“อนุพงษ์” ย้ำ “ผบ.หน่วย” ไม่มีปฏิวัติ

“อนุพงษ์” รับรอง ผบ.หน่วยไม่มี “ปฏิวัติ” ย้ำไม่ใช่ทางออก ไปต่างประเทศ 5-14 ก.พ. มอบ “ประยุทธ์” ดูแลกองทัพ กำชับจับตาเดือน ก.พ.อย่างใกล้ชิด หลังศาลสั่งยึดทรัพย์ “ทักษิณ”

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกว่า ในที่ประชุม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ำให้ทุกหน่วยตระหนักถึงหน้าที่ของทหารในการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ในขณะเดียวกันสั่งการให้ผู้บังคับหน่วยสร้างความเข้าใจกับกำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไป ให้เห็นความสำคัญของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทุกฝ่าย ทุกคนควรให้ความเคารพ โดยเฉพาะสถาบันองคมนตรี กองทัพเป็นห่วงว่า มีความพยายามให้ร้ายต่อสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นองค์กรที่ใกล้ชิดต่อสถาบัน กองทัพบกจึงไม่สบายใจ

“ห้วงเวลาที่ผ่านมามีความพยายามจาบจ้วงสถาบันองคมนตรี ซึ่งกองทัพบกเห็นว่า การจาบจ้วงองคมนตรี เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ตามรัฐธรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 หมวด 2 มาตรา 13 ระบุว่า การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งเป็นไปตามพระราชอัธยาศัย ดังนั้น จึงเป็นการไม่สมควรที่จะมีการก้าวล่วง จึงจำเป็นที่กำลังพล และกองทัพบก ต้องใช้วาระและโอกาสต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนต่อเรื่องนี้ในทุกพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพราะกองทัพบกเห็นว่ามีความสำคัญ ไม่ได้มีสั่งมา” รองโฆษกกองทัพบกกล่าว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ผบ.ทบ.ยังได้กล่าวถึงการที่ทหารหลายหน่วยได้มีการแสดงออกไม่เห็นด้วยกับกำลังพลบางคนที่ไม่มีวินัยนั้น เป็นการแสดงออกที่สามารถดำเนินการได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและไม่ได้เป็นการเช็กกำลังเพื่อทำการปฏิวัติ ซึ่งทหารจะมีลักษณะการทำเป็นแบบแท็กทีมผนึกกำลัง ดังนั้น เมื่อส่วนไหนทำ ส่วนอื่นจะทำตาม อย่างไรก็ตาม ท่านขอให้การแสดงออกอยู่ในกรอบระเบียบวินัยเพื่อปกป้องสถาบันทหาร และคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งเรื่องระเบียบวินัย และการปฏิบัติตามสายบังคับบัญชาเป็นสิ่งที่ทหารทุกคนต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด และในปัจจุบันมั่นใจว่ากำลังพลของกองทัพบกทุกคนยังมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และเป็นทหารที่อยู่ในระเบียบวินัย จึงให้กองทัพบกยังคงเป็นสถาบันหลักของชาติที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ทุกหน่วยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับจุดยืนกองทัพบกยังคงเหมือนเดิม คือ จะดูแลให้ประเทศมีความเรียบร้อย ยืนยันว่าไม่มีการปฏิวัติ ส่วนการใช้เจ้าหน้าที่ทหารเพื่อปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบระลึกเสมอว่า ทุกคนเป็นคนไทย กองทัพไม่มีสี ไม่มีฝ่าย ยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก และจะป้องกันไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงต่อกัน เพื่อประคับประคองให้สถานการณ์ของประเทศผ่านพ้นสถานการณ์ต่างๆไปได้อย่างเรียบร้อย

