xs
xsm
sm
md
lg

“เทพเทือก” เรียก ผบ.เหล่าทัพ หารือแผนรับมือแดงถ่อย จับตา 30 พ.ย.ดาวกระจุยเผาเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
“เทพเทือก” เรียก ผบ.เหล่าทัพถก กม.มั่นคง รับมือ “แดงถ่อย” ชง ครม. ประกาศเฉพาะบางพื้นที่ใน กทม.-เชียงใหม่ พร้อมสั่งจับตา 30 พ.ย.นี้ เสื้อแดงดาวกระจุยป่วนบ้านเผาเมืองทั่วกรุง เผยหน่วยความมั่นคงไม่เห็นด้วย ประกาศใช้ กม.ใน จ.เชียงใหม่ หวั่นกระทบการท่องเที่ยว ชี้หากทำควรใช้ระยะสั้น แค่ 3 วัน ขณะที่หน่วยข่าวระบุแผนเสื้อแดงใช้ ส.ส.1 คนต่อมวลชน 1,000 คน ป่วน “มาร์ค” ลงพื้นที่เชียงใหม่

วันนี้ (23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบกได้มีการประชุม ผบ.เหล่าทัพ (นัดพิเศษ) โดยมี พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะประเด็นการประกาศของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการจะล้มล้างรัฐบาลให้ได้ภายในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ยังประเมินถึงกลุ่มมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย หลังจากนั้นจะนำข้อมูลรายละเอียดเสนอให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงต่อไป

จากนั้นในเวลาต่อมา นายสุเทพได้เรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงมาที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อหารือสถานการณ์การชุมนุม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ พร้อมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) เพื่อรับทราบรายละเอียดข้อมูลนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจประกาศพระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) บังคับใช้ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ ที่ศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริ พล.อ.ทรงกิตติ ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมหน่วยงานความมั่นคงวันนี้ ผู้บัญชาการเหล่าทัพมีทำหน้าที่ในด้านต่างๆ และได้เสนอแนะรัฐบาลให้ดำเนินการเรื่องอื่นๆอย่างเต็มที่ ส่วนงานด้านการรักษาความมั่นคงภายในตามนโยบายรักษาความมั่นคงภายใน ซึ่งการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีในการต้องพิจารณา ด้านกองทัพมีหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ส่วนความจำเป็นที่จะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงใน จ.เชียงใหม่ ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีจะหารือเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยงานราชการทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม มีงานที่รับผิดชอบของหน่วย ขอให้ทำตามบทบาทอำนาจหน้าที่

“ขอเรียนว่าระยะเวลาช่วงนี้เป็นเวลามหามงคล ซึ่งประชาชนคนไทยทั้ง 66 ล้านคน ทราบว่าควรจะทำอย่างไร และควรจะสนองอย่างไร คิดว่าประชาชนทุกคนทราบ และควรทำในสิ่งที่ดีในห้วงเวลาอันเป็นมงคล เชื่อว่าเวลาข้างหน้านี้ประชาชนทุกคนจะร่วมกันทำในสิ่งที่ดีงาม คนไทยทุกคนทราบและเข้าใจบทบาทหน้าที่อย่างดี รู้สิ่งที่จะต้องทำร่วมกัน เราจะยืนอยู่อย่างนี้จะทะเลาะให้ต่างชาติเห็นอีก 10-20 ปี หรือ ขณะนี้ถึงเวลาเหมาะสมแล้ว เราควรทำอย่างไรทุกท่านมีวิจารณญาณ ทำให้สิ่งที่ดีเพื่อลูกหลาน อย่างไรก็ตาม การดูแลความสงบเรียบร้อย กองทัพมีหน้าที่เตรียมมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คลื่นวิทยุชุมชน 92.5 เมกะเฮิรตซ์ จ.เชียงใหม่ ประกาศว่าหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไป จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ เพื่อประชุมหอการค้า จ.เชียงใหม่ ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจะระดมพลขับไล่ จนถึงการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีนั้น ล่าสุดทางรัฐบาลแสดงความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี จึงอยากให้มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 28-29 พ.ย.นี้ เพราะเกรงว่านายกรัฐมนตรีจะได้รับอันตราย แต่เบื้องต้นทางหน่วยงานด้านความมั่นคงได้หารือก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่เห็นด้วยที่จะให้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเห็นว่า จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยว หากประกาศแล้วจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมร่วมระหว่างนายสุเทพและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่กองบัญชาการกองทัพบก ที่ประชุมได้ข้อสรุปเสนอให้คณะรัฐมนตรีประกาศพื้นที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในบางพื้นที่ของ จ.กรุงเทพมหานคร และ จ.เชียงใหม่ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ เสนอให้ประกาศในพื้นที่เขตดุสิต และ 2 แขวง คือ แขวงบางขุนพรหม ในเขตพระนคร และแขวงวัดโสมนัสในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งใช้ระยะเวลาประกาศในกรุงเทพระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 14 ธันวาคมนี้ โดยหน่วยงานด้านการข่าวรายงานที่ประชุมว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้น่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 40,000 คน ซึ่งหน่วยข่าวแจ้งเตือนให้ระวังเป็นพิเศษในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ที่กลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางดาวกระจายไปตามจุดต่างๆ เบื้องต้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ พร้อมกำลังสนับสนุนในที่ตั้งจำนวนทั้งสิ้น 86 กองร้อย โดยพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านพักสี่เสาเทเวศร์

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงใน จ.เชียงใหม่ ที่ประชุมหน่วยงานความมั่นคง ได้ข้อสรุปว่าควรจะประกาศในบางตำบล ในเขตที่ตั้งโรงแรมที่ทำการประชุมหอการค้า ซึ่ง นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยจะหารือเกี่ยวกับแผนการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ต่อไป สำหรับห้วงเวลาประกาศใน จ.เชียงใหม่ จะเสนอให้ประกาศแค่ 3 วัน คือระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายนนี้ โดยหน่วยข่าวแจ้งว่ามีการกำหนดให้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือจัดคนมาร่วมชุมนุม 1,000 คน ต่อ ส.ส.1 คน ซึ่ง ส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือมีทั้งหมด 34 คน เมื่อผสมกับเครือข่ายของแนวร่วม นปช. อีกประมาณ 4,000 คน ทำให้เสื้อแดงตั้งเป้าระดมคนเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 38,000 คน ขณะที่หน่วยข่าวทางทหารเชื่อว่ากลุ่มเสื้อแดงจะมาสามารถเกณฑ์คนมาเพียง 5,000 คนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่

ด้าน พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาประชุมสภาหอการค้าที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ ว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ยังไม่ได้มีการประชุมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันที่นายกฯจะเดินทางมาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่ทางหน่วยงานมั่นคงจะดูแลให้เต็มที่อยู่แล้ว ทั้งนี้ ทางด้านข่าวกรองยังไม่มีรายงานถึงแผนการลอบสังหารนายกฯ มีแต่ข่าวที่ลงตามสื่อที่เป็นแค่ข่าวปล่อย ข่าวโคมลอย อย่างไรก็ตาม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยังไม่ได้มีการสั่งการพิเศษอะไร แต่ตนได้กำชับให้หน่วยทหารในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไม่ประมาทและให้ดูแลอย่างดี และขณะนี้ได้สั่งการเบื้องต้นให้ทหารได้เตรียมกำลังพร้อมอยู่ในที่ตั้ง หากมีการประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เราก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ อย่างไรก็ตามต้องดูสถานการณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น