“อนุพงษ์” ฮึ่ม ทหารนอกแถวต้องถูกลงโทษทางวินัยและ กม. กำชับทหารปฏิบัติหน้าที่ให้ดี ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ สมเป็นทหารพระเจ้าแผ่นดิน เชื่อ ทหารไม่ร่วมชุมนุมเสื้อแดงป่วนเมืองให้เสียบรรยากาศช่วงมหามงคล
วันนี้ (4 ธ.ค.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้พูดถึงสภาพสังคมไทยในปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงได้สั่งกำชับให้ผู้บังคับหน่วยให้ย้ำเตือนกำลังพลทุกระดับชั้นถึงบทบาทภาระหน้าที่ของกองทัพบกในฐานะที่เป็นทหารของชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินการใดๆ ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของชาติและของประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ให้ตรงกับคำขวัญที่ว่า “กองทัพบกเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน” นอกจากนี้ ให้ผู้บังคับหน่วยเสริมสร้างอุดมการณ์ให้กำลังพลย่างต่อเนื่อง เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความวิริยอุตสาหะ เพื่อให้กำลังพลเข้าใจและประพฤติปฎิบัติให้เป็นทหารที่ดี เป็นที่รักและศรัทธาของประชาชนตลอดไป
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมพูดถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ออกมาระบุว่าจะมีอดีตทหารพรานค่ายปักธงชัยร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารที่มีขึ้นในขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เชื่อว่ากำลังพลในกองทัพบกเป็นคนดี รู้จักวินัยและประพฤติปฏิบัติตนเป็นทหารที่ดี อาจจะมีบางส่วนที่มีความสับสนในข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ออกมา ซึ่งข้อมูลบางส่วนก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง
“ภาระหน้าของกองทัพบก คือ ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ดำเนินการเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง ใครที่ไปทำอะไรไม่ดีในส่วนของกองทัพบกก็ไม่เป็นที่ยอมรับและต้องถูกดำเนินการตามกฎระเบียบที่มีการวางไว้ ทั้งเรื่องของวินัยและตัวบทกฎหมาย เพื่อให้กำลังพลมีความยึดมั่นในแนวทางในการทำงานที่กองทัพบกได้มอบหมายและยึดมั่นตลอดเวลา” พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการสั่งห้ามกำลังพลที่จะร่วมการชุมนุมใช่หรือไม่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นบรรยากาศในวันมหามงคล เป็นบรรยากาศความสุขของประชาชนทั่วประเทศ กองทัพบกไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ และคิดว่าประชาชนและกำลังพลในกองทัพบกก็คิดเหมือนกัน เรื่องที่ทำให้เกิดความสับสนก็อยากให้มีการไตร่ตรองและตระหนักต่อผลที่เกิดขึ้น เพราะอาจจะไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง