xs
xsm
sm
md
lg

“วิปค้าน” สุดหื่น เหน็บตั้ง ส.ส.ร.3 แล้วจะมี ส.ส.ไว้ทำไม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิทยา บูรณศิริ
ปธ.วิปฝ่ายค้าน แสดงอาการสุดหิวกระหายแก้ รธน.ประกาศไม่รับปากร่วม สสร. 3 จี้ “ตวง-เลิศรัตน์-ประเสริฐ” แสดงความเห็นแก้-ไม่แก้ รธน.ให้ “มาร์ค” ตัดสิน ทำโง่ ถาม ตั้ง ส.ส.ร.3 แล้วมี ส.ส.ไว้ทำไม

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงความคาดหวังในการประชุมร่วม 2 สภา ว่า ตนไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว อยู่ที่ต่อมความรู้สึกของแต่ละคน ส่วนหากมีการตั้ง ส.ส.ร.3 ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมด้วยใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่ใช่จุดนั้น แต่ถ้ามีหน้าที่แล้วไม่ทำก็คงต้องกลับมาถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่ทำ เมื่อถามว่า แสดงว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางออกใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า มีแต่ทางเข้า และตนกำลังจะเดินไปร่วมประชุม ส่วนทางออกนั้นก็หาได้อยู่ที่เราจะหาหรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลายฝ่ายก็ได้สะท้อนให้เห็นแล้ว แต่มุมมองของแต่ละคนแตกต่างกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภาควรจะตกผลึกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นหรือจะตั้ง ส.ส.ร.3 ใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีข้อกำหนดอย่างนั้น สิ่งที่นายกรัฐมนตรีขอไว้ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญก็คงต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ส่วนมองว่ารัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุตัวเองหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่อยากคิดอย่างนั้น แต่ดูเสมือนว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การประชุมร่วมรัฐสภานั้น อยากจะให้คนที่ทำหน้าที่ โดยเฉพาะตัวแทนของอนุกรรมการชุดต่างๆได้พูดให้รัฐสภาเข้าใจ เช่น นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายตวง อันทะไชย ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ ทางการเมืองของสังคมไทย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานอนุกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และนายประเสริฐ ชิตพงศ์ ประธานอนุกรรมการศึกษาการปฏิรูปการเมือง แต่แสดงความคิดเห็นแค่นายดิเรก คนเดียว ดังนั้น ทั้ง 3 คน น่าจะแสดงความรู้สึกที่ดี ออกมาในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมการด้วย

สำหรับกรณี่ที่ นายดิเรก ระบุว่า หากยังไม่ได้ข้อยุติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะยื่นญัตติอีกรอบนั้น นายวิทยา กล่าวว่า เป็นหน้าที่หรือบทบาทที่จะต้องแสดงออกให้ชัดเจน แม้แต่ตนเองด้วย ส่วนฝ่ายค้านมีจุดยืนอย่างไรนั้น นายวิทยา กล่าวว่า เจตนารมณ์ตั้งแต่ก่อนที่จะรับรัฐธรรมนูญปี 2550 พรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชาชนเดิมมีจุดยืนอยู่