xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” โชว์บื้อ! ร่ายยาวป้องคดียึดทรัพย์แม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกพรรคเพื่อไทยออกโรงประจานความโง่เขลาเบาปัญญา ร่ายยาวหวงทรัพย์แทน “พ่อแม้ว” เลือดขึ้นหน้าซัด “แก้วสรร” ใช้สมองส่วนไหนคิดทฤษฎีวัวกินหญ้าต้องยึดวัวทั้งตัว จี้ “มาร์ค-เทือก” รับผิดการเมืองล้วงลูกโผ ตร.ตามสูตร ขู่ยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ฐานละเว้น เดินสายเรียกร้อง “มาร์ค” เลิกเป็นเด็กเลี้ยงแกะ

วันนี้ (14 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการ คตส.ออกมาพูดถึงทฤษฎี “วัวกินหญ้าต้องยึดวัวทั้งตัว” ว่า ไม่รู้ว่านายแก้วสรรเอาสมองส่วนไหนคิด เพราะไม่มีหลักฐานทางกฎหมายรองรับและไม่สมเหตุสมผล เหมือนศรีธนญชัยกลับชาติมาเกิด เพียงเพื่อต้องการโยงไปถึงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ รัฐบาลยังใช้สื่อของรัฐชี้นำไปในทำนองเดียวกันเสมือนว่าจะรู้คำตอบในคดี พรรคเพื่อไทยจึงขอตั้งข้อสังเกตว่า 1.กระบวนการยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มจากการใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจแล้วออกกฎหมายพิเศษตั้งผู้ที่เป็นปฏิปักษ์มาดำเนินการ จึงไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยและขัดต่อหลักกหมายสากล 2.หุ้นที่ขายให้กับกองทุนเทมาเสคนั้นเป็นหุ้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้มาจากการดำเนินธุรกิจ โดยสุจริตก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3.ไม่มีกฎหมายห้ามการขายหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณให้กับบุตรและญาติ เมื่อดำเนินการโดยถูกต้องตามกฎของตลาดหลักทรัพย์ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าสู่การเมือง ต้องถือว่ากรรมสิทธิ์ในหุ้นโอนไปเป็นของผู้ซื้อตึ้งแต่วันที่ซื้อขายแล้ว

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า 4.พ.ต.ท.ทักษิณแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.หลายครั้ง มีการตรวจสอบและรับรองโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งไม่ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นดังกล่าวอีกต่อไป 5.การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาหุ้นเป็นไปตามกลไกของตลาด ไม่เกี่ยวกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี 6.หุ้นที่ขายให้กองทุนเทมาเสคกับหุ้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณขายไปก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นหุ้นตัวเดียวกันเพียงแต่มีการลดมูลค่าหุ้นลง ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้มาจากการเป็นนายกรัฐมนตรี 7.กระบวนการตรวจสอบของ คตส.ขัดต่อหลักความเป็นกลางและหลักนิติธรรม เพราะตั้งบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์เป็นกรรมการ คตส. และ 8.การใช้ประกาศคปค.มายึดทรัพย์ขัดต่อหลักความเสมอภาค เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หลังยึดอำนาจมีพ.ร.บ.ประกอบรัฐฑรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ประกาศใช้อยู่แล้ว การออกประกาศ คปค.มาใช้กับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการเฉพาะจึงทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ดังนั้นหวังว่าศาลจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะผดุงความเป็นธรรมและช่วยให้สังคมเกิดความสงบสุข โดยตัดสินคดีไปโดยสุจริต ยุติธรรม ปราศจากอคติทั้งปวง

นายพร้อมพงศ์แถลงถึงกรณีการซื้อขายตำแหน่งในข้าราชการตำรวจว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานพบว่า มีนักการเมืองใหญ่ “ส.” และ “ศ.” เข้าไปเกี่ยวข้องเกือบทุกกองบัญชาการ เป็นการทำลายตำรวจที่ดีมีผลงาน สร้างวัฒนธรรมที่เลวร้ายให้กับวงการตำรวจ โดยตำรวจที่เสียเงินไปกับการซื้อขายตำแหน่งย่อมต้องหาวิธีถอนทุนคืน ทั้งนี้ การที่ไม่มี ผบ.ตร.ตัวจริงทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติขาดผู้นำและเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ถูกแทรกแซงได้ง่าย ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงต้องรับผิดชอบในฐานะผู้กำกับดูแล โดยในวันที่ 16 ก.พ. เวลา 10.00 น. ตนและทีมกฎหมายจะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นายสุเทพในฐานะประธาน ก.ตร.จะปฏิเสธความรับผิดชอบทางการเมืองไม่ได้ ส่วนนายอภิสิทธิ์นั้นในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานกตช. ตนจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อไป นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศแสดงพลังปกป้องสถาบันของตนเอง ให้ปราศจากการแทรกแซงของนักการเมืองและผู้บังคับบัญชาบางคนที่แสวงหาผลประโยชน์และอำนาจ

นายพร้อมพงศ์แถลงถึงกรณี นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงเส้นทาง 3 ช่องทางการเงินสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขอท้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ให้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น เพราะรัฐบาลมีเครื่องมือที่จะตรวจสอบมากมาย สามารถจับกุมได้ไม่ยาก อย่าเล่นละครเพื่อใส่ร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงและโยงมาถึงพรรคเพื่อไทย 1 ปีที่นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศ นอกจากจะไม่สามารถสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นตามที่แถลงนโยบายไว้แล้ว ยังสร้างความแตกแยกให้ขยายวงกว้างในสังคมออกไปอีก เท่ากับเป็นการประจานความล้มเหลวของตัวเอง ดังนั้นในวันที่ 15 ก.พ. เวลา 10.00 น.ตนจะไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเตือนสติว่า ขณะนี้ต่างชาติกำลังมองรัฐบาลว่า เป็นเด็กเลี้ยงแกะแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น