“เทพไท” จี้ “เพื่อไทย” หยุด นช.แม้ว เลิกบิดเบือน-ป่วนชาติ จะสมานฉันท์ได้ น้อมรับคำวิจารณ์หัวหน้าพรรค รับเป็นรัฐบาลผสมต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ทำเด็ดขาดยาก ปัดคนปชป.ขวางเปิด 3 จี บอกไม่มีเครือข่ายโทรคมนาคมหนุนพรรค ซัด “ทักษิณ” ทำธุรกิจโทรศัพท์ขูดรีดประชาชน ชูรัฐทำสัมพันธ์ซาอุฯ ฟื้นกลบข่าวเขมร
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมได้มีการพูดคุยกันเพื่อจะมีการแก้ใน 2 ประเด็นว่า แต่เดิมพรรคประชาธิปปัตย์สนับสนุนคณะกรรรมการสมานฉันท์ฯ ที่เสนอแก้ใน 6 ประเด็น แต่พรรคมีเงื่อนไขต้องทำประชามติ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมในมาตรา 190 และการแบ่งเขตเมาเป็นเขตเดียวเบอร์เดียว ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้พูดคุยกัน ซึ่งหากมีการแก้ 2 ประเด็น และกลับไปสู่การทำประชามติ คิดว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครขัดข่อง แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ฝ่ายค้านเข้ามามีส่วนร่วมเพราะมิเช่นนั้นจะเกิดข้อครหา และไม่เป็นหลักการประชาธิปไตย
นายเทพไทกล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ใช่เรียกร้องจะเอาแต่ประชาธิปไตย เหมือนอย่างอยากกินข้าวแต่ไม่หุงข้าวจะได้กินข้าวได้อย่างไร หรืออย่างถูกลอตเตอรี่ แต่ไม่ซื้อลอตเตอรี่จะถูกได้อย่างไร อยากได้ประชาธิปไตยหรือรัฐธรรมนูญที่ดี แต่ไม่เข้า ร่วมจะได้รัฐธรรมนูญที่ต้องการไม่ได้ ส่วนการที่นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เสนอแนวทางให้รัฐบาลเจรจากับฝ่ายค้านกันก็อยากให้ไปดูว่าแค่กรอบที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ตั้งขึ้นมายังไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายค้าน ซึ่งรัฐบาลพร้อมเจรจากับทุกฝ่าย เมื่อยื่นมือเข้าไปเขาก็ยื่นฝาเท้าเข้ามา หากเรียกร้องให้ยุติการเคลื่อนไหวควรจะไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ควรที่จะโฟนอินเข้ามารายวัน หรือทีมงานของพรรคเพื่อไทยที่ไม่ควรบิดเบือนประเด็นและกลุ่มเสื้อแดงควรยุติ สร้างความปั่นป่วนถ้าหากยุติเรื่องทั้งหมดนี้ความสมานฉันท์ฯจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีการสัมนาที่ ม.ธรรมศาสตร์ ที่พูดถึงผู้นำประเทศไร้ความเด็ดขาด ประคองตัวไปวันๆ ว่า ท่ามกลางเงื่อนไขทางการเมือง ถือว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว คนที่วิจารณ์อาจจะไม่ทราบเงื่อนไขและข้อจำกัดว่ามีอย่างไร หากเปรียบเทียบกับผู้นำที่มาจากรัฐบาลพรรคเดียวกับ ผู้นำที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งผู้นำที่มาจากพรรคเดียวสามารถทำงานได้มากกว่านี้ และสามารถรับผิดชอบการทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ผู้นำที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย และนำนโยบายจากหลายพรรคมารวมกัน เพื่อผลักดันให้เป็นนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายกฯ และขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและน้อมรับคำวิจารณ์ของคนเหล่านั้น
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์กล่าวถึงเรื่องการอนุมัติโครงข่ายโทรคมนาคมระบบ 3 จี พาดพิงรัฐบาลว่า คนที่ขวาง 3 จี คือคนที่มีอิทธิพลต่อพรรคนั้น นายเทพไทยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดันให้มีขึ้นโดยเร็ว แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกระทรวงไอซีที พรรคไม่ได้ดูแล และ ไม่มีบุคคลในพรรคที่ทำธุรกิจโทรคมนาคม และไม่มีบริษัทโทรคมนาคมที่เข้ามาสนับสนุนพรรคและอยากให้บอกว่าผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับพรรคคือใครและอย่างไร เพราะคนที่มีอิทธิพลก็คือประชาชนที่เลือกพรรคเข้ามาใน และธุรกิจพรรค บริหารราชการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีบริษัทไหนมีอิทธิพลต่อพรรค ไม่เหมือนนักการเมืองบางคนที่หากินผูกขาดธุรกิจสัมปทานธุรกิจโทรคมนาคมกับรัฐ โดยขูดรีดจนร่ำรวยและนำเงินมาใช้ต่อทางการเมือง ยังไม่ทราบว่าเงินที่ถูกอายัดจะมีเงินที่ขูดรีดจากประชาชนสักเท่าไร
นอกจากนี้ นายเทพไทยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาว่า รัฐบาลก็มีความกังวลแต่พยายามยามประคับประคองให้ความสัมพันธ์และความขัด แย้งเกิดในระดับการทูต แต่ระดับประชาชนจะไม่ให้เกิดผลกระทบอย่าง แต่ทั้งนี้ในเรื่องระดับความสัมพันธ์ในขณะนี้ประเทศไทยมีข่าวดี ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่เคยลดระดับความสัมพันธ์ทางการฑูตมา 10 กว่าปี แต่วันนี้ ชัดเจน สถานทูตซาอุดีอาระเบียในประเทศไทยเปิดเผยว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ เพราะเห็นความตั้งใจของนายอภิสิทธิ์ที่ให้ความสัมพันธ์ในคดีของทูตซาอุดีอาระเบียถือเป็นความดี ที่เป็นปัญหาคาราคาซังกันมา และเป็นกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้งหนึ่ง ก็จะมีผลตามมาเรื่องการลงทุน เรื่องธุรกิจ การส่งแรงงานไปยังซาอุดีอาระเบีย นอกจากความสัมพันธ์ที่ดี และความร่วมสัมพันธ์เรื่องธุรกิจก็จะดีด้วย