xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เรียก ผบช.ทุกหน่วยชี้แจงกระบวนการตั้งรอง ผบก.-สว.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียก ผบช.ทุก บช.ชี้แจงการแต่งตั้งรอง ผบก.-สว.แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จะต้องมีการรื้อโผทำกันใหม่หรือไม่

วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมพิจารณาทบทวนการแต่งตั้งโยกย้ายระดับสารวัตร ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2552 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปและแจกจ่ายคำสั่งล่าสุดไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดให้ทุกคำสั่งของทุกหน่วยมีผลพร้อมกันในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ โดยการประชุมวันนี้มี พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงษ์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงษ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผู้บังคับการกองวินัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเชิญผู้บัญชาการ หรือตัวแทนจากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในหารทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย มาชี้แจง โดย บช.แรกที่เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ ได้แก่ ศชต. และ บช.สุดท้ายคือ บช.น.

มีรายงานว่า การประชุมวันนี้จะมีการพิจารณาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ตร.กำหนดหรือไม่ รวมทั้งกรณีที่ขอยกเว้นหลักเกณฑ์การได้รับการแต่งตั้งโดยยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่ครบ 2 ปี ที่คณะกรรมการชุดนี้เคยพิจารณาอนุมัติไปก่อนหน้านี้ด้วย จะมีการตรวจสอบว่าแต่ละหน่วยได้ดำเนินการตามที่อนุมัติไปหรือไม่

พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีบางกรณีที่การแต่งตั้งไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงกฎ ก.ตร. และหนังสือเวียนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะมีการเชิญ ผบช. หรือรอง ผบช. มาชี้แจงให้ข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องในการแต่งตั้ง ก่อนจะสรุปข้อมูลเสนอ รรท.ผบ.ตร.เพื่อจะได้มีคำสั่งตามที่เห็นสมควรต่อไป อย่างกรณี บช.ภ.2 ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นทาง ผบช.ภ.2 ได้เข้ามาชี้แจงแล้ว แต่เพื่อความชัดเจน จะเชิญ รองผบช.ทั้งหมดซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งมาชี้แจง ว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่ บช.อื่นๆ หากพบว่ามีปัญหาก็จะดำเนินการเช่นเดียวกัน

“ยกตัวอย่างนโยบายที่จะสนับสนุนหัวหน้าหน่วยที่พัฒนาปรับปรุงโรงพักตามโครงการโรงพักเพื่อประชาชน ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งเราจึงอยากจะสนับสนุนเขาให้ได้เลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ตามที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.เน้นย้ำมา หรือกรณีที่ให้การแต่งตั้งยึดหลักเกณฑ์อาวุโส 25 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนต้องได้หมด จะข้ามไม่ได้ หรือถ้าข้ามจะต้องมีเหตุผลอธิบายได้อย่างชัดเจน ทุกอย่างตรวจสอบได้ ส่วนที่เรียกแต่ละ บช.มาไม่ได้ต้องการจับผิดอะไร แต่ พล.ต.อ.ปทีป ต้องการให้การแต่งตั้งโยกย้ายเกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสมากที่สุด ไม่อยากให้มีการมาร้องเรียน หรือกล่าวหาอะไรกันภายหลัง” พล.ต.ท.เอก กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการชุดนี้มีความเกี่ยวโยงกับคณะกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งที่มี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีต รอง อ.ตร. เป็นประธานอย่างไร พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า คณะกรรมการชุดที่มีตนเป็นประธานได้รับการแต่งตั้งจาก พล.ต.อ.ปทีป ให้ตรวจสอบว่า การแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รอง ผบก.-สว.ซึ่งเป็นอำนาจของ ผบช.ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง หรือแนวทางของ ตร.ให้ไว้หรือไม่

เมื่อถามว่าคำสั่งแต่งตั้งออกไปแล้วการดำเนินเช่นนี้จะทำให้สังคมมองได้หรือไม่ว่า ตร.เข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้ง พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ไม่มีประเด็นนั้น แต่การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการแต่งตั้งครั้งแรกภายหลังจากมีโครงสร้าง ตร.ใหม่ จึงมีตำแหน่งเกิดใหม่เยอะ มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายในปริมาณที่มากผิดปกติ ขณะเดียวกัน ระเบียบกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการแต่งตั้ง ไม่สอดรับกับโครงสร้างใหม่ บางหน่วยก็มีตำแหน่งว่างมากทำให้ต้องมีการโยกย้ายจากหน่วยหนึ่งไปอีกหน่วยหนึ่ง ประกอบกับแนวทางของ รรท.ผบ.ตร.ต้องการสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เป็นสาเหตุที่ต้องตรวจสอบให้ดี โดยคิดว่า ทางตร.จะดำเนินการให้เสร็จอาจจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม เพราะอยู่ในช่วงเวลาที่แก้ไขได้ หากมีความผิดพลาดบกพร่อง มั่นใจว่า วันที่ 16 ก.พ. คำสั่งจะมีผลและข้าราชการตำรวจจะไปปฎิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน

