ผอ.พรรคการเมืองใหม่ แจง “สนธิ ลิ้มทองกุล” ยื่นฎีการ้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กรณีนำคำปราศรัยของดา ตอร์ปิโด หมิ่นเบื้องสูงมาบอกกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ ตร.คำเนินคดี แต่กลับถูกสั่งฟ้อง ถือว่าไม่ชอบธรรม ต่างจากการยื่นขออภัยโทษเหมือนนักโทษหนีคุก
วันนี้ (7 ก.พ.) นายประพันธ์ คูณมี ผอ.พรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) แถลงชี้แจงกรณีถวายฎีกาขอความเป็นธรรมของนายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ว่า จากการที่นายสนธิเห็นว่าเขาถูกกลั่นแกล้งยัดเยียดข้อกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรมจากเจ้าพนักงานสอบสวน กรณีนำเรื่องการปราศรัยของนางดา ตอร์ปิโด อันเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรัชทายาท มาบอกกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี และอัยการได้มีคำสั่งฟ้องโดยไม่ชอบด้วยเจตนาด้วยการให้นายสนธิได้รับโทษโดยไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ เมื่อได้รับความเดือดร้อนไม่เป็นธรรม นายสนธิจึงได้ยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานความเป็นธรรมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ไปยัง ราชเลขาธิการ (นายอาสา สารสิน) และสำนักราชเลขาธิการราชเลขาธิการ อันถือได้ว่าเป็นฎีการ้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากการถูกกดขี่ข่มเหงและปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมายจากตำรวจ จากพนักงานอัยการ การถวายฎีกาไม่ใช่การถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษแต่อย่างใด เพราะนายสนธิยังไม่ได้ถูกฟ้อง และไม่มีคำพิพากษาลงโทษ
“การที่คนเสื้อแดงและสื่อเอาไปเสนอว่า เป็นการดำเนินการสองมาตรฐาน ถือเป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อน กรณีของนายสนธิเป็นการยื่นฎีการ้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรม ไม่ใช่การขออภัยโทษ เพราะปกติราษฎรมีสิทธิที่จะยื่นถวายฎีกา เช่น เดียวกับที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เคยยื่นฎีการ้องทุกข์ขอความเป็นธรรมมาแล้ว และนายสนธิก็เป็นผู้ลงนามฎีการ้องทุกข์ด้วยตัวเอง ไม่ได้ไปขอให้ใครมาร่วมลงชื่อ”
ขณะเดียวกัน การถวายฎีการ้องทุกข์ขอความเป็นธรรม เป็นสิทธิของราษฎรในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สามารถกระทำได้ด้วยตนเองอันเป็นไปตามราชประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามประเพณีการปกครองของไทยเมื่อได้ถวายฎีกาแล้ว ก็สุดแท้แต่พระราชวินิจฉัยจากพระมหากษัตริย์ที่จะโปรดพิจารณา
นายประพันธ์กล่าวว่า กรณีนายสนธิจึงแตกต่างโดนสิ้นเชิงจากการถวายฎีกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมิได้เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ไม่ชอบโดยประเพณีการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
“นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมเข้าต่อสู้คดีทุกเมื่อไม่เคยหลบหนีหากพนักงานอัยการเรียกตัวส่งฟ้องเมื่อใดก็พร้อมรายงานตัวต่อสู้คดี ด้วยเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมชั้นศาล ขอให้พนักงานอัยการปฏิบัติตามความยุติธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหาทุกคนโดยเท่าเทียมกันด้วย อย่าเลือกปฏิบัติ” นายประพันธ์กล่าว