“สุเทพ” เผยถกด่วนฝ่ายความมั่นคงวานนี้ รับมือ “ปลวกแดง” จ่อป่วนชาติ สั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดเตรียมพร้อมป้องกันสถานที่ถูกยึด ยันจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ วอนชาวบ้านเป็นหูเป็นตา ลั่นถ้าพบติดอาวุธเมื่อไหร่เจอดีแน่ ยันถ้านักโทษไม่มาติดคุกก็เจรจากันยาก สั่งแม่ทัพภาค 2 ต้อนรับ “ฮุนเซน” เยือนพระวิหารตามปกติ แต่จะอ้างเป็นดินแดนตนไม่ได้ บอกสื่อจุ๊ๆ อย่าเพิ่งกระพือข่าว หวั่นกระทบสัมพันธ์คน 2 ชาติ ยัน “มาร์ค” จะไปเยือนพื้นที่บ้างก็ไม่มีปัญหา แต่เดี๋ยวขอพาไปแทนเอง วอน “วีระ” อย่าเพิ่งชุมนุม ยังไม่พบพา “แม้ว” มาด้วย
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเรียกฝ่ายความมั่นคงหารืออย่างเร่งด่วนในช่วงค่ำวันนี้ (4 ก.พ.) ว่า เป็นเรื่องที่เราไม่ประมาท เมื่อทางฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินสถานการณ์เรียบร้อย แผนงานในการรับมือสถานการณ์ ได้เรียนนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องในสภาความมั่นคง จะได้รับทราบสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร แก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร เตรียมการแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร โดยสรุปประเมินว่า เมื่อคนที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เมืองดูไบกลับมาก็คงเตรียมการที่จะเคลื่อนไหว ซึ่งถ้าการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกติกาของกฎหมายบ้านเมืองตามปกติ ก็คงไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าการเคลื่อนไหวนั้นมีเจตนาที่จะสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนให้เกิดขึ้น รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งในส่วนของฝ่ายความมั่นคงได้กำหนดเป้าหมายไว้ว่า เราจะต้องดำเนินการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ดูแลให้การใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชนดำเนินการไปได้ ดูแลให้พี่น้องประชาชนสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ สามารถรับบริการจากรัฐตามปกติได้ ส่วนที่เขาจะชุมนุมประท้วง ก็ต้องไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เศรษฐกิจค้าขายเดินไปได้ เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายทั้งตำรวจ พลเรือน ทหาร ต้องบูรณาการกำลังกัน
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ในส่วนจังหวัดต่างๆผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสามารถสั่งการส่วนราชการทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือนให้ดูแลรักษาสถานที่ราชการ กิจการสาธารณูปโภคทั้งหลาย สถานีวิทยุโทรทัศน์ เส้นทางคมนาคม ไม่ให้ใครก่อเหตุเหล่านี้ โดยให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจในการสั่งการแก้ไข ป้องกันปัญหา ในส่วนของ กทม.จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักและให้เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ กทม. เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ในขณะเดียวกัน พร้อมจะรายงานสถานการณ์ให้พี่น้องประชาชนทราบทุกระยะ ทั้งนี้ตนขอความกรุณาให้พี่น้องประชาชนลุกขึ้นมาแสดงความเป็นเจ้าของประเทศให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ถ้าเห็นอะไรที่ไม่ชอบ ไม่งาม ไม่ถูกต้อง ขอให้ช่วยทักท้วงผู้คนทั้งหลาย อย่าได้ดำเนินการให้เกิดเหตุเพศภัยต่อบ้านเมือง และขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตา
ขณะที่กรณีการจัดตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงกองกำลังติดอาวุธจะเข้าข่ายกบฏในราชอาณาจักรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนยังติดตามอยู่ เฉพาะพูดก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าจะมีการจัดตั้งกองทัพประชาชนขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธจริงก็ต้องดำเนินการ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีจริงแต่เป็นการกล่าวอ้างว่าเป็นมือที่สาม มือที่สี่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่เป็นไร ใครก็ตามที่ทำความผิดต้องดำเนินคดีทั้งนั้น เมื่อถามว่าที่ประชุมความมั่นคงมีการประเมินสถานการณ์ว่าจะมีเหตุบานปลายหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราไม่ได้ประเมินว่าจะลุกลามบานปลายขนาดไหน แต่เรามีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยปกป้องประชาชนให้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าจะมีการชุมนุมวันไหน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้ประเมินว่าจะชุมนุมใหญ่หรือไม่วันไหน แต่ต้องเตรียมพร้อม เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้เหมือนเป็นการข่มขู่คุกคามบีบคั้นให้เจรจาภายในเดือนกุมภาพันธ์ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องเจรจาเป็นเรื่องที่มีได้ แต่ที่ไม่ไปเจรจาด้วย เนื่องจากทราบดีว่าเงื่อนไขเขาต้องการไม่ติดคุก ไม่ถูกยึดทรัพย์ ได้สิทธิทางการเมืองคืนกลับมา ซึ่งไม่ใช่เงื่อนไขที่เราจะเจรจาได้