ต่อข้อถามว่าจะต้องให้เสร็จก่อนการประชุม ก.ตร.วันที่ 12 ก.พ.นี้หรือไม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงบางอย่างต้องขออำนาจจาก ก.ตร. พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า ถ้ามีเงื่อนไขว่า ต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบก็ต้องนำเข้าที่ประชุมก.ตร.และจะพยายามพิจารณาให้แล้วเสร็จในวันนี้

เมื่อถามว่า คำสั่งแต่งตั้งได้ออกไปแล้ว จะกลับมาพิจารณาใหม่ได้หรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า เราไม่ได้พิจารณาคำสั่ง คำสั่งยังคงเดิมอยู่ เพียงแต่แต่งเติมแก้ไข ตรวจสอบ บางที่ที่ไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ตราบใดที่ยังไม่ถึงวันที่ 16 ก.พ. ก็สามารถแก้ไขได้ ถึงแม้คำสั่งมีผลไปแล้วก็ถอนได้

“เรื่องนี้ไม่อยากให้มองว่าเป็นการล้วงลูก เป็นการตรวจสอบภายในของเราเอง เพื่อให้มีความเป็นธรรม ซึ่ง รรท.ผบ.ตร.เน้นย้ำกับคณะกรรมการชุดนี้ว่า การตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อความโปร่งใสเป็นธรรม” พล.ต.ท.เอก กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดนี้ เพื่อตรวจสอบว่าหน่วยต่างๆ ได้ดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างถูกต้องครบถ้วนและดำเนินการไปตามกระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ ส่วนคณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนั้น เป็นการตรวจสอบเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง แต่ทั้งหมดจะมาบรรจบกัน แต่ตอนนี้เราทำคู่ขนานกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดไม่ตรวจสอบก่อนที่จะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งออกมา พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ถ้าเราทำก่อนที่จะประกาศคำสั่งออกมาก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะยังไม่มีคำสั่ง เราก็ยังไม่รู้ตัวคนมารับตำแหน่ง และไม่ได้เป็นเพราะการเมืองส่งสัญญาณใดๆมา ตรงนี้เป็นเรื่องปกติที่ ตร.ต้องตรวจสอบทุกครั้งที่มีการแต่งตั้ง ตร.ต้องทำเช่นนี้ เป็นเรื่องปกติ ซึ่งทุกปีก็ทำเช่นนี้โดยสำนักงานกำลังพล ตนยืนยันได้ แต่ปีนี้ทำในรูปของคณะกรรมการ หากพบความไม่ถูกต้องในการแต่งตั้งเราก็ต้องแก้ไข และไม่ได้เป็นการเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้ง เพราะทุกปีหลังประกาศคำสั่งแต่งตั้งแล้ว ก็ต้องมีการตรวจสอบจากสำนักงานกำลังพล

“อยากจะบอกว่าเราต้องยึดหลักก่อนว่ากระบวนการแต่งตั้งถูกต้องหรือไม่ ถ้าตร.พบว่ากระบวนการแต่งตั้งไม่ถูกต้อง เขาก็ต้องไปดำเนินการแก้ไข ถ้าผบช.ทำไม่ถูกต้อง เขาจะมีความผิดไหม ก็ต้องอีกประเด็นหนึ่ง ส่วน ผบช.ภ.2 ผมยังไม่ได้เรียกมาพูดคุย เพราะชุดนี้เราตรวจสอบเรื่องการทำตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง แค่ตรวจสอบกระบวนการก็เยอะพอสมควรแล้ว เพราะทั่วประเทศ ส่วนการซื้อขายตำแหน่งจะเป็นชุดของ พล.ต.อ.วสิษฐ หากเรียกผมไปให้ข้อมูล ผมก็ยินดี” รรทผบ.ตร.กล่าว

เมื่อถามว่า คณะกรรมการตรวจสอบของ ตร.จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการซื้อขายตำแหน่งได้ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า อย่าเอาคณะกรรมการทั้งสองชุดมาพันกัน คือ แยกกันทำ ทุจริตคือทุจริต กระบวนการแต่งตั้งก็คือกระบวนการแต่งตั้ง ส่วนเมือผลจะเป็นอย่างไร แนวทางจะเจอกันอย่างไรก็ว่ากันต่อไป

ต่อข้อถามว่าหนักใจหรือไม่กับปัญหาการซื้อขายตำแหน่งใน ตร. พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ก็ไม่หนักใจ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องหนักใจอะไร สำหรับผู้ใต้บังคับบัญชา ใครไปทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร มีพยานหลักฐานก็ว่ากันไป ถูกก็ถูก ผิดก็ผิด ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
เมื่อถามว่าเกี่ยวกับข่าวซื้อขายตำแหน่ง มองว่าเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ เพราะเป็นช่วงที่จะมีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ไม่ได้คิด ถ้ากับตำแหน่ง ผบ.ตร. ตนเคยตอบไปแล้วว่า ถ้ามาถามตนนั้น ไม่สามารถตอบได้
กำลังโหลดความคิดเห็น