เมื่อถามว่า เหตุใด พล.อ.อนุพงษ์จึงมีการพูดเรื่องปฏิวัติ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ท่านเล่าถึงสถานการณ์ต่างๆ ฟังในเรื่องที่ผ่านมาว่า มีเรื่องอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องประเทศ และทำให้สถานการณ์ประเทศมีความหวั่นไหว และมีความพยายามสร้างกระแสข่าวเพื่อให้สังคมเกิดความสับสน ในส่วนการปฏิวัติได้มีการชี้แจงหลายครั้ง วันนี้เป็นการชี้แจงให้ผบ.หน่วยได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง มีความพยายามจะสร้างให้เกิดข่าว เพื่อทำให้เกิดความหวั่นไหว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาต้องให้ความมั่นใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาในวาระที่มีการประชุมที่สำคัญๆ

เมื่อถามถึงกรณี ผบ.ทบ.มีกำหนดเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5-14 ก.พ.นี้ ตามคำเชิญอย่างเป็นทางการของกองทัพบกสหรัฐฯ และได้มีการประสานงานทางทหารไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่มีหลายฝ่ายกังวลว่า จะเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในช่วงที่ ผบ.ทบ.ไม่อยู่นั้น ท่านได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาตามสายบังคับบัญชาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.ให้ไปดูแล และบริหาราชการในช่วงที่ท่านไม่อยู่ ซึ่งเป็นไปตามสายบังคับบัญชาของกองทัพบก

“รับรองได้ว่าจะไม่มีการปฏิวัติ เพราะการทำงานของกองทัพบกภายใต้การดูแลของพล.อ.อนุพงษ์ การจะทำอะไรจะต้องมีการปรึกษาหารือกับนายทหารระดับ 5 เสือของกองทัพบก และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร ส่วนการใช้กำลังทหารเพื่อทำให้เกิดการพลิกผันทางการเมืองนั้น ตามนโยบายที่ชัดเจนของกองทัพบกเราไม่มีความตั้งใจที่จะทำแบบนั้น กองทัพบกจะประคับประคองให้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงวิกฤติในภายภาคหน้า ซึ่งทุกอย่างทำตามกรอบกฎหมายจะทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย” รองโฆษกกองทัพบกกล่าว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า หากมีการทำปฏิวัติสามารถตรวจสอบได้ง่าย เพราะการปฏิวัติสมัยนี้มีระบบสื่อสาร เทคโนโลยี การเคลื่อนกำลังพล รวมการเตรียมพร้อม ทุกคนก็เห็นและสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงกำลังพลมารถตรวจสอบการดำเนินการที่ขัดต่อนโยบายกองทัพบกได้ เมื่อ ผบ.ทบ.ที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพบกได้ลั่นวาจาในทุกวาระ ทุกโอกาสต่อหน้าสาธารณชนทุกครั้ง คงเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า กองทัพบกยังมีจุดยืนอย่างเดิม คือ ต้องการให้สถานการณ์แก้ไขด้วยสถานการณ์ การบริหารราชการของรัฐบาล การปฏิวัติไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงมีการกำชับให้กำลังพลดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ท่านได้ยึดหลักการวิเคราะห์ของหลายหน่วยงานที่ได้วิเคราะห์สถานการณ์ของประเทศในช่วงต่อไปนี้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทุกคนทราบดีว่า จะมีเหตุการณ์สำคัญๆ คือ มีการตัดสินคดี ถือเป็นช่วงที่ทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงกองทัพด้วย ทั้งนี้ เราต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องการดูแลหากได้รับมอบหมายจากรัฐบาลหรือตำรวจให้เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการปฏิบัติงาน ดังนั้นการดูแลให้ทุกอย่างมีความพร้อมในการปฏิบัติเป็นเรื่องสำคัญ จึงเป็นที่มาของการเตือนให้ทุกคนติดตาม ส่วนการเตรียมความพร้อมของกองทัพบก และกองอำนวยการักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และหน่วยงานความมั่นคงนั้น ผบ.ทบ.บอกในที่ประชุมว่า กองทัพบกได้มีการตระเตรียมข้อมูลและการปฏิบัติต่างๆไว้แล้ว ในส่วนของกองทัพภาคต่างๆ จะได้รับรู้รับทราบ และก็สามารถเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับส่วนกลางด้วย