“ณัฐวุฒิ” แอบอ้างเครดิตเสื้อแดง แว้งกัดรัฐปูดข่าวท่อน้ำเลี้ยงหวังย่ำยีศักดิ์ศรี ไม่กลัวเหากินกบาลกล่าวหา “ป๋า” ประมุขระบอบอำมาตย์ ใกล้ชิดกับกลุ่มทุนรับผลประโยชน์ ควักเช็คคณะ 11 อ้างสั่งจ่ายตรง หวังใช้กลบกระแสสู้แล้วรวย เหน็บมาร์คถึงแก่กรรมทางการเมืองเรียบร้อยแล้ว ตีฝีปากเป็นแค่ฟอร์มาลีนแมน
วันนี้ (14 ก.พ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. แถลงถึงกรณีที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงเส้นทาง 3 ช่องทางสนับสนุนการเงินให้กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า รัฐบาลหวังที่จะทำลายความเชื่อมั่น ความชอบธรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการป้ายสีกลุ่มคนเสื้อแดงว่าเป็นเพียงผู้ชุมนุมรับจ้างหรือผู้หวังผลประโยชน์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่เรายืนยันมาตลอดว่าไม่เป็นความจริง รวมทั้งเรียกร้องขอหลักฐานจากรัฐบาลที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา การสู้รบกันของทั้ง 2 ฝ่ายล้วนต้องการชัยชนะและทิ่มแทงฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีการต่างๆ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันที่จะใช้สันติวิธี เปิดเผย ตรงไปตรงมาอย่างที่ลูกผู้ชายทำกัน ไม่มีหยิก ข่วน สร้างความเท็จมาทำลายกัน ดังนั้นหากรัฐบาลไม่มีหลักฐานจริงๆ ก็ขอให้พูดออกมาตรงๆ สังคมจะได้เข้าใจ
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ตนได้ติดตามเส้นทางการเงินของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในฐานะที่เป็นประมุขของระบอบอำมาตยาธิปไตยและพบว่า พล.อ.เปรมในขณะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้นได้มีความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลชั้นนำในสังคม และกลุ่มทุนรวมทั้งกลุ่มธุรกิจใหญ่ในประเทศไทยมากมาย หลายบริษัทหลายองค์กร พล.อ.เปรม ก็ยังดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้วย ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงเคยถามไปว่า ได้รับเงินเดือนจากตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่แต่ก็ไร้คำตอบ ดังนั้นวันนี้ตนจึงนำหลักฐาน มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนเพราะประชาชนต้องการคำอธิบายจาก พล.อ.เปรมว่า เงินดังกล่าวนั้นเป็นค่าอะไร และเหมาะสมหรือบังควรหรือไม่ต่อสถานะที่ พล.อ.เปรมดำรงอยู่ในปัจจุบัน
“พล.อ.เปรมคบหาผู้คนมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลุ่มทุนที่ใช้นามว่า คณะ 11 ประกอบด้วยบุคคลเช่น ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เทวา สตูดิโอ จำกัด, นายชาตรี โสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพ, ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เครือดุสิตธานี และนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผล ซึ่งจากความสัมพันธ์ตรงนี้ ผมได้สืบสาวลงไปจนพบข้อมูลว่า นางกัลยาณีซึ่งปัจจุบันได้มอบบทบาทให้กับทายาทดำเนินการในองค์กรแทนไปแล้วนั้น นางกัลยาณีได้จ่ายเช็คของธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมากให้กับพล.อ.เปรม ซึ่งไม่ทราบว่ามีการจ่ายแบบนี้มานานหรือยังรวมทั้งต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้หรือไม่ ซึ่งเช็คทั้ง 2 ใบนั้นสั่งจ่ายระบุชื่อพล.อ.เปรมใบละ 1.8 ล้านบาท โดยใบแรกคือเช็คเลขที่ 3745366 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2546 และใบที่ 2 คือเช็คเลขที่ 3748879 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2547 ซึ่งทั้ง 2 ใบถูกสั่งจ่ายจากบัญชีของนางกัลยาณี เลขที่ 1803028669” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พล.