xs
xsm
sm
md
lg

ลีลาผยอง “หลงจู๊บรรหาร” สมคบคิด “นช.แม้ว” ป่วน รอเค้กก้อนโต-สยบซ่าส์!

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


“หลงจู๊” กับ “เสี่ยใหญ่ดิจิตอล” อย่างทักษิณ บ้านร่วมถนนจรัญสนิทวงศ์ สายสัมพันธ์ไม่เคยตัดขาด แม้จะยืนอยู่ต่างฝ่าย และพร้อมที่ร่วมทุนในทางการเมืองกันได้เสมอ ยามที่ผลประโยชน์สอดคล้องต้องตรงกัน ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องพูดถึง “ตัวต่อ” ที่คอยประสานสองฝ่ายให้มาร่วมในเกมสมคบคิดล้มรัฐบาล เพราะ “ทักษิณ” กับ “บรรหาร” ยกหูถึงได้เสมออยู่แล้ว

**เพราะคนอย่าง “บรรหาร” อ่านไม่ยาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และบรรดาปรมาจารย์พรรคประชาธิปัตย์ ถึงจับทางได้ กล้าที่จะส่งสัญญาณ “แตกหัก” ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีหลงจู๊เป็นโต้โผป่วน

บรรหาร ศิลปอาชา ถูกเรียกขานในฉายาว่า “หลงจู๊เติ้ง” ที่หัวสมองหลงจู๊ ก็คือเรื่องกำไร-ขาดทุน มองทุกเรื่องอย่างเป็นการค้าการขาย ที่ต้อง“ได้”ไปหมด ตั้งแต่ทำอาชีพขายโอเลี้ยงกาแฟ อยู่ที่สุพรรณบุรี

กาลเวลาไม่สามารถปรับเปลี่ยนคุณลักษณะนิสัยที่ติดแน่นคงทนและถาวรของ “บรรหาร” ได้ แม้จะอยู่ในฐานะของนักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่เคยผ่านตำแหน่งสูงสุด เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย บริหารบ้านเมืองมาแล้วก็ตาม

“ประโยชน์ส่วนตัว” ยังอยู่เหนือสิ่งอื่นใด

ไม่ต้องทวงถามคำว่า “เสียสละ” จากนักการเมืองแซ่เบ๊ผู้นี้ เพราะมองประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ใครๆ ถึงมองออกว่า ที่บรรหาร เดินสายเป็นโต้โผตระเวนนัดกินข้าวกับบรรดาคีย์แมนตัวจริงพรรคร่วม เพื่อผนึกกำลังต่อรองพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ถึงฉากหน้าจะมุ่งในประเด็นปรับเปลี่ยนมาตราที่เกี่ยวกับเขตเลือกตั้ง มาเป็นระบบเขตเล็ก ที่เป็นประเด็นเห็นพ้องกับบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อย เนื่องจากกระแสไม่สามารถสู้กับพรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย ได้ในสนามเลือกตั้งแบบรวมเขตเรียงเบอร์

แต่ไม่มีใครไว้วางใจในวาระซ่อนเร้น ที่คนอย่างบรรหาร ปิดไว้ไม่มิด

เคลื่อนไหวในเรื่องรัฐธรรมนูญ ถึงที่สุดเมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกบรรจุในวาระพิจารณาของสภาฯ “บรรหาร” ก็มีช่องที่จะกดปุ่มให้ลูกพรรคชาติไทยพัฒนา สอดไส้ ลักไก่เรื่องที่ตัวเองต้องการ

หาทางปลดชนัก ตัดโซ่ตรวน แหกคุกการเมือง ที่ตัวเองและลูกๆ รวมทั้งสมุนบริวารถูกจองจำพันธนาการอยู่


กระแสข่าวที่สนับสนุนเรื่องนี้ คือข่าวการต่อสายเชื่อมถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้นำที่กลายเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ต่างแดน และหาช่องทางทุกอย่างในการโค่นล้มอำนาจรัฐปัจจุบัน เพื่อฟื้นคืนระบอบทุนสามานย์ของตัวเอง

“หลงจู๊” กับ “เสี่ยใหญ่ดิจิตอล” อย่างทักษิณ บ้านร่วมถนนจรัญสนิทวงศ์ สายสัมพันธ์ไม่เคยตัดขาด แม้จะยืนอยู่ต่างฝ่าย และพร้อมที่ร่วมทุนในทางการเมืองกันได้เสมอ ยามที่ผลประโยชน์สอดคล้องต้องตรงกัน

