“ณัฐวุฒิ” นำ ส.ต.อ.ขึ้นเวทีเสื้อแดงหน้า กกต. อ้างเป็นญาติ “ประจวบ สังข์ขาว” พยานปากเอกคดี ปชป.รับเงิน 258 ล้านจากทีพีไอ โวย กกต.เชื่องช้า เดาล่วงหน้าไม่ยุบ ปชป. ซ้ำลามปาม “ป๋าเปรม” ไม่หยุด ขู่ 17 ก.พ.แฉเอกสารรับเงินซ้ำ มั่วนิ่มประธานองคมนตรีต้องผิดเหมือน"สมัคร"ทำกับข้าวออกทีวี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีชุมนุมของคนเสื้อแดงหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นคนสุดท้าย โดยได้มีการเปิดตัว ส.ต.อ.ทชภณ พรหมจันทร์ โดยอ้างว่าเป็นคนที่มีความสนิทกับนายประจวบ สังข์ขาว และเป็นผู้พานายประจวบเข้าร้องเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์รับเงิน 258 ล้านจากทีพีไอกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ)
ส.ต.อ.ทชภณ กล่าวว่า ตนเป็นญาติกับนายประจวบ สังข์ขาว พยานปากเอกในคดีดังกล่าว โดยนายประจวบให้ความเคารพตน แต่เมื่อนายประจวบมีปัญหาเดือดร้อนเรื่องเงินจึงได้มาปรึกษากับตนและเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เจ้านายในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยให้ความช่วยเหลือ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจึงพานายประจวบไปร้องเรียนต่อดีเอสไอ ซึ่งนายประจวบยืนยันกับตนว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงไม่มีการบิดเบือน โดยที่ตนต้องมา กกต.วันนี้ก็เพราะ กกต. เชื่องช้าในการพิจารณารู้สึกหมดหวังกับการทำงาน กกต. และคิดว่าคงไม่มีการยุบพรรคประชาธิปัตย์
ด้าน นายณัฐวุฒิได้ปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ต่อเนื่องจากแกนนำเสื้อแดงคนอื่นๆ โดยอ้างว่าในวันที่ 17 ก.พ.นี้ จะแถลงแสดงหลักฐานว่า พล.อ.เปรม รับเงินจากกลุ่มทุนอีกหลายแห่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี รับเงินจากการทำอาหารทางรายการโทรทัศน์มีความผิด ดังนั้น การที่ประธานองคมนตรีรับเงินจากกลุ่มทุนก็มีความผิดเช่นกัน
เมื่อนายณัฐวุฒิปราศรัยเสร็จสิ้นก็ได้ประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 19.30 น. โดยไม่ได้มีการนัดชุมนุมในครั้งต่อไป
อนึ่ง การที่นายณัฐวุฒินำกรณีนายสมัครรับเงินจากการทำอาหารทางรายการโทรทัศน์ไปเปรียบกับการที่ พล.อ.เปรม รับเงินจากกลุ่มทุนนั้น เป็นการจงใจให้เกิดความเข้าใจผิดว่า พล.อ.เปรม ก็มีความผิดเช่นเดียวกับนายสมัคร ทั้งที่ข้อเท็จจริงมีความแตกต่างกัน เนื่องจากนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังไปรับจ้างเอกชนเอาประโยชน์เข้าตัวเอง ซึ่งทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ พล.อ.เปรมไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมือง และยังต้องดูรายละเอียดด้วยว่าเงินที่นายณัฐวุฒิอ้างว่า พล.อ.เปรมรับจากกลุ่มทุนนั้นได้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่