อ.เปรมมักจะเป็นประธานที่ปรึกษาขององค์กรคณะ 11 ซึ่งจากพื้นฐานนี้เข้าใจว่า พล.อ.เปรมก็น่าจะเป็นที่ปรึกษาของบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผลด้วย ดังนั้นจึงมีคำถามว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้รับเป็นค่าตอบแทนในฐานะที่ปรึกษาขององค์กรใช่หรือไม่ และถ้าใช่ก็ต้องถามว่า การสั่งจ่ายเช็คเหล่านี้จ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่และจ่ายให้จนถึงเมื่อไหร่ เพราะมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ 2 ใบรวมทั้งน่าจะมีจนถึงวันนี้ด้วยหรือไม่ เพราะหากเป็นรายรับของ พล.อ.เปรมในฐานะที่ปรึกษาของบริษัทแล้ว มีการดำเนินการทางภาษีอย่างไร สั่งจ่ายภาษีตามกฎหมายในฐานะผู้มีเงินได้หรือไม่อย่างไร และถ้าไม่ใช่ค่าที่ปรึกษาก็ต้องถามว่าเป็นค่าอะไร ซึ่งในฐานะประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น ไปรับเงินจากบริษัทเอกชนที่มีเป้าหมายแสวงหากำไรได้หรือไม่ เหมาะสมและบังควรหรือไม่อย่างไร
“มีข้อสังเกตว่า เมื่อพิจารณาจากยอดเงินของเช็คทั้ง 2 ใบนั้น เหมือนกับกรณีของยอดเงินที่นายประจวบ สังข์ขาว เคยถอนเงินแล้วหิ้วไปให้ผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งละ 1.8 ล้าน 1.9 ล้านบาท ที่นายประจวบจงใจหลีกเลี่ยงการถอนเงินเกิน 2 ล้านบาทที่ต้องแจ้งต่อปปง. ดังนั้นการที่นางกัลยาณีจ่ายเช็คจำนวน 1.8 ล้านบาทนั้น เป็นเหตุผลเดียวกันด้วยหรือไม่ และถ้าใช่ก็แสดงว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ปิดบังอำพรางใช่หรือไม่” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พล.อ.เปรมที่สร้างภาพสมถะมาตลอด พักอาศัยในบ้านหลวง ค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องจ่าย ชีวิตดูสุขสบาย มีค่าตอบแทนจากการเป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตามที่กฎหมายกำหนดแล้วยังต้องการเงินไปทำอะไรอีก ไม่เพียงพอตามที่เคยประกาศยึดแนวทางพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรืออย่างไร วรรคทองที่ พล.อ.เปรม ระบุตลอดก็คือ เกิดมาต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดินนั้น ประเมินตัว พล.อ.เปรมได้ว่ามีความยึดมั่นกตัญญู ตอบแทนผู้มีบุญคุณ ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่า เมื่อนางกัลยาณีมอบเงินจำนวนมหาศาลนี้ให้ ถือว่ามีบุญคุณต่อกัน แล้วมีแนวทางที่จะทดแทนบุญคุณนี้อย่างไร
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ขอถามถึงองคมนตรีทั้งหลายว่า ถึงวันนี้ยังไม่คิดจะแสดงท่าทีหรืออธิบายความอันนำมา ซึ่งความเข้าใจของคนไทยทั้งประเทศอีกหรือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ครอบครองที่ดินป่าสงวนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัจจุบันกรมป่าไม้ยึดที่ดินคืนไปแล้ว และพล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ที่สร้างบ้านรุกล้ำบึงน้ำสาธารณะของหมู่บ้านปัฐวิกรณ์ 2 นั้น คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรได้ทำหนังสือเชิญให้มาชี้แจง พล.อ.พิจิตรก็ได้ทำหนังสือมาชี้แจงว่า เพื่อป้องกันคนภายนอกมาตกปลา เหตุผลนี้ออกมาจากคนที่เป็นองคมนตรีได้อย่างไร รวมทั้งพล.อ.เปรมที่มีหลักฐานว่า ได้รับเงินจากกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่นั้น ขอถามองคมนตรีทั้งหลายว่า จะไม่พิจารณาเรื่องนี้และแสดงหลักคิดหรือแนะนำความคิดต่อสังคมในเรื่องเหล่านี้บ้างหรือ