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องพูดถึง “ตัวต่อ” ที่คอยประสานสองฝ่ายให้มาร่วมในเกมสมคบคิดล้มรัฐบาล เพราะ “ทักษิณ” กับ “บรรหาร” ยกหูถึงได้เสมออยู่แล้ว และในเกมที่พูดถึงกัน ก็เป็นเรื่องที่แกนนำรัฐบาลจากประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอภิสิทธิ์ ประมาทไม่ได้

โดยคนแซ่เบ๊-ม้า อย่างบรรหารคงยอมเป็น “ม้าใช้” ให้ทักษิณ ในการเปิดเกมด้านแนวรบทางสภาฯ ที่สมุนของนักโทษชายเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมนี้ ควบคู่ไปกับแนวรบมวลชนนอกสภาฯ ของ “ม็อบนางแมว” เรียกฝน กลุ่มเสื้อแดง ที่ป่วนหนักขึ้นทุกที

นอกจากเกมสอดไส้เรื่องปลดชนัก นิรโทษกรรมความผิด ที่ทั้งคู่ได้ประโยชน์ร่วม โดยคาดการณ์กันได้ว่า เมื่อใดที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภา ก็เป็นไปได้ว่า

พรรคเพื่อไทยของทักษิณ อาจจะพลิกมติเข้าร่วมวงครั้งนี้ด้วย

โดยอาจยื่นร่างที่มีการแก้ไขประเด็นที่ต้องการของนายใหญ่ประกบ ไม่ว่าจะเป็นร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับหมอโหวงเหวง ที่จ่อคิวรออยู่ หรือไม่ก็ยกรัฐธรรมนูญปี 2540 เข้ามาอย่างที่ชูธงในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนอกสภาฯ มาทั้งฉบับ

ไม่เท่านั้น มีการวิเคราะห์ประเมินถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลนำโดย “บรรหาร” ที่ส่งสมุนมือขวาที่เลี้ยงแล้วแสนเชื่องอย่าง “เสี่ยตือ” สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ออกมาบริภาษโวยวายนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่าด้วยสัญญาใจเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ “เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า”

อาจจะเอาคืน สางความแค้นด้วยการลงมติสวนไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถูกจับขึ้นเขียงเชือดในศึกซักฟอก ไปจนกระทั่งอาจเล่นแรงถึงขึ้นพลิกขั้วกลับไปจับมือพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล

เพราะช่วงนั้นนายกฯ ไม่สามารถใช้ไพ่ตายยุบสภาได้

อย่างไรก็ดี กลเกมต่างๆ ตามที่ “บรรหาร” สมคบคิดไว้ ก็ใช่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมองไม่ออก อย่างกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อภิสิทธิ์ เด็ดเดี่ยวที่จะไม่ยอมตามแรงบีบของพรรคร่วม เพราะหากยอมพรรคร่วม ก็คงได้คืบเอาศอก โดยเฉพาะนายบรรหาร ทั้งเมื่อพร้อมที่จะแตกเป็นแตก หักเป็นหัก “อภิสิทธิ์” เตรียมรับมือก่อนที่จะถึงเวลาเส้นความสัมพันธ์กับเพื่อนพรรคร่วมฯขาดสะบั้นลงไปอย่างไร

“อภิสิทธิ์” คงประเมินแล้ว เสียงเอะอะโวยวาย แต่ถึงเวลาจริง พรรคร่วมคงไม่กล้าหัก

ตัวเล็กเสียงดังอย่างบรรหาร ก็อย่างที่ทุกคนรู้ และอ่านออก ผลประโยชน์อยู่เหนือสิ่งอื่นใด ในระยะสั้นที่ทำโมโหโกรธา ก็แค่เพื่อเพิ่มน้ำหนักการต่อรอง

ชูหางยกความสำคัญของตัวเอง โดยเฉพาะหลังจากมีกระแสข่าวช่วงปีใหม่ ที่นายอภิสิทธิ์ เข้าพบ“ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ที่ว่านายกฯเด็กไปอ้อนผู้ใหญ่ให้ช่วยเคลียร์กับบิ๊กตัวจริงพรรคชาติไทยพัฒนา ใน เรื่องรัฐธรรมนูญ และท่าทีในการร่วมรัฐบาล

“บรรหาร” เลยออกอาการผยอง มองว่าตัวเองถูกยกระดับความสำคัญถึงขั้นที่ต้องพึ่งพาระดับพล.อ.เปรม มาพูดมาจาด้วย ถึงได้ออกอาการกร่างขั้นรุนแรง เดินสายเคลื่อนไหว ดึงพรรคเล็กพรรคน้อยมาเป็นแนวร่วม

เมื่อถึงตรงนี้ “อภิสิทธิ์” เลือกที่จะตบหัวไปแล้ว การที่จะสยบแรงกระเพื่อมจากพรรคร่วมเพื่อให้อยู่ช่วยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ประคับประคองเก้าอี้นายกฯ ต่อไป ก็คงใช้การ “ลูบหลัง” ที่เพียงเบาๆ เล็กๆ เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าคิดที่จะแยกทาง

โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ โครงการต่างๆ ทั้งจากแผนไทยเข้มแข็ง ที่ทยอยออกจากคลัง มาอัดฉีดกันไม่หมดล็อต หรืองบฯปี2554 ที่เสนอตั้งแผนงานกันแล้ว เท่านี้พรรคร่วมส่วนใหญ่ ก็คงตาลุกวาว

เมื่อยังถืออำนาจ ร่วมรัฐบาลอยู่ หนำซ้ำได้โควตากระทรวงรับผิดชอบอย่างที่ปกติจำนวนเสียงของหลายพรรคคงไม่ได้สมบูรณ์พูนสุขขนาดนี้ คงไม่คิดสั้นแยกตัวพลิกขั้วกลับไปอดอยากในอุ้งมือมารหน้าเหลี่ยม

ในเกมบีบประชาธิปัตย์ เท่าที่เห็นอาการกระเหี้ยนกระหือรือ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็กระฟัดกระเฟียด ที่เด่นชัดก็มีเฉพาะนายบรรหาร ส่วนตัวเอ้ ที่ตามหลังอย่างนายเนวิน ชิดชอบ แต่ถ้าสังเกตให้ดี เหมือนจะถีบ บรรหารให้ออกหน้ามากกว่า โดยเฉพาะหลังเจออาการของขึ้นของนายกฯอภิสิทธิ์ ประกาศแตกหัก เนวินก็ฝ่อลงไปอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนพรรคร่วมอื่นๆ คงไม่อยากที่จะแยกตัว ให้เกิดเหตุล้มกระดานต้องไปเหนื่อยในสนามเลือกตั้งก่อนเวลา รวมทั้งหากจะพลิกกลับไปหาพรรคของทักษิณ ก็ประเมินออกว่า อะไรจะเกิดขึ้น การตั้งรัฐบาลไม่มีทางราบรื่น และอาจเกิดเหตุฉุกเฉินจาก “อำนาจสีเขียว” ได้ทุกเมื่อ

แม้กระทั่งชาติไทยพัฒนา ที่ทุกการขับเคลื่อนอยู่ในมือของนายบรรหาร ที่ไม่มีเสี่ยงขาดทุนอยู่แล้ว หากมีข้อเสนองามๆ ก็คงเลือกเอาจากที่เห็น “ตรงหน้า”ไว้ก่อน มากกว่าที่จะไปสุ่มเสี่ยงตายเอาดาบหน้ากับน้องรักทักษิณ ที่ยังไร้วี่แววจะได้กลับมามีอำนาจเบ็ดเสร็จอีกครั้ง

ถ้าจับอาการกันได้ จากกรณีการโยกเอาคนของตัวเองในสำนักงบฯ มาเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คนเก่าที่ไม่สามารถสนองงาน และความโลภของหลงจู๊ได้ นั่นก็ทำให้เห็นว่า “บรรหาร” ยังตั้งใจที่จะอยู่ปฏิบัติการ ล้วงควัก กับรัฐบาลประชาธิปัตย์ต่อไป

“อภิสิทธิ์” และคนพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นไต๋หลงจู๊ จึงเลือกที่จะแตกหัก ขัดใจเพื่อน และสุดท้ายก็คงจะใช้วิธีลูบหลังด้วยการหา “เค้กก้อนใหญ่” มาทดแทนให้หลงจู๊ ที่ติดนิสัยเลียริมฝีปาก ไม่ยอมอดอยากปากแห้ง ให้หยุดป่วน หยุดซ่าส์ กันไปได้อีกพักใหญ่

ยามใดที่คนแซ่เบ๊ เป็นม้าพยศ ก็ต้องสยบด้วยการลงแส้ และปรนเปรอปลอบใจ ด้วยหญ้าเป็นมัดฟ่อนในรางอาหาร เท่านี้ก็คงยอมสยบอยู่ในคอกชั่วคราว

เว้นเสียแต่ว่า ทักษิณ จะมีเงื่อนไขพิเศษที่คนอย่างบรรหาร ไม่สามารถปฏิเสธได้

แต่ถ้าพยศเมื่อไหร่ก็ต้องตามลงแส้อีกเมื่อนั้น เพราะต้นตำรับแห่งความลื่นไหล ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แบบ “คนอย่างบรรหาร” ใครก็เอาอยู่ได้ยาก!!

กำลังโหลดความคิดเห็น