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อน โดยเราจำเป็นต้องให้สมช.ทราบและต้องดูแล ถ้าดูแลไม่ดีจะทำให้สถานการณ์มีปัญหา เหมือนเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ภายในประเทศของเรา ในชั้นนี้ได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่บริเวณชายแดน และแม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลให้การต้อนรับตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า รัฐบาลสามารถดูแลแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ เราจะต้องช่วยกันทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ เศรษฐกิจดีขึ้นคลี่คลายขึ้น บ้านเมืองสามัคคีกันเราจะฝ่าฝันเรื่องเหล่านี้ไปได้ ส่วนกรณี สมเด็จฯ ฮุนเซน เข้ามาในช่วงจังหวะจะกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ทางการข่าวมีการประเมินอย่างไรนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เราไปทำนายทายทักอะไรมากไม่ได้ เราแจ้งไปยังกัมพูชาว่า เราไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขึ้นตามแนวชายแดน ขอให้ใช้ความระมัดระวัง ไทยมีจุดยืนตั้งแต่ต้นแล้ว แม้ว่าจะมีเรื่องที่ไม่ลงลอยเข้าใจกัน แต่ไม่ทำอะไรให้เกิดปัญหากับประชาชนที่หากินตามแนวชายแดน
เมื่อถามว่า การเปิดโอกาสให้ผู้นำกัมพูชาตรวจเยี่ยมกำลังพลพื้นที่แนวชายแดนอาจทำให้รู้สึกว่าเขามาแสดงสิทธิเหนือปัญหาอยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า นั่นคือเหตุผลที่ต้องเตรียมการดูแลต้อนรับ ยอมรับว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่กรณีพิพาท แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมาอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตนเองเท่าที่ยังไม่ตกลงให้เรียบร้อยไม่ได้ เมื่อถามว่า การข่าวรายงานหรือไม่ว่ามีกี่จุด นายสุเทพกล่าวว่า มีหลายจุด จำได้ว่ามี 3 จังหวัด เป็นชายแดนที่ติดกันหลายจังหวัดในพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณที่มีกรณีพิพาท ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ เมื่อถามว่า จะกระทบต่อกรณีพิพาทด้วยหรื่อไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราต้องดูแลระมัดระวังไม่ให้เป็นปัญหาลุกลามใหญ่โต ได้เตือนกัมพูชาไปแล้ว เมื่อถามว่า ทางการข่าวมีรายงานหรือไม่ว่า ทางกัมพูชาจะพา พ.ต.ท.ทักษิณ ลงพื้นที่ด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่มีรายงาน เมื่อถามว่าจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาของคณะกรรมการปักปันเขตแดน (เจบีซี) หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เวลาที่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันก็มีผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น ต้องค่อยๆ แก้ เมื่อถามว่านายวีระ สมความคิด แกนนำภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร จะนำมวลชนขึ้นไปเขาพระวิหารเนื่องจากไม่ต้อนรับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายสุเทพกล่าวว่า ขอความกรุณาอย่าทำอะไรให้สถานการณ์มันยุ่งยากอีกเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลแก้ไข ทุกอย่างไม่ออกไปนอกทางที่ควรจะเป็น ตนเชื่อว่าหากมีหลายฝักหลายฝ่ายมากเกินไปจะอันตราย
ทั้งนี้ ตนคงไม่ลงไปต้อนรับสมเด็จฯ ฮุนเซน ยกเว้นว่า นายกฯ จะสั่ง ซึ่งตนก็ไม่วิเศษขนาดที่หากลงไปจะลดระดับความร้อนแรงลงได้ระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่ายได้ แต่ที่พูดไปเพื่อรักษาไมตรีกัน วิธีปฏิบัติดูแลมีผู้ว่าฯ แม่ทัพ เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ เมื่อถามว่า จะอธิบายคนไทยอย่างไรในขณะที่คนไทยรู้ว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนแต่ทางสมเด็จฯ ฮุนเซน กลับเดินทางลงพื้นที่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าเราอย่าไปกระพือเรื่อง เดี๋ยวจะเกิดความรู้สึกร้าวฉานระหว่างประชาชน บางทีเขามีสิทธิตรวจเยี่ยมทหารที่ชายแดน และเราก็มีสิทธิตรวจเยี่ยมทหารตามแนวชายแดนเหมือนกัน แต่ไปคนละเวลาก็แล้วกัน เมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน จะลงพื้นที่กี่วัน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ข่าวระบุว่าวันที่ 6-7 ก.พ. เนื่องจากเราไม่ได้เป็นคนออกกำหนดการณ์ให้เขา ไม่ได้ประสานกัน แต่พูดจาให้ทราบ เมื่อถามว่า มีโอกาสหรือไม่ที่นายกฯ อภิสิทธิ์จะลงไปเยี่ยมพื้นที่เช่นเดียวกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าผู้สื่อข่าวอยากลงไปเดี๋ยวตนจะพาไป ทหารของเราขวัญกำลังใจดี เมื่อถามว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำจะให้นายกฯลงพื้นที่เยี่ยมทหารในเขตพื้นที่ทับซ้อนหรือไม่ นายสุเทพกล่าวปฏิเสธว่า ตนไปเองดีกว่า แต่ขออยู่ดูแลผู้สื่อข่าวที่นี่ดีกว่า(กล่าวพร้อมหัวเราะ) อย่างไรก็ตาม นายสุเทพเปิดเผยว่าสาเหตุที่มีการเรียกประชุม สมช.อย่างเร่งด่วนเมื่อค่ำวานนี้ เนื่องจากมีหลายคนไม่อยู่อาทิตย์หน้าจึงต้องเรียกประชุมด่วนไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วนอะไร