xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้ตู่” ถีบส่ง “เสธ.แดง-พัลลภ” ปัดเอี่ยว “ปลวกแดง” ท้า “มาร์ค” ฟ้องหนีทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง
“จตุพล่าม” หาเรื่องอัยการ ซัดทำดองคดี “สนธิ” นำคำปราศรัย “ดา ตอร์ปิโด” พูด หมิ่นสถาบัน หลังถวายฎีกา ทำกระบวนการยุติธรรมเพี้ยน ลั่นจันทร์หน้าบุกถ่อยหน้าสำนักงาน ถามไม่สั่งฟ้อง “สุรยุทธ์” ฟันเขาสอยดาวอืด ถีบส่ง “พัลลภ-เสธ.แดง” ตั้งกองทัพเถื่อนไม่เกี่ยวเสื้อแดง โถพูดมาได้ “ทักษิณ” ไม่มีอำนาจสั่งหันซ้ายขวา ฉะ “เทพไท” ปูด “แม้ว” จ้าง 3 ล้าน ปาขี้ คนปัญญาอ่อนยังคิดไม่ได้ ไล่ไปจับคู่สาวเสื้อแดงแจ้งความนายกฯ ข่มขืน สาระแนเรื่องชาวบ้าน ซัด “มาร์ค” ลูกแหง่ให้พ่อจ้างยาม 3 แสนดูแล ท้าไปฟ้องหมิ่นหนีทหาร

วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่อัยการฝ่ายคดีอาญาออกมาระบุว่ายังไม่สามารถยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากนำคำปราศรัยของนางดารุณี เชิงชาญศิลปะกุล หรือดา ตอร์ปิโด ไปเผยแพร่ โดยให้เหตุผลว่ายังอยู่ในขั้นตอนการถวายฎีกา จึงต้องรอให้มีพระบรมราชวินิจฉัยเสียก่อนว่า ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ใช้เงื่อนไขถวายฎีกาในชั้นอัยการถ่วงคดีก่อนขึ้นศาล ซึ่งหากปล่อยให้เป็นอย่างนี้จะเกิดการเลียนแบบถวายฎีกาตั้งแต่ชั้นพนักงาน สอบสวน และจะทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศแปลกประหลาดไปหมด เพราะเป็นการเอาสถาบันอัยการไปปกป้องคนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นี่ไม่ใช่เรื่อง 2 มาตรฐาน แต่เป็นเรื่องที่ไร้มาตรฐาน เป็นการหาข้ออ้างเพื่อนายสนธิคนเดียว เพราะศาลสั่งจำคุกนางดารุณีไปแล้ว 18 ปี และตามกฎหมายตัวการกับผู้ร่วมดำเนินการมีความผิดเท่ากัน จึงกลัวที่เรื่องจะขึ้นถึงศาล จนต้องออกมาช่วยเหลือกัน และไม่ทราบว่าที่นายสนธิถวายฎีกาไป รัฐบาลได้ทำความเห็นประกอบแล้วส่งไปกรมราชทัณฑ์เหมือนฎีกาคนเสื้อแดงหรือไม่

