได้ติดตามสถานการณ์ตลอด และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินไปจากความคาดหมาย เจ้าหน้าที่เองก็ระมัดระวังอยู่แล้ว ก็ยังนึกเกรงอยู่เหมือนกันว่าเมื่อผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ออกมาแล้ว คงจะมีการกระทำในลักษณะที่เป็นการกระทำที่จะก่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมือง ในลักษณะเช่นนี้อยู่บ้าง ตนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอกำลังทหารมาช่วยเสริมเพิ่มเติม โดยให้มีการลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็พยายามเต็มที่ แต่ก็ยังมีการก่อเหตุเกิดขึ้น เมื่อเกิดเหตุแล้วตนก็ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการในการตั้งด่านตรวจ เพิ่มชุดลาดตระเวน ทั้งชุดมอเตอร์ไซต์และเดินเท้า รวมทั้งเพิ่มเรื่องการหาข่าว

“ขอถือโอกาสนี้กราบเรียนไปยังพี่น้องประชาชนคนไทย ว่ากรุณาช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย ลำพังเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เตรียมการไว้อาจจะไม่เพียงพอ บ้านเมืองกว้างใหญ่ เรารักษาจุดที่สำคัญๆ คนก่อเหตุก็อาจจะไปก่อเหตุในจุดที่หลงหูหลงตาเจ้าหน้าที่ไป แต่ถ้าประชาชนช่วยกันให้ข้อมูล หรือเห็นอะไรผิดสังเกต ให้รีบแจ้งเบาะแส ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้เร็วขึ้น และผมอยากจะวิงวอนไปยังผู้ที่คิดกระทำการอย่างนี้ว่าไม่ควรจะทำ โดยเฉพาะในช่วงวันมาฆบูชา บ้านเมืองเรามันไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าคนเราจะต่อสู้กันเพื่อเพียงเอาแพ้เอาชนะ และทำให้บ้านเมืองยับเยินเสียหาย มันมีวิธีการต่อสู้ที่ดีกว่านี้อีกหลายวิธี ถ้ามาทำอะไรที่เป็นการรุนแรงเช่นนี้ ผมคิดว่าไม่ได้ผลหรอกครับ นอกจากจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้ ซึ่งถ้าประชาชนรับไม่ได้ พวกท่านจะทำอย่างไร ท่านก็ชนะไปไม่ได้ โดยเฉพาะวันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนา คนไทยทั้งหลายก็เข้าวัดทำบุญกัน มีจิตใจที่สงบ ไม่ควรจะทำอะไรให้กระทบกระเทือนใจคนไทย” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่าในทางการข่าว กลุ่มที่ลงมือทราบหรือไม่ว่าเป็นกลุ่มไหน รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนคงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนาย ก. หรือนาย ข. แต่ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และขณะนี้เองก็มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่ และกรณีที่ลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิดก็อาจจะได้ลายนิ้วมือแฝง ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการแกะรอยอยู่ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าคนทำมุ่งไปที่ภาคเอกชนมากกว่าหน่วยงานของรัฐ จะต้องไปหารือกับภาคเอกชนหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เอกชนทั้งหลายก็ให้ความร่วมมือตามปกติ โดยได้รับการเตือนไปจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ก็ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา แต่ก็เข้าใจดีว่ากรณีเช่นนี้ไม่ง่ายในการรักษา เพราะการกระทำทำในลักษณะขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านแล้วขว้างระเบิดเข้าไป

เมื่อถามว่าการที่เป้าหมายใน 4 จุดแรกเป็นธนาคารกรุงเทพ จะมีความเชื่อมโยงไปถึงประธานองคมนตรีหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกโจมตี นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ แต่ให้ประชาชนได้เรียงลำดับเหตุการณ์เอาเอง และเพื่อให้มองว่าคนทำมุ่งประสงค์อะไร ตนไม่อยู่ในฐานะที่จะวิพากษ์วิจารณ์ใครได้ ตนทำได้เพียงแต่ระมัดระวังและดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยมากที่สุด

