กกต.จัดสัมมนาผู้บริหารพรรค ชำแหละใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองเบิกจ่ายคล่อง แต่สอบตกเรื่องประสิทธิภาพและการตอบสนองผู้มีส่วนได้เสีย ชี้ควรเปลี่ยนสัดส่วนการจัดสรรเงิน ด้าน “เจ๊สด” แฉเองเจอกับตัว สาขาพรรคเป็นสำนักหมอดู ขณะที่เลขาธิการพรรคขัตติยะธรรม ฟิวส์ขาดจี้ กกต.ออกระเบียบจัดที่ทำการให้เหมาะสม โพล่งพรรคเสธ.แดงใช้ม่านรูดเป็นที่ทำการพรรค
วันนี้ (19 ก.พ.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดการประชุมผู้บริหารพรรคการเมืองและผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขึ้น เพื่อรายงานการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง ประจำปี 2551 ซึ่งดำเนินการประเมินผลโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ รศ.ดร.วัชรียา โตสงวน อาจารย์ผู้วิจัย เสนอตามรายงานการประเมินผลระบุว่า ในปีงบประมาณ 2551 กองทุนพัฒนาพรรคการเมืองได้รับงบประมาณ 189 ล้านบาท แต่จัดสรรให้พรัรคการเมืองจำนวน 109 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการดำเนินการในส่วนของค่าบริหารกองทุนฯ โดยคณะนักวิจัยเห็นควรมีการปรับปรุงสัดส่วนของเงินบริหารจัดการกองทุนร้อยละ 40 เนื่องจากขาดการประเมินประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ยังพบว่า พรรคการเมืองมีประสิทธิภาพมากในการใช้จ่ายเงินมากสามารถใช้ได้เกือบหมดตามโครงการที่ขอมา มีเงินเหลือจ่ายเพียง 10% แต่เมื่อตรวจสอบลงลึกยังพบปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพและตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียได้ค่อนข้างน้อย ขณะที่ในเรื่องการพัฒนาศักยภาพสาขาพรรคการเมือง ส่วนของสำนักงานใหญ่พบว่ามีการดำเนินการค่อนข้างดี แต่สาขาพรรคบางแห่งยังมีความอ่อนแอ มีปัญหาเรื่องการใช้จ่ายภายในสำนักงาน และที่ตั้งสำนักงานสาขามีจำนวนมากที่อยู่ในที่ไม่เหมาะสม เช่น อยู่รวมกับที่พักอาศัย หรือสถานประกอบการ
อย่างไรก็ตาม คณะผู้วิจัยยังเห็นว่า ควรเปลี่ยนสัดส่วนการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับจำนวน ส.ส. ทำให้พรรคเล็กได้รับการจัดสรรน้อย มาเป็นการใช้ตัวชี้วัดพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง อาทิความพร้อมของสำนักงาน บุคลากรและสารสนเทศ รวมถึงควรให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองที่ มีแผนกลยุทธ์ และสำนักงาน กกต. ต้องเปลี่ยนสภาพจากการควบคุมมาเป็นพี่เลี้ยงคอยอำนวยความสะดวก
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า พ.ร.บ.พรรคการเมืองฉบับปัจจุบันมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย เหมือนเดินไปก็มีกับระเบิดอยู่ข้างทาง การจะดำเนินงานให้ราบรื่นจึงต้องศึกษากฎหมายให้รอบคอบ กกต.ไม่อยากให้ยุบพรรคจากการสะดุดข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากที่เคยไปตรวจเยี่ยมสาขาพรรคในต่างจังหวัดของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งที่ใช้หอพักเป็นที่ทำการ ปรากฏว่ากลายเป็นสำนักหมอดู เมื่อสอบถามก็ได้รับคำตอบว่าไม่เคยมีการดำเนินกิจกรรมการเมืองใดๆ เลย มีแต่รับดูหมอเท่านั้น ขณะที่บางสาขาพรรคเจ้าหน้าที่ไปตรวจก็มารายงานว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบ แถมไล่ให้กลับโดยเอาปืนมาขู่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแสดงความเห็นและซักถามนั้น เมื่อ กกต.ระบุว่าที่ทำการพรรค และสาขาพรรคควรเป็นสถานที่ที่เหมาะสม ปรากฏว่า นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ เลขาธิการพรรคขัตติยะธรรม ที่มี “เสธ.แดง” หรือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เป็นที่ปรึกษา ได้เสนอว่า กกต.ควรออกกฎระเบียบเรื่องที่สถานที่เหมาะสมให้ชัดเจน จะมาบอกว่าเป็นดุลพินิจของพรรคไม่ได้ เพราะอย่างพรรคขัตติยะธรรมมีที่ทำการอยู่ที่โรงแรมราชา โดยทางเจ้าของสถานที่ก็อนุญาตให้ใช้ ซึ่งโรงแรมนี้ก็เป็นโรงแรมม่านรูด ดังนั้นคำว่าเหมาะสมควรจะออกระเบียบมาเลยว่าเหมาะสมอย่างไร