นายจตุพรกล่าวว่า ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ ตนและคนเสื้อแดงจะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการ ถนนรัชดาฯ เพื่อไปตั้งเวทีปราศรัยทวงถามการทำหน้าที่ของอัยการ 3 เรื่อง คือ 1.กรณีที่อัยการไม่สั่งฟ้อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในการบุกรุกที่ป่าสงวนเขายายเที่ยง 2.เรื่องการรุกป่าเขาสอยดาว ที่ค้างอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ และ 3.การสั่งไม่ฟ้องนายสนธิในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ระบุการจัดตั้งกองทัพประชาชนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าการแสดงความคิดเห็นของ พล.อ.พัลลภ และพล.ต.ขัตติยะ ถือเป็นความเห็นส่วนตัวของบุคคลที่แสดงออกมา แต่หากพูดถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ขณะนี้คือกลุ่ม นปช. ที่มีพวกตนเป็นแกนนำ และมีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นประธาน การเคลื่อนไหวในรูปแบบใดจะเป็นการประชุมเพื่อขอมติการเคลื่อนไหวทุกอย่างต้องเป็นมติ นปช. พล.อ.พัลลภ และพล.ต.ขัตติยะ ไม่ใช่แกนนำ นปช. และไม่เคยเข้าร่วมประชุม รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่เคยสั่งการ นปช.ได้ หากมีการพูดจาก็เป็นเพียงเสียงหนึ่งที่เรารับฟังเท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งการให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวใดๆได้ ตอนนี้ตนยืนยันในฐานะแกนนำ นปช.ว่าคนเสื้อแดงมีจุดยืนในการเคลื่อนไหวในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยวิธี ที่สันติ ไม่ใช้ความรุนแรง และไม่มีแนวคิดในการเคลื่อนไหวโดยกองทัพประชาชน หากมีการเคลื่อนไหวอย่างไรจริงๆ เราก็จะแถลงจุดยืนที่ชัดเจน และเรื่องที่เกิดขึ้น พล.อ.ชวลิต ก็แถลงจุดยืนชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เขียนในทวิตเตอร์แล้วว่าเป็นการเตือนเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น จึงไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องกังวล

ทั้งนี้ แกนนำ นปช.ยังกล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าเหตุปาอุจจาระใส่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีการว่าจ้างกัน 3 ล้านบาท และให้ไปถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า การให้ค่าจ้าง 3 ล้านบาทเพื่อให้ไปปาอุจจาระบ้านนายกฯ เป็นคำพูดจาที่คนปัญญาอ่อนยังคิดไม่ได้ เพราะใครจะรวยขนาดจ้างคนไปปาของแค่นี้ด้วยเงิน 3 ล้านบาท และถ้ามีคนจ่ายเงินขนาดนั้นจริงน่าจะมีไปขว้างบ้านนายเทพไทด้วยเพื่อเป็นของ แถมจริงๆ แล้วนายเทพไทน่าจะไปจับคู่กับผู้หญิงที่แจ้งความว่านายอภิสิทธิ์ข่มขืนที่กองปราบฯ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะถือว่าพูดจาเหมาะสมกันมาก

นายจตุพรกล่าวอีกว่า สำหรับข่าวที่ระบุว่า ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดานายกฯจ่ายเงินส่วนตัวเดือนละ 3 แสนบาท เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้นายกฯ ว่า ตนภาวนาว่าคงไม่ใช่เรื่องจริง เพราะหากเป็นจริงก็ต้องถามว่าเงิน 3 แสนบาทนั้น เอาไปจ่ายให้ใครและเพื่ออะไร และหากจริงก็แสดงให้เห็นว่านายกฯ เมืองไทย ยังเป็นลูกแหง่ไม่รู้จักโต ยังต้องให้พ่อมาดูแล ลำพังแค่รับค่านายหน้าขายคอนโดฯ 2 เปอร์เซ็นต์จากพ่อก็อับอายขายขี้หน้าพอแล้ว ยังต้องให้พ่อมาจ่ายเงินเพื่อมาดูแลอีก ก็ถือว่าน่าเกลียด และอยากให้นายกฯ โตได้แล้ว สำหรับเรื่องข้อกล่าวหาที่ตนพูดตลอดว่านายอภิสิทธิ์หนีทหาร แล้วนายอภิสิทธิ์ท้าให้ไปพูดนอกสภาเพื่อจะได้ฟ้องร้องดำเนินคดีนั้น ตนได้ไปพูดที่หน้า บก.ทบ.แล้วอัดเป็นซีดีมาให้นายกฯ เรียบร้อยแล้ว จึงขอท้าให้นายกฯ ฟ้องตนได้แล้ว ทำได้ภายในสัปดาห์นี้ก็ยิ่งดี จะได้พิสูจน์ความจริงให้รู้ว่านายกฯ เมืองไทย คือชายไทยหนีทหาร แล้วเอาหลักฐานเท็จไปสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น