เมื่อถามว่ามีการแถลงล่าสุดของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมกับมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นฝีมือของภาครัฐเองที่สร้างสถานการณ์ เพื่อใช้กฎหมายจัดการพิเศษ จัดการกับผู้ชุมนุม นายสุเทพกล่าวว่า ตนอยากจะกราบเรียนไปถึงพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรที่เป็นเรื่องเสียหายแก่บ้านเมืองแน่นอน สามัญชนคนธรรมดาสามารถไตร่ตรองได้ ใช้วิจารณญาณได้ เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เมื่อเรามีหน้าที่ต้องดูแลรักษาความสงบ เราจะไปสร้างสถานการณ์ให้เกิดปัญหาขึ้นทำไม และที่กล่าวว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์เพื่อถือเป็นเหตุประกาศกฎหมายควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม ตนขอยืนยันว่าไม่จริง และตนเคยกล่าวแล้วว่า กรณีที่มีการชุมนุม ถ้าเป็นการชุมนุมที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายเราก็จะไม่ไประงับยับยั้ง เพราะถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเมื่อใดทำเรื่องที่ผิดกฎหมายก่อกวนความสงบสุขบ้านเมือง สร้างความเดือดร้อนก็ต้องแก้ไข และการแก้ไขหากอยู่ในวิสัยที่สามารถ ใช้กฎหมายธรรมดาก็ควรใช้ ยกเว้นเหมือนกรณีเหตุการณ์ที่พัทยา หรือเหตุการณ์สงกรานต์ แบบนั้นก็จำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายความมั่นคง

เมื่อถามว่าจากนี้ไปจะต้องติดตามสถานการณ์ไปอีกหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราก็ต้องเฝ้าดูเหตุการณ์ไปเรื่อย จนกว่าทุกอย่างจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และสงบสุขเช่นเดิม เมื่อถามต่อว่า ถ้าการเมืองยังเป็นเช่นนี้เราจำเป็นต้องเข้มงวดและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลบ้านเมืองใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ใช่ เป็นเรื่องที่ต้องเป็นภาระที่ตกกลับเจ้าหน้าที่มาก โดยเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานอย่างเข้มข้น ส่วนจะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ทหารเพิ่มขึ้นจาก 20 กองร้อยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูตามสถานการณ์ แต่วันนี้มีการเพิ่มกำลังบ้างแล้ว และในช่วงเช้าตนได้หารือกับ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แล้ว โดยให้ไปพิจารณาว่า จะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในจุดไหนเท่าไร และหากตำรวจไม่พอให้ขอกำลังทหารทันที โดยเป้าหมายของรัฐบาลคือให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นที่จะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เพื่อประเมินติดตามสถานการณ์ล่าสุดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะทุกคนทำงานอยู่แล้ว โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็นตลอด และเมื่อเกิดเหตุก็จะปรึกษากัน แต่หากจำเป็นมากกว่านี้จึงจะเรียกประชุม ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ตนสามารถสั่งการและแก้ไขสถานการณ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องขอมติที่ประชุม อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุระเบิดพร้อมกันเหมือนปี 49 ตนก็สามารถที่จะจับตัวคนร้ายได้อยู่แล้ว และถ้าเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเราก็ต้องปรับกำลังให้พอดีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ผมมั่นใจว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ได้แน่นอน เพราะดูจากลายนิ้วมือ และเชื่อว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนรับจ้างก่อเหตุ ทุกแห่งใช้มอเตอร์ไซต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก ในการลงมือปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าเหตุจะรุนแรงมากกว่าเดือน เม.ย.เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการที่จะเอาข้ออ้างไปฟ้องศาลโลก แต่ผมก็จะระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ ขึ้น ส่วนที่มีหลายฝ่ายให้ยุบสภานั้น ผมเห็นการยุบสภาไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะมันต้องไปแข่งกันอีกในสนามเลือกตั้ง” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่าทันทีที่เกิดเหตุทางพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าเป็นความขัดแย้งในรัฐบาลเอง อย่างเช่น พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ระบุว่ามีความแค้นระหว่างภาครัฐ โดยนำเรื่องจีที 200 ที่กำลังถูกตรวจสอบในเรื่องการทุจริต นายสุเทพกล่าวว่า คนเหล่านี้พูดโกหกทุกวัน พูดโกหกบ่อยๆ และพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ โดยที่ข้อเท็จจริงไม่มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน ทุกคนเชื่อฟังรัฐบาล รับคำสั่งจากรัฐบาล ทุกคนช่วยกันทำงานให้ชาติบ้านเมือง เมื่อถามต่อว่ากรณีที่นักวิชาการออกมาให้ความเห็นว่าการเกิดเหตุระเบิดเป็นการบีบคั้นให้รัฐบาลใช้กฎหมายพิเศษและนำไปสู่ความชอบธรรมในการจัดการกับฝ่ายตรงข้าม นายสุเพทกล่าวว่า ตนเข้าใจและระมัดระวังอยู่แล้วว่าฝ่ายที่จะก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองตั้งใจที่จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อยั่วยุ และปลุกเร้าให้สถานการณ์ไปถึงจุดที่เขาจะได้เอาไปแอบอ้างขยายผลได้ ดังนั้นพวกตนก็ต้องระมัดระวัง อย่างเช่นกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะนำคดียึดทรัพย์ไปฟ้องต่อศาลโลก ซึ่งทางตนได้ปรึกษากับฝ่ายความมั่นคงอยู่ตลอด

