นายกฯ มั่นใจ “พาณิชย์พระนคร” ไม่ใช่เป้าถล่ม เชื่อแค่หวังสร้างข่าวรายวัน ไม่หวั่นเหตุรุนแรงเพราะคาดหมายไว้แล้วตั้งแตช่วงกลางเดือน ก.พ.ไปจนถึง มี.ค. ยันไม่ถึงเวลางัด กม.พิเศษบังคับใช้ การันตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ทำงานเป็นเอกภาพ ไม่มีเกียร์ว่าง
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่สวนหลวง ร.9 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานเหตุลอบปาระเบิดเข้ามายังบริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร แขวงดุสิต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.แล้ว ขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ ซึ่งข้อสันนิษฐานต่างๆ เจ้าหน้าที่กำลังดูรายละเอียดของอาวุธที่ใช้และสถานที่ ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่กำลังดูวิถีของระเบิดอยู่ เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในช่วงนี้ด้วยจะแก้ไขอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 22.00 น.เศษ ซึ่งในเวลาดังกล่าวไม่มีคนอยู่ ก็แสดงว่าคงเป็นการมุ่งเพื่อให้เกิดเป็นข่าว อย่างที่ตนเคยบอกไว้ จึงต้องทำให้เข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้นอีก และถ้าตรวจสอบได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นก็ต้องเร่งดำเนินการ
เมื่อถามว่าในทางการข่าวมีเบาะแสอะไรมาก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตัวพาณิชย์พระนครคงไม่น่าจะเป็นพื้นที่เป้าหมาย แต่กรณีของทำเนียบรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น เป็นเรื่องที่เราทราบอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะดูแลการเล่นสงครามประสาทที่ใช้วิธีการก่อเหตุเป็นจุดๆ อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราต้องไม่หวั่นไหว และยังยืนยันเหมือนเดิมว่าคนที่พยายามก่อเหตุวุ่นวายหรือความรุนแรง จะไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น อยากจะให้ใครก็ตาม ซึ่งมีปัญหาต่างๆเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เป็นวิถีทางเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยเหตุด้วยผล
เมื่อถามว่าสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นจะพิจารณาใช้กฎหมายพิเศษหรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่พิจารณานำกฎหมายพิเศษมาใช้ แต่เราก็ได้เตรียมการทั้งหมดเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลก็จะต้องเข้มข้นขึ้น
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากเกิดเหตุการณ์อย่างนี้หลายๆ จุดพร้อมกันจะเป็นการสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราติดตามอยู่ตลอดเวลา เพราะว่ามีเรื่องข่าว ที่เกี่ยวข้องกับคนที่พยายามเคลื่อนไหว รวมทั้งการเคลื่อนไหวใต้ดินที่ตนเคยบอก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็มีการติดตามอยู่ตลอด ซึ่งก็เป็นความพยายามและเป็นเป้าหมายของคนบางกลุ่ม ที่จะทำให้รัฐอยู่ในภาวะล้มเหลวในการดูแลความสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของกองกำลังต่างชาติและกองกำลังติดอาวุธได้มีการตรวจสอบหรือยังในเรื่องความเคลื่อนไหวต่างๆ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่เรามีข่าวสารและการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ อย่างเช่น เรื่องของอาวุธ เรื่องของเงิน ก็จะมีการติดตาม และเท่าที่ตรวจพบความผิดปกติต่างๆก็ไม่ได้เกินการคาดการณ์ที่ได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในเดือน ก.พ.นี้และต่อเนื่องถึงเดือน มี.ค.ก็จะมีความพยายามเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ดูแลและขอความร่วมมือประสาน เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว รวมทั้งการไหลเวียนของเงินจากธนาคารต่างๆด้วย
เมื่อถามว่าขณะนี้การปฏิบัติงานทั้งฝ่ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เมื่อถามย้ำว่าปัญหาที่ตำรวจปล่อยเกียร์ว่าง อย่างกรณีเหตุการณ์ เม.ย.52 จะยังมีอยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรายืนยัน เพราะได้มีการประชุมร่วมกันทุกหน่วย ก็มีความเข้าใจกันดี มีการแบ่งหน้าที่กันทำ