xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” แนะพรรคร่วมตั้งสติ หักแก้ รธน. ยันปฏิวัติไม่ใช่ทางเลือก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“โฆษกมาร์ค” ยันเสถียรภาพ รบ.ยังแน่นปึ้ก ยกเหตุการณ์บอยคอตเลือกตั้งปี 49 เป็นอุทาหรณ์ ยันพรรคไม่เล่นการเมืองตามกระแส อ้อนขอโอกาสรัฐบาลอยู่ครบเทอม ลั่นปฏิวัติไม่ใช่ทางออกสุดท้าย แนะพรรคร่วมตั้งสติ แยกแยะแก้ รธน.-อภิปรายฯ


วันนี้ (27 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคมีมติไม่แก้รัฐธรรมนูญว่า ทุกคนในพรรคยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่ ไม่มี ส.ส.คนใดที่น้อยใจในมติที่ออกมา ต่างให้ความเคารพมติดังกล่าว และถือเป็นปกติของพรรคที่ทำงานในลักษณะนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่การบอยคอตไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเมื่อครั้ง 2 เม.ย.2549 ที่ในพรรคมีความเห็นต่างเช่นนี้ แต่เมื่อมีมติออกมาแล้ว ทุกฝ่ายก็ยอมรับ ถือเป็นแบบอย่างของพรรคที่มีประชาธิปไตย ซึ่งผลมติที่ออกมาครั้งนี้ ล้วนแล้วเป็นความเห็นที่บริสุทธิ์ ไม่มีการล็อบบี้หรือชี้นำใครได้ในการตัดสินใจของ ส.ส.พรรค

ส่วนที่บางฝ่ายกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองตามกระแสนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะถ้าติดตามตรวจสอบการทำงานของพรรคมาต่อเนื่องก็จะพบว่า พรรคไม่เคยเล่นการเมืองตามกระแส แต่ยึดหลักเอาความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลักการมาโดยตลอด เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมือง โดยไม่ยึดหลักการหรือยึดแค่กระแสก็คงไม่บอยคอตต่อต้านระบอบทักษิณ และวันที่กระแสการเมืองอยู่ในวงจรธุรกิจการเมือง จนเกิดการคอรัปชั่นมโหฬาร โดยนำหลักการตลาดชี้นำการเมืองมาใช้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยืนหยัดขึ้นต่อสู้โดยไม่หวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้น

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีบางคนออกมาข่มขู่โดยการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลนี้เริ่มต้นนับถอยหลังแล้วนั้น ถ้าดูจากเงื่อนไขระยะเวลาของรัฐบาลก็ยังเหลืออายุอีกปีกว่าก็จะอยู่ครบเทอม คงจะทำงานจนครบวาระ ถ้าดูจากความเชื่อมั่นของประชาชนทุกภาคส่วนก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลนี้ทำงานบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ยิ่งมูดี้ส์ออกมายกระดับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ ก็ย่อมเป็นหลักประกันว่ารัฐบาลสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตไปได้แน่นอน เพียงแต่ขอโอกาสให้รัฐบาลนี้ได้บริหารราชการแผ่นดินออกไปจนครบเทอมก็จะเห็นผลงานที่ออกมาว่าเป็นอย่างไร และเชื่อว่าปัญหาวิกฤตการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะไม่นำไปสู่การยุบสภา หรือการปฏิวัติตามที่หลายฝ่ายได้ประเมินวิเคราะห์ไว้ เพราะทั้งพรรคการเมืองและประเทศชาติไม่พร้อมที่จะก้าวสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ และการทำปฏิวัติรัฐประหารเองก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่จะแก้ไขปัญหานี้ที่สำคัญจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนไทยและประชาคมโลก หากมีเหตุการณ์ปฏิวัติเกิดขึ้นมา ผู้ที่ทำก็จะได้รับแรงกดดันและการต่อต้านจากสังคมไทยและนานาชาติเอง

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า การตั้งข้อสังเกตของบางฝ่ายที่ออกมาข่มขู่ว่า ให้จับตามองการโหวตของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นนั้น พรรคประชาธิปัตย์เองยังเชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะยังคงให้การสนับสนุนรัฐมนตรีและมีเหตุผลเพียงพอ สามารถแยกแยะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน การอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองต่างๆ ที่มี ส.ส.ในสภาฯ ที่จะกำหนดท่าทีในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเป็นดุลยพินิจของแต่ละพรรคที่จะตัดสินใจ และมีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น