โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ปัดพรรครวมหัวพรรคร่วมทำสภาฯ ล่ม อ้าง ส.ส.หลายพรรคก็โดด เชื่อเตรียมกลับไปลงพื้นที่ “ลูกเฮียตือ” ไม่แคร์ล่มซ้ำซาก ชี้ไม่ได้มีลงมติรับรองกฎหมาย อ้างประชาธิปัตย์ก็หายจ้อย โยนเพื่อไทยไม่เสียบบัตรทำล่มครั้งล่าสุด แนะนับเรียงตัวในที่ประชุม
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่สภาล่มเป็นครั้งที่ 2 ว่า ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้เล่นเกมการเมือง เพราะหากเล่นเกมนี้พรรคร่วมเองจะเป็นฝ่ายขาดทุน เพราะประชาชนรับไม่ได้ ดังนั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเล่นเกม และหากสังเกตดูก็จะเห็นว่า ส.ส.ทุกพรรคก็ขาดองค์ประชุมเหมือนกัน ยืนยันว่าไม่มีการต่อรองในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน ซึ่งได้สอบถามวิปในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาได้รับการยืนยันว่า ก่อนสภาฯ ล่มก็ไม่มีวาระเรื่องที่ต้องลงมติ ดังนั้น ส.ส.ส่วนใหญ่ จึงเตรียมตัวลงพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นทางวิปกำลังพยายามหาทางแก้ไข
ด้าน นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล จากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ทุกพรรคแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ขาดการประชุมสภาในช่วงบ่าย เพราะวันนี้ไม่ได้มีการลงมติในกฎหมาย ส่วนที่ขอให้มีการนับองค์ประชุมในญัตติด่วนการตั้งกรรมาธิการเพื่อหามาตรการป้องกันการปฏิวัติและรัฐประหารของฝ่ายค้าน เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เสียบบัตรแสดงตนในที่ประชุมจึงทำให้สภาล่ม ดังนั้น การแสดงตนครั้งต่อไป ตนเห็นควรให้เจ้าหน้าที่นับจำนวน ส.ส.ที่มาร่วมประชุมแทนการให้เสียบบัตรจะดีกว่าการเสนอให้ขานชื่อรายบุคคล และยืนยันไม่ได้จ้องเอาคืนพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ร่วมญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะพรรคเองก็เข้าประชุมในสภา 7-8 คน
นายภราดรกล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะล่าชื่อเพื่อถอดถอน 102 ส.ส.ที่ยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถ้าพันธมิตรฯ เห็นว่าขัดต่อกฎหมายก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้ เพราะส.ส.ทั้ง 102 คนก็มีสิทธิที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่กฎหมายเปิดช่องได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ประธานรัฐสภาจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมรัฐบาล เสนอนั้นจะเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่