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลสนใจที่จะให้หน่วยงานใดมาตรวจสอบก็หยุดสร้างเรื่องเท็จ เพื่อทำลายกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วเอาความจริงมาสู้กัน หรือว่ารัฐบาลไม่สนใจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ สังคมถามมาตลอดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไปเอาเงินมาจากไหน แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกสู้แล้วรวย คนเสื้อแดงถูกหาว่าเป็นม็อบรับจ้าง ดังนั้นวันนี้ประชาชนธรรมดาอย่างพวกตนจะพูดว่า “ใหญ่แล้วรวย” บ้างจะว่าอย่างไร และเรื่องนี้หวังว่าจะไม่เงียบหายลับไปกับสายลม เพราะสังคมต้องได้รับคำชี้แจงที่พอรับฟังได้ โดยเฉพาะจากพล.อ.เปรม
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วันนี้หมดราคา สิ้นภาวะความเป็นผู้นำไปแล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีมา 1 ปีมีแต่ข่าวทุจริตของคนในรัฐบาล มีรัฐมนตรีในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องออกจากตำแหน่งด้วยข้อหาทุจริตไปแล้วถึง 3 คน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการใช้งบในหน่วยงานความมั่นคงอีก มติของ ก.ตร.ก็หักหน้านายอภิสิทธิ์อยู่ทุกวัน ไม่เหลือภาวะความเป็นผู้นำแล้ว มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ชีวิตส่วนตัวก็เผชิญกับเหตุการณ์สารพัดรูปแบบ
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่มีคนขับรถยนต์พยายามปาดเข้าไปขบวนของนายกรัฐมนตรีถึง 2 ครั้ง รวมทั้งเหตุการณ์ปาอึเข้าไปในบ้านพักของนายกรัฐมนตรีนั้น ทำให้วันนี้บ้านพักของนายกรัฐมนตรีถูกเรียกว่าเป็น“บ้าน 4 ถุง”เท่าจำนวนของกลางไปแล้ว นอกจากนี้ บ้าน 4 ถุงที่มีการกั้นตาข่ายสูงเหมือนสวนนกนั้น ในประเทศไทยบ้านที่มีสภาพแบบนี้มีเพียงบ้าน 4 ถุงกับบ้านพระอาทิตย์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ขอถามว่า ผู้นำที่อยู่ในสภาพนี้ยังอยู่ได้อีกหรือ นายอภิสิทธิ์ถึงแก่กรรมทางการเมืองไปนานแล้ว แต่ที่อยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะอำมาตย์ฉีดฟอร์มาลีนให้จึงดูสดใส ดูใหม่อยู่ วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่เป็นฟอร์มาลีนแมนที่ทำงานอยู่ในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรับบาล อยากให้คุยกับตัวเองว่า ควรออกจากตำแหน่งก่อนที่จะเน่าเฟะไปมากกว่านี้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า รถยนต์ที่พยายามปาดเข้าขบวนของนายกรัฐมนตรีนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นรถของกลุ่มคนเสื้อแดง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แท็กซี่ที่มาร่วมต่อสู้กับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นมีจำนวนมาก แต่เราไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปตรวจสอบ คนเขาควรหมั่นไส้ว่า เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ชอบธรรม แล้วยังทำงานอะไรไม่ได้อีก ส่วนกรณีที่มีการมองว่า เป็นแผนของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อสร้างความปั่นป่วนนนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราถูกกล่าวหามาตลอด ซึ่งหลายเรื่องก็ไม่เป็นความจริง รัฐบาลต้องนักเลง สู้แบบสุภาพบุรุษหน่อย สู้กับคนเสื้อแดง แต่ใช้วิธีสีม่วงแบบนี้มันใช้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิได้นำสำเนาเช็ค 2 ใบที่มีการระบุชื่อผู้สั่งจ่าย ชื่อผู้รับ ชื่อธนาคาร เลขที่เช็ค เลขที่บัญชี และจำนวนเงินที่ชัดเจนมาประกอบการแถลงข่าวด้วย