xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เย้ย “อ๋อย” สวมบทหมอดู เสี่ยงทายคดียึดทรัพย์ “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาธิต ปิตุเตชะ
“สาธิต” เปรียบการซื้อขายตำแหน่ง สตช.เหมือนเป็นมะเร็งร้าย จี้ คกก.สอบเร่งสางปมรีดไถ ยอมรับคุ้ยหลักฐานเหมือนคดีอาญาตามเช็ดยาก ตอกกลับ ทรท.ต้นต่อทำชาวระยองป่วยจากพิษมาบตาพุด เย้ย “จาตุรนต์” เล่นบทหมอดูทำนายคดียึดทรัพย์ “แม้ว” เสมือนดิสเครดิตตัวเอง

วันนี้ (7 ก.พ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งช่ติว่า ปัญหาดังกล่าวตำรวจถือเป็นมะเร็งร้าย และทำลายขวัญกำลังใจของผู้ทำงาน และมีผลกระทบรุงแรงกับประชาชนในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนขอให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการตรวจสอบการซื้องานตำแหน่ง ที่มี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เป็นประธาน แต่ตนอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบให้ความจริงปรากฎโดยเร็ว และเสนอว่าขั้นตอนการการสอบสวนเพื่อให้ข้อเท็จริงปรากฎ ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรฐาน การสืบหาพยานหลักฐานเหมือนคดีอาญา เพียงแต่มีพยานแวดล้อม หรือเชื่อได้ว่า ก็สามารถสรุปผลการตรวจสอบได้ เพราะเรื่องนี้หากจะใช้ได้ข้อมูลชัดแจ้งเป็นเรื่องอยาก เหมือนกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ที่ไม่สามารถตรวจสอบหาผู้ทำผิดได้

นายสาธิตกล่าวว่า กระบวนสืบหาข้อเท็จจริง ควรจะหาจากข้อมูล และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการเงิน ที่อาจจะมีการใช้ชื่อนอมินี หรือใกล้ชิด ที่ปรากฎตามสื่อ และขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีความผิดปกติว่ามาจากใคร

“คณะกรรมการต้องเร่งตรวจสอบให้เร็ว เพราะบางคนคิดว่าถูกโยกย้ายก็ไม่กลัวเพราะได้เงินมาแล้ว แต่เราจะหาหลักฐานพิสูจน์ยาก เพราะเป็นเรื่องของผู้ให้กับผู้รับ ขอให้กำลังใจตำรวจที่ต้องกล้าพูดความจริง อย่าไปกลัวผู้มีอำนาจหรือผู้บังคับบัญชาที่เลวทราม อยู่ในอำนาจไม่นาน เพื่อช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรตำรวจในระยะยาว”

นายสาธิตกล่าวถึงกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวหานายอภิสิทธิ์ไม่ได้แก้ปัญหามาบตาพุดอย่างจริงจัง ว่า ตนขอยืนยันในฐานะส.ส.ระยองว่า รัฐบาลได้จัดลำดับความสำคัญของปัญหาและมีการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง และนายกฯยังได้ยื่นเรื่องให้ศาลปกครอง เพื่อให้เอกชนขอสร้างโรง งานไปก่อน แต่หากภายหลังไม่ได้คุณภาพ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในมาตรา 67 วรรคสอง เอกชนก็ต้องรับความเสี่ยงไปเอง นอกจากนี้ รัฐบาลยังทุ่มประมาณ 877 ล้านบาท พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยทำโรงพยาบาล น้ำประปา ขณะเดียวกันคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ก็จะได้ข้อสรุปว่าโรงงานจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร โดยขณะนี้ผลการตรวจสอบดำเนินการไปได้ถึง 80-90 เปอร์เซนต์แล้ว

“ขอย้อนไปที่ น.อ.อนุดิษฐ์ ว่าปัญหามาบตาพุตเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ที่ไม่ได้แก้ปัญหา แต่กลับหมักหมมจนชาวระยองเป็นมะเร็ง ไม่ได้สร้างความชัดเจนในการขออนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองขึ้นมา ทำให้เราต้องมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง น.อ.อนุดิษฐ์ อย่ามาพูดซี้ซั้ว”

กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ออกมาทำนายว่าศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นการสร้างกระแสของรัฐบาล เพื่อปราบปรามประชาชนว่า นายจาตุรนต์เปลี่ยนจากนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาเป็นหมอดู ทำนายผลของการตัดสินของศาล ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยใช้ความรุนแรงปราบประชาชน ในทางกลับกันสังคมกลับต้องการให้รัฐบาลทำอะไรกับผู้ชุมนุม ขอให้นายจาตุรนต์ทบทวน เพราะการวิจารณ์ดังกล่าวทำให้เครติดของตัวเองลดลง สิ่งที่นายจาตุรนต์พุดมาทั้งหมดมีเรื่องดีอยู่เรื่องเดียว คือ การไม่เห็นด้วยให้มีกองทัพประชาชน หรือการปฏิวัติของประชาชน เพราะเป็นแนวทางที่สังคมไม่ยอมรับ


กำลังโหลดความคิดเห็น