xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” มั่นใจรัฐจัดสรรงบท้องถิ่นได้ตามเดิม ลั่นไม่เคยสั่งใครให้คิดเหมือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ตร.นนท์สุดเข้ม!!! ขนเจ้าหน้าที่ร่วมครึ่งพันอารักขานายกฯ ประชุมสมาคมสันนิบาตฯ เมืองทองฯ - “อภิสิทธิ์” ยันรัฐบาลให้ความสนใจกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น มั่นใจจัดสรรงบได้ตามเดิม โยน “อภิรักษ์” ดูนครแม่สอด ชี้นักการเมืองคนไหนไม่เหนื่อยอีกไม่นานจะไม่ได้เป็นนักการเมือง ลั่นไม่เคยสั่งใครให้คิดเหมือน แต่ต้องอยู่ร่วมกันได้

วันนี้ (26 ก.พ.) ที่เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมวิชาการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่อง อนาคตเทศบาล : อนาคตประเทศไทย ที่ห้องแกรนด์บอลลรูม โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวเปิดงานว่า ตนและรัฐบาลให้ความสนใจการกระจายอำนาจและพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาตลอด รัฐธรรมนูญ2540 ขับเคลื่อนให้การพัฒนาท้องถิ่นเป็นไปอย่างรวดเร็วและนำไปสู่การจัดบริหารสาธารณะเพื่อดูแลประชาชน บทบาทของท้องถิ่นนั้นนำนโนบายที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและช่วยผลักดันนโยบายรัฐบาลอีกด้วย ฉะนั้น การเติบโตนี้มีความสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อไป กฎหมายท้องถิ่นต่างๆ เช่นแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นนั้นถือว่าครบสิบปีแล้วและสมควร ประเมินทั้งระบบ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ช่วงปีเศษที่ตนเข้ามาทำงานนั้น ทราบดีว่าท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นๆเผชิญปัญหาด้านงบประมาณ เพราะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล 2 แสนล้านบาท และส่งผลถึงการจัดสรรงบประมาณ ทำให้การบริหารงานที่ภารกิจเพิ่มขึ้น แต่งบประมาณลดลงนั้น มันมีความท้าทายแต่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาโดยใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง 23,000 ล้านบาทไปช่วยเหลือ และในงบประมาณปี 2554 มีข่าวดีว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวเพราะการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจะเก็บรายได้เกินเป้าเกือบสองแสนล้านบาท ทำให้ตนมั่นใจว่าจะเริ่มจัดสรรงบประมาณกลับสู่ภาวะปกติ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวรัฐบาลต้องทบทวนแผนกู้เงินเพราะไม่ต้องการสร้างหนี้สิน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและทราบความเห็นที่แตกต่างที่จะยุบรวมกฎหมายท้องถิ่น รวมกันสองฉบับ คือกฎหมายการจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่น แต่ตนเห็นว่าควรรักษาหลักการเดิมตามความเห็นของคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ ที่ให้คงกฎหมายฉบับนี้ไว้ และหากมองไปข้างหน้าในความสำคัญของท้องถิ่นนั้น เทศบาลมีความสำคัญมากที่ดูแลพื้นที่การเจริญเติบโตที่ตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะสภาพสังคมที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วนั้น สังคมจะแปรสภาพมาเป็นสังคมเมือง เรื่องนี้จึงมีความท้าทายต่อผู้บริหารท้องถิ่น และการปรับปรุงท้องถิ่นนั้นต้องดำเนินการต่อเนื่อง และต้องมีกติกาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารท้องถิ่นด้วย โดยท้องถิ่นต้องรายงานการดำเนินงานให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน เรื่องนี้มีความสำคัญเพราะท้องถิ่นจะดำเนินงานอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และรัฐบาลจะพิจารณาการแบ่งโอนภารกิจให้ท้องถิ่นที่น่าจะมีคำตอบในสองเดือนนี้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกฯได้คึกษาการบริหารท้องถิ่นรูปแบบพิเศษที่ต้องเกิดขึ้นในอนาคตคือพระราชกฤษฎีกานครแม่สอด ที่เป็นท้องถิ่นพิเศษรูปแบบแรกที่จะจัดการปัญหาเศรษฐกิจชายแดน การให้อำนาจท้องถิ่นดูแลบางเรื่อง เช่น ส่งเสริมการลงทุน แรงงานต่างด้าว ระบบขนส่งและศุลกากร รัฐบาลต้องการผลักดันการกระจายอำนาจและเห็นความสำคัญของท้องถิ่นโดยจะช่วยดูแลเรื่องต่างๆ ให้

“บทบาทที่เพิ่มพูนและมีความสำคัญมากในส่วนขององค์กรปกครองท้องถิ่น ในภาวะของการเมืองที่ยังมีความขัดแย้งทางความคิดสูง ผู้บริหาร อปท.ทั้งหลายจะมีส่วนในการช่วยให้บ้านเมืองสามารถบริหารความขัดแย้งได้ ตนก็เห็นกับนายกเทศมนตรีทุกคนที่เป็นนักการเมืองในวิถีทางระบอบประชาธิปไตย และผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ผมคุยกับนายกเทศมนตรีท้องถิ่นท่านหนึ่งที่เข้ามาถามว่าเหนื่อยมั้ย ผมก็ตอบว่าคนเป็นนักการเมืองไม่เหนื่อยไม่มีหรอก นักการเมืองคนไหนที่ไม่เหนื่อยอีกไม่นานก็จะไม่ได้เป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้นผมทราบดีว่าปัญหาและอุปสรรคย่อมมี เป็นเรื่องปกติธรรมดาและนักการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตยย่อมมีทั้งคนที่ชอบ และไม่ชอบ มีคนที่เรียกว่าเป็นพรรคพวกหรือคู่แข่ง นักการเมืองทุกคนผ่านกระบวนการนี้ ยอมรับสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ผมไม่เคยคาดคั้นว่าคนในประเทศต้องคิดเหมือนและสนับสนุนผม แต่สิ่งที่ผมย้ำคือ ถ้าเราต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าและเป็น ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คนเราคิดเหมือนคิดต่างต้องอยู่ร่วมกันได้ และการอยู่ร่วมกันได้คือการเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน และปฏิบัติตามกฎกติกาของบ้านเมือง” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการรักษาความปลอดภัยในการประชุมครั้งนี้ซึ่งตรงกับวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็นไปอย่างเข้มงวดกว่าทุกครั้งที่นายกฯ เดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่เมืองทองธานี โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจากกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี 400 นาย เจ้าหน้าที่เทศบาล เทศบาลนครปากเกร็ด อพปร.จำนวน 60 นาย มารักษาความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ส่วนภายในอาคารมีการติดตั้งเครื่องสแกนตรวจจับวัตถุระเบิด 2 เครื่องที่ประตูทางเข้า-ออก

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อรับประทานอาหารเช้าและหารือกับคณะที่ปรึกษานายกฯ ด้วย ทั้งนี้มีรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ. นายกฯตัดสินใจมอบให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ มาปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ พล.ต.สนั่น แจ้งนายกฯว่า ไม่ว่างทำให้นายกฯต้องเดินทางมาเอง

กำลังโหลดความคิดเห็น