รองนายกฯ ด้านความมั่นคง เตรียมเสนอ ครม.ตั้งกก.ติดตามสถานการณ์แดง ให้อำนาจใช้ดุลพินิจเพื่อออก กม.พิเศษได้ทันท่วงที ปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน จัดกำลังพลทั้งพลเรือน-ทหารเป็นผู้ช่วยตำรวจเพื่อเสริมทีมได้ทันที
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมฝ่ายความมั่นคงที่กองบัญชาการกองทัพบกว่า ได้มีการประเมินด้วยความเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ต้องมีอุปสรรค เกิดความเสียหายต่อประเทศ จึงได้กำหนดมาตรการในการที่จะป้องกัน ป้องปรามเหตุร้ายให้มีโอกาสน้อยที่สุดที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการป้องกันนี้จะทำหลายระดับ ตั้งแต่เฝ้าระวังสถานที่ราชการ โดยจะแบ่งเป็นในส่วนของกทม.และต่างจังหวัด ซึ่งใน กทม.นั้นได้ให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.เป็นผู้รับผิดชอบจัดกำลัง ตั้งจุดตรวจค้นอาวุธต่างๆ และให้มีการจัดชุดลาดตระเวนตรวจสถานที่สำคัญ ซึ่งอาจจะต้องใช้กำลังมาก เนื่องจากต้องจัดจำนวนหลายจุด ดังนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่พลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหารไปเป็นเจ้าพนักงานผู้ช่วยตำรวจด้วย
นายสุเทพกล่าวต่อว่า สำหรับในต่างจังหวัดนั้น ได้มอบให้แม่ทัพภาค และผอ.กอ.รมน.ภาคและผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดไปดำเนินการจัดทำแผนป้องกันรักษาสถานที่ราชการต่างๆ ในลักษณะเดียวกัน สำหรับบุคคลสำคัญก็จะจัดกำลังดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น นอกจากนี้จะให้มีฝ่ายคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายติดตามดูแลพฤติกรรมของบุคคลต่างๆ ถ้ามีใครที่กระทำการใดๆ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที แม้ว่าการดำเนินคดีนั้นบางอย่างอาจจะมีขั้นตอนที่ยากลำบาก เช่น การจะเข้าไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ต้องไปขอหมายศาลก่อน ซึ่งกว่าศาลจะออกใบอนุญาตให้ได้ก็ต้องมีพยาน หลักฐานต่างๆ ชัดเจน แต่เราก็จะพยายามทำ เพราะเป้าหมายเราคือต้องการป้องปราม
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติให้เลขาธิการสภาความมั่นคง เสนอต่อนายกฯ ในการประชุม ครม.พรุ่งนี้ (16 ก.พ.) ให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์โดยมีตน ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงเป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วย รมว.กลาโหม และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ รวมถึง ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.และอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้อง ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา และสามารถที่จะเรียกให้ส่วนราชการต่างๆ รายงานความสำเร็จ ความก้าวหน้าที่ได้กำหนดไว้ตามแผนดังกล่าว โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำงานเฝ้าระวังทุกเรื่องและติดตามสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ไม่มีระยะเวลากำหนด
“คณะกรรมการชุดนี้จะดูทั้งหมด รวมถึงการพิจารณาสถานการณ์นั้นๆ ว่าจำเป็นที่จะประกาศใช้กฎหมายพิเศษด้วย ถ้ามีสถานการณ์ที่คณะกรรมการชุดนี้เห็นว่า ไม่สามารถใช้กฎหมายธรรมดาได้ ก็จะเป็นผู้นำเสนอต่อ ครม.ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายสุเทพกล่าว
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้จะเน้นในเรื่องของการป้องกันเป็นสำคัญ และหวังว่าเราจะสามารถป้องกันเหตุได้ และถ้ามีกรณีการชุมนุมกันและมีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนห้ามพกอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น ให้มีเพียงอุปกรณ์ในการควบคุมฝูงชน เช่น โล่ กระบอง และหมวกเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นรถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา ซึ่งถ้าจะใช้ก็ต้องใช้ตามความจำเป็นและตามกฎของหลักสากล
เมื่อถามว่าในการขอกำลังพลเรือนและทหารมาช่วยจะเริ่มเมื่อไหร่ นายสุเทพกล่าวว่า แล้วแต่ฝ่ายนครบาลจะร้องขอไป