“หญิงหน่อย” ตีหน้าเศร้า!! ตกใจ!! เสียใจ!! “เฉลิม” ด่า ยันหนูไม่รู้ ไม่ได้ชักใยดัน “วิชาญ” นั่งนายกฯ ย้ำยุ่งการเมืองไม่ได้แค่เอาใจช่วยห่างๆ ขอร้อง อย่าเอาไปเป็นเหยื่อ!! ไม่เคยทำอะไรลับหลัง จี้ศาลคดียึดทรัพย์ “พี่แม้ว” ต้องอธิบายสังคมได้ ออดอ้อนรัฐให้ร้ายอีกฝ่ายเสียหาย ก่อนหลบไปหม่ำข้าวร่วมก๊วน - “สุรพงษ์” คาด ยื่นซักฟอกหลังแดงถ่อยก่อม็อบเสร็จ อ้างหวังรัฐยุบสภาก่อน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แถลงข่าว
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่โรงแรมโซฟิเทล เซนทาราแกรนด์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงข่าวถึงกรณีความขัดแย้งกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง ประธานส.ส.พรรค เพื่อไทยว่า ตนรู้สึกตกใจ และเสียใจ เมื่อเห็นข่าวที่อีกฝ่ายหนึ่งระบุถึงตน พร้อมยืนยัน ไม่ได้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย เพื่อปูทางก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือผลักดันคนใกล้ชิดอย่างนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตนไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลที่จะสามารถผลักดันใครได้ และทุกวันนี้ ก็ต้องยอมรับสภาพ ที่ตกเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมืองได้ แต่ก็ยังเอาใจช่วยพรรคเพื่อไทยอยู่ห่างๆ และไม่อยากให้ตัวเองไปเป็นปัญหากับพรรค
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงของเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ดังนั้น อย่ามายุ่งกับตนอีกและไม่ได้ให้ความสำคัญกับบุคคลดังกล่าว จึงไม่จำเป็นต้องไปขัดขวาง และเรื่องการเสนอตัวหน้าพรรค ก็เป็นเรื่องของผู้บริหารพรรคเพื่อไทยที่จะพิจารณา อย่างไรก็ดีเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากจุดเล็กๆ ที่ ส.ส.กทม. ของพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งตอบคำถามนักข่าวเรื่องความเหมาะสมของคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
“รู้สึกตกใจ และเสียใจมาก ถ้าเราทำจริงก็เป็นอีกเรื่อง แต่ก็โดนแรงซึ่งดูได้จากชื่อสุดารัตน์ เฉยๆ แต่ถูกเปลี่ยนเป็นจุด จุด จุด สุดารัตน์ ใครโดนก็คงรู้สึก ดิฉันขอร้องอย่าเอาไปเป็นเหยื่อ เพราะไม่ได้ทำเพื่อต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่สามารถเป็นได้ ข่าวที่ว่าจะดันคุณวิชาญ (มีนชัยนันท์) ก็ไม่สามารถทำได้ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่ ส.ส.เพื่อไทยมาคุย พูดแต่เรื่องส่วนรวม คุยเฉพาะเรื่องในพื้นที่ และให้กำลังใจ ไม่ได้ให้ร้ายใคร ไม่คิดเสนอหน้า เสนอแนะพรรคเพื่อไทย เสนอใครเป็นนายกฯ แม้เป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่เคยทำอะไรลับหลัง” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวถึงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าในฐานะคนไทยก็รู้สึกเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่หนักใจกับสภาพบ้านเมืองที่เป็นอยู่ เพราะการตัดสินคดียึดทรัพย์ก็เป็นปัจจัยทางการเมืองที่สำคัญ จึงอยากให้มองส่วนรวมเป็นที่ตั้ง และการตัดสินควรเป็นไปด้วยความยุติธรรมอย่างแม้จริง ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด จะต้องอธิบายต่อสาธารณชนได้ ทั้งหลักของกฎหมายและหลักยุติธรรม แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งผู้ที่ชื่นชอบและไม่ชื่นชอบ จึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่าย ใช้เหตุผลเอาสติและผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง จึงจะฝ่าวิกฤตไปได้ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงต้องไม่ตกเป็นเหยื่อใช้ความรุนแรง ขณะที่รัฐบาลต้องไม่ใช้กำลัง เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย และเห็นว่าการปฏิวัติจะทำให้บ้านเมืองถอยหลังและตกอยู่ในหลุมดำ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า รู้สึกหนักใจกับการที่รัฐบาลไม่เป็นกลางมีการให้ร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้ความสามัคคีไม่เกิดขึ้น และเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการตามถ้อยแถลงต่อรัฐสภาในการเร่งให้เกิดความสมานฉันท์และความสงบสุขในบ้านเมือง จึงอยากให้รัฐบาลตั้งสติและมี วุฒิภาวะโดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าวเสร็จ คุณหญิงสุดารัตน์ได้ร่วมรับประทานอาหารกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชชยชัย น.ต.ศิธา ทิวารี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี นายสุธา ชันแสง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า วานนี้ (11 ก.พ.) ระหว่างการประชุมสภา ตน ร.ต.อ.เฉลิม และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ได้หารือกันนอกรอบที่รัฐสภาถึงแนวทางการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจและการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนอกสภา โดย ร.ต.อ.เฉลิม ได้คุยกับนายจตุพรและเข้าใจตรงกันคือ ร.ต.อ.เฉลิม เห็นว่าจะยื่นญัตติอภิปรายหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อน ไหวนอกสภาเสร็จสิ้น ซึ่งยังไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวจะจบลงเมื่อไหร่หรือการเคลื่อนไหวนอกสภา อาจทำให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออกไปก่อนก็ได้ ดังนั้นการที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม้ไว้วางใจรัฐบาลหลังการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้นจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ขัดกันเอง เนื่องจากหากยื่นญัตติอภิปรายต่อสภาตามกฎหมายแล้วรัฐบาลจะยุบสภาไม่ได้ คาดว่ากำหนดการที่พรรคเคยประกาศว่าจะยื่นญัตติในวันที่ 15 ก.พ.นั้นคงจะยังไม่มีการยื่น