“อภิสิทธิ์” ตอกกลับแนวทางแก้ไข รธน.6 ประเด็นตามข้อเสนอ คกก.สมานฉันท์เกิดยาก เหตุพรรคร่วมยังมีความเห็นต่าง ย้ำหากจะแก้ รธน.ต้องไปนำสู่ความขัดแย้งทางสังคมหรือนิรโทษกรรม โยนเป็นหน้าที่ของสภาฯ เชื่อ ชพท.ไม่ย้ายขั้ว พร้อมนัดหารือพรรคร่วมคาดรู้ผลก่อน 28 ม.ค.นี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ ออกมาวิจารณ์ถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นพวกปากว่าตาขยิบปล่อยให้พรรคร่วมเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ในส่วนของความพยายามจะใช้ 6 ประเด็นที่สุดแล้วไม่สามารถเดินหน้าได้ ซึ่งพรรคการเมืองบางพรรคเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถือเป็นข้อขัดแย้งทางสังคม ซึ่งเขาอยากจะเสนอก็เท่านั้นเอง ส่วนพรรคจะเอาหรือไม่อย่างไรนั้น คงต้องรอผลการสัมมนาที่จังหวัดกระบี่ และตนจะเดินทางไปในช่วงบ่ายนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ไม่สามารถแก้ไข สร้างความสมานฉันท์ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาคือว่า การเดินตาม 6 ประเด็นที่กรรมการเสนอ ก็ไม่สามารถทำได้เช่นเดียวกัน พรรคฝ่ายค้านก็ไม่เอาด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองก็บอกไม่เอาด้วย ไม่พอใจ ก็ชี้ชัดแล้วว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตนพยายามเชิญทุกพรรคมาหารือ ตอนแรกก็ตกปากรับคำแก้ใน 6 ประเด็น แต่ที่เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันมาก ตนก็ยินดีทำประชามติ แต่เมื่อพรรคการเมืองฝ่ายเดียวด้วยกันเอง ไม่สามารถเห็นพ้องด้วยกันได้ เราคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของสภา ที่จะทำเฉพาะประเด็นย่อยที่ไม่กระทบกระเทือนความขัดแย้ง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าทางพรรคชาติไทยพัฒนาบอกว่าอาจจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันโหวต นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่กังวล เมื่อถามอีกว่าจะปล่อยให้มีการฟรีโหวต ตามที่ทางพรรคชาติไทยพัฒนาเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จุดยืนของรัฐบาลถือว่า สนับสนุนให้พรรคการเมืองแก้เฉพาะในประเด็น ที่เป็นเรื่องที่ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งของสังคม โดยเฉพาะไม่เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง หรือไม่นิรโทษกรรม
“มี 2 ประเด็นที่พูดกัน คือ 1.มีความจำเป็นในด้านการบริหาร เนื่องจากเราดูแล้วว่าจะให้ออกกฎหมายลูกเพื่อให้เกิดความชัดเจนในมาตรา 190 หรือไม่ แต่รัฐธรรมนูญใช้คำว่า “ออกกฎหมายในเฉพาะขั้นตอน วิธีการไม่อนุญาตเรื่องหลักเกณฑ์ เราจะแก้เพื่อให้กำหนดหลักเกณฑ์ได้ ประเด็นที่ 2 คือ ระบบเลือกตั้ง กติกาการแข่งขันเลือกตั้งแต่ละประเทศมีระบบเลือกตั้งต่างกันไปเท่าที่อยู่ในกรอบการเลือกตั้ง เสรี เป็นธรรมก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องหลักการใหญ่ของระบบเลือกตั้งระบอบประชาธิปไตย ผมเลยคิดว่ามันไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งวงกว้าง แต่ถ้าเป็นการแก้ไขเรื่องที่ว่าทำผิดให้เป็นถูก นิรโทษกรรมเพิ่มอำนาจ ส.ส. คิดว่าน่าจะเป็นปัญหา เท่าที่ผมทราบ2 ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า ล่าสุดโพลสำรวจความเห็นจากสถาบันพระปกเกล้าสำรวจความนิยม พบว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำกว่าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คะแนนก็สูสีกันอย่างที่ตนบอก เป็นลักษณะนี้มาตลอด เมื่อถามว่าเป็นการสะท้อนความจริงมากน้อยแค่ไหน บ่งชี้อะไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่า ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา คะแนนของ 2 พรรคใหญ่ก็ใกล้เคียงกันเป็นต้นมา ดูจากผลการเลือกตั้ง และเลือกตั้งซ่อม ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า อนาคตพรรคประชาธิปัตย์จะเหนือกว่าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวเพียงว่า ไม่มีใครจะบอกอนาคตได้ เพราะพรรคการเมืองต้องแข่งขันกัน ทำงานกันไป เมื่อถามอีกว่า โอกาสการพลิกขั้วย้ายข้างจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมองไม่ออกจริงๆ เราคุยกันว่า เรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องการบริหาร รัฐบาลแยกออกจากกัน
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เตรียมการเลือกตั้งครั้งใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคเตรียมตัวอยู่ตลอด การสัมมนาพรรคทุกครั้งก็มีประเด็นนี้ด้วย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองหัวหน้าพรรคได้เสนอโดยตรงเรื่องยุทธศาสตร์ เข้าใจว่าจะเป็นการสัมมนาในช่วงเช้านี้
เมื่อถามอีกว่า ภายใน 1-2 วันจะได้ข้อสรุปเรื่องรัฐธรรมนูญหรือไม่และจะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลวันไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใช่ครับ ถ้าได้ข้อสรุปวันนี้ (23 ม.ค.) พรุ่งนี้จะดูว่าสัปดาห์หน้าทันหรือไม่ เนื่องจากตนจะต้องเดินทางไปร่วมประชุมที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในวันพฤหัสที่ 28 ม.ค. คาดว่าคงไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ต้องคุยกัน
เมื่อถามย้ำถึงเรื่องการฟรีโหวตแก้รัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แล้วแต่ที่ประชุมพรรคจะใช้แนวทางไหน เมื่อถามอีกว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่นายกฯจะนัดหารือกับพรรคร่วมก่อนเดินทางไปประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะดูเวลา ถ้ามีเวลาก็จะคุย เพราะไม่อยากให้ช้าเกินไป เนื่องจากสภาก็เปิดสมัยประชุมแล้ว เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่า เป็นวันที่ 28 ม.ค.นี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนกำลังดูเวลา ทางสภาก็จะดูเวลา วันพฤหัสนี้คงทราบ