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับเปลี่ยนรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพราะที่ผ่านมามีเหตุเกิดขึ้นหลายอย่าง นายสุเทพกล่าวว่า ตนโดยทั้งซ้ายทั้งขวา ไม่ว่าเสื้อแดงเสื้อเหลือง ต่างไล่ตนทุกวัน แต่พี่น้องประชาชนกรุณาให้กำลังใจ ซึ่งตนก็จะทำงานต่อไปไม่หวั่นไหว ส่วนจะต้องปรับยุทธวิธีให้เข้มข้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนก็ทำงานอย่างแข็งแรง โดยดูได้จากหลังคำพิพากษาออกมาแล้ว ตนก็สั่งการทันทีให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย ทุกคนก็ทราบดี บางครั้งหลายคนอาจจะนึกในใจว่าตนทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตนก็ระมัดระวัง และมาตรการที่จะเพิ่มความเข้มข้น ก็ต้องดูว่าอย่าให้กระทบกับประชาชน ไม่ให้รู้สึกอึดอัด ทุกอย่างต้องพอดี

เมื่อถามว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อีกต่อไป จะนำไปสู่ 12-14 มี.ค. จำเป็นต้องประกาศกฎหมายพิเศษควบคุมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงยัง ยังไม่ทำถึงขนาดนั้น โดยจะพยายามแก้ปัญหาในระดับปกติให้ได้ก่อน โดยในสถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ เราฝ่ายรัฐก็ต้องใช้ความอดกลั้นอดทนให้มาก และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนละตาสองตา ก็จะช่วยได้

เมื่อถามว่าเวลานี้คนในกรุงเทพฯ ต่างอยู่อย่างหวาดระแวง นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น และยังไม่ต้องหวาดวิตก จนทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ทุกคนต้องพยายามช่วยกัน บังเอิญเราโชคไม่ดีมีแต่คนคิดร้ายกับบ้านเมืองมาร่วมสมัยแบบนี้ ก็ต้องพยายามช่วยกันแก้ไข

เมื่อถามว่าให้น้ำหนักไปที่กลุ่มมือที่สามหรือไม่ หรือเฉพาะกลุ่มความเคลื่อนไหวทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมือที่ 3-4-5 ก็เป็นพวกเดียวกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่เคยถูกขึ้นบัญชีดำไว้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องไปว่ากันเอง

“คนบางคน เฉพาะบางคนเราก็เห็นแล้วว่ามีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจ เราก็พยายามติดตามตรวจสอบ ซึ่งก็มีไม่กี่คน แทบจะนับชื่อเรียงตัวกันได้ และเป็นข่าวอยู่ทุกวัน โดยพวกนี้จะดำเนินการทั้งบนดินและใต้ดิน และทำเงินไปพร้อมๆ กัน” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่สื่อต่างชาติออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความรุนแรงนั้น ตนมองว่าเมื่อเกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นกับในประเทศไทย คนที่อยู่ข้างนอกก็ต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ประเทศไทยก็ขาดทุน นักท่องเที่ยวก็ไม่กล้ามา คนที่จะเข้ามาค้าขายหรือมาลงทุนก็ตกใจ ตนจึงเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์เลย ถ้าหากคิดจะต่อสู้เพื่อเอาชนะทางการเมือง แล้วเอาชนะประเทศไทย มันไม่คุ้มกัน

ส่วนที่มีการประเมินสถานการณ์หลังการยึดทรัพย์แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องมีการประเมินเหตุการณ์ใหม่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนคงไม่คิดใหม่ แต่คงพูดให้สถานการณ์ดูดีขึ้น อย่างน้อยก็ออกมาให้สติว่าศาลก็พิจารณาด้วยความเมตตาและให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง ความมีเหตุมีผลในเนื้อหาคำพิพากษาของศาล คนเข้าใจกันทั้งประเทศ มีเพียงกลุ่มเดียว หยิบมือเดียว ที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาล ก็ต้องฉุกใจคิดบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในวัดได้มีตำรวจกว่า 200 นาย จากกองบังคับการตำรวจภูธร นนทบุรี เดินทางมาอารักขาความปลอดภัยให้กับนายสุเทพระหว่างการเวียนเทียน
กำลังโหลดความคิดเห็น