“ป๊อก” คำราม “แดงถ่อย” ต้องชุมนุมเรียบร้อย ไร้รุนแรง พร้อมกำชับ จนท.อดทนหากถูกม็อบยั่วยุ เผยกองทัพปรับแผนใช้ทหารตรึงเข้มรอบพระนคร ขณะที่ รองนายกฯ “สุเทพ” เตรียมเรียกประชุม กอ.รมน. 25 พ.ย.นี้ เพื่ออนุมัติแผน “ศอ.รส.” ดูแลความสงบ หวั่นผู้หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ป่วน
วันนี้ (24 พ.ย.) พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการในการดูแลรักษาความเรียบร้อย ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.นี้ ว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เป็นประธานในการประชุมปรับรายละเอียดในการเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อย ภายหลังจากที่ครม.มีมติประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงเต็มพื้นที่กรุงเทพ ทำให้ทางกอ.รมน.ต้องมีการปรับแผน และปรับกำลังใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ เพราะจากเดิมมีการประกาศเฉพาะเขตดุสิต และเขตพระนครเท่านั้น
พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม พล.อ.อนุพงษ์ ได้เน้นย้ำในภาพรวมว่า ในการชุมนุมทั้ง 2 สถานที่ คือ กรุงเทพและเชียงใหม่นั้น จะต้องไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้ให้เกิดความสงบเรียบร้อย และถึงแม้จะมีการยั่วยุใดๆ ขอให้เจ้าหน้าที่มีความอดทน นอกจากนี้ท่านยังกำชับว่า เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ใช้อาวุธในการดูแลรักษาความสงเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่จะไม่นำอาวุธออกไปปฏิบัติหน้าที่ โดยจะมีเพียงโล่ และกระบองในการป้องกันตัวเท่านั้น ส่วนการชุมนุมที่ จ.เชียงใหม่นั้น แม้จะไม่มีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว ซึ่งหากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอก็สามารถร้องขอให้กำลังทหารไปช่วยดูแลในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานได้
พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 15.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง จะเรียกประชุมคณะกรรมการกอ.รมน. โดยจะมีผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่ออนุมัติตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) และอนุมัติแผนการปฏิบัติของศอ.รส. ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่ใช้ในการปฏิบัติการ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากว่า ต้องใช้เจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อดูแลทุกพื้นที่ ซึ่งจะมีการแบ่งพื้นที่ให้แต่ละหน่วยรับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อย เพราะมีพื้นที่สำคัญที่ต้องดูแลมากขึ้น โดยอาจจะมีการใช้เจ้าหน้าที่จากหน่วยทหารในพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียงมาช่วยเสริม หากกำลังในพื้นที่กรุงเทพฯไม่เพียงพอ ส่วนในเรื่องของมือที่ 3 นั้น เราได้ระมัดระวังและเป็นห่วง เพราะอาจจะมีผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้
ด้าน พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ จะชุมนุมต่อต้านการลงพื้นที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และการชุมนุมคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเขาต้องการชุมนุมในกรุงเทพมากกว่า จ.เชียงใหม่ แต่เราไม่ได้ประมาท เพราะในพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมเต็มที่ที่จะเข้าไปช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน และ ตนได้ประสานงานกับทาง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตลอดเวลา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการลอบสังหารนายอภิสิทธิ์นั้น พล.ท.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า เราได้มีการเพิ่มความระมัดระวังอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ไม่พบเบาะแสการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆที่มาก่อเหตุ โดยเฉพาะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในกองทัพภาคที่ 3 เข้มงวดในการตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาร่วมชขุมนุม แต่ตนคิดว่า ไม่มีการลักลอบเข้ามา ส่วนจะมีว่าจ้างหรือชักชวนเข้ามาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า วันที่ 28 พ.ย.นี้ เกรงหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะลักลอบเข้ามาในประเทศไทย พล.ท.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน โดยหากเข้ามาจริงน่าจะเดินทางมาทางอื่น