xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” เย้ย “แม้ว” บ้องตื้น! เข็นคดียึดทรัพย์สู่ศาลโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ขำกลิ้ง “นช.แม้ว” เตรียมเข็นคดียึดทรัพย์ต่อสู้ในศาลโลก สะท้อนถึงความไม่รู้กม.ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตภายใน ไม่เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างประเทศ วิเคราะห์วิกฤตการเมืองทำให้การพัฒนาประเทศสะดุด ชื่นชม ส.ว.เดินหน้าถอดถอนชายจืด

วันนี้ (31 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตย ชูธงต่อต้านการรัฐประหารว่า เป็นความเข้าใจผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะต้องยอมรับความจริงว่าการรัฐประหารเป็นปลายเหตุของบ้านเมือง ถ้าเป็นนักประชาธิปไตยจริง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลดเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการรัฐประหาร ไม่ใช่ปลุกกระแสประณามการรัฐประหารทั้งที่ยังไม่เกิดขึ้น

“อยากเรียกร้องไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ระบุกับต่างชาติว่าประเทศไทยเศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้นตัว เพราะปัญหาทางการเมืองกำลังค่อยๆ แก้ไข จึงเห็นว่านายกรัฐมนตรีควรพูดความจริงว่า วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองไม่ทำให้ประเทศพัฒนาไปมากกว่านี้ ตราบใดที่ยังมีกระแสเรื่องการปฏิวัติอยู่ ยังปล่อยให้ทหารออกมาคุกคามสังคมอยู่ การเมืองไม่มีเสถียรภาพ ส่วนแผนลอบสังหารที่เป็นข่าวขณะนี้ ไม่อยากให้รัฐบาลประมาท เพราะการพูดของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล มีนัยสำคัญ รัฐบาลต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าว” นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมพร้อมต่อสู้ในศาลโลก กรณีการยึดทรัพย์ ว่าเป็นการสะท้อนถึงความไม่รู้กฎหมาย เพราะคดีดังกล่าวเป็นเรื่องความผิดในการทำงาน ไม่เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างประเทศ

ส่วนกรณี นปช.-คนเสื้อแดง ชุมนุมหน้าบก.ทบ.เมื่อ 29 ม.ค.2553 เพื่อประกาศต่อต้านรัฐประหาร และวันที่ 2 ก.พ.จะเดินทางไปชุมนุมที่กองทัพอากาศ นับเป็น “เรื่องตลก” มากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะโดยแท้จริงแล้วฝ่ายระบอบทักษิณต่างหากที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองปั่นป่วน เพื่อจะได้เกิดการรัฐประหาร เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

กรณีดังกล่าวจึงเป็นการยั่วยุกองทัพให้สติแตก เพื่อจะได้เข้าทางการคเลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งรัฐบาลและกองทัพคงจะรับทราบจากการข่าวเป็นอย่างดีจึงไม่ตกหลุมพราง

อย่างไรก็ตาม การตั้งรับปล่อยให้กองทัพถูกเย้ยหยาม ประธานองคมนตรีถูกจิกหัวด่าและถ่ายทอดสดออกโทรทัศน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ก่อนที่กำลังพลหรือประชาชนที่ทนไม่ได้ จะออกมาต่อสู้ด้วยตนเองเพราะหวังจากกองทัพและรัฐบาลไม่ได้

สำหรับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้มีความเป็นไปได้หลายทาง ได้แก่ 1) การยุบสภา นายกฯและพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่อยากให้ยุบสภา พวกเขาเลือกที่จะอยู่กันไปอีกอย่างน้อย 1ปีงบประมาณ ประสานผลประโยชน์เกลี่ยงบประมาณ 2) พลิกขั้วรัฐบาลหรือตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ฝ่ายระบอบทักษิณพยายามเดินเกมให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวพลิกขั้ว ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาพยายามเสนอสูตรรัฐบาลแห่งชาติให้ทุกพรรคร่วมเป็นรัฐบาล ออกกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฝ่าย แต่ก็ยังไม่มีเสียงขานรับ

3) รัฐประหาร คนเสื้อแดงยั่วยุให้เกิดการรัฐประหาร ล้มกระดาน แนวโน้มก็ไม่สำเร็จ 4) ป่วนเมือง เกิดจลาจลก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปราบกวาดคนก่อเหตุครั้งใหญ่ หรือรัฐบาลปัจจุบันบริหารต่อไป หรือมีรัฐบาลใหม่

นายสำราญกล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคการเมืองใหม่ขอแสดงความชื่นชมต่อวุฒิสภา โดยเฉพาะบรรดา ส.ว.ที่ลงมติด้วยคะแนน 41 ต่อ 37 (งดออกเสียง 19) ให้เดินหน้าถอดถอน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ อันเนื่องจากกรณีการสลายการชุมนุม 7 ตุลา 2551 ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ดำเนินการส่งเรื่องไปยังวุฒิสภาและวุฒิสภาได้ประชุมเมื่อ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ แม้นายสมชายจะพ้นจากตำแหน่งนายกฯแล้ว แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 274 วรรคสอง ยังได้ระบุโทษห้ามรับตำแหน่งทางการเมืองอีก 5 ปี ดังนั้นกรณีนี้เป็นกรณีแรก ของการถอดถอนที่น่าศึกษาน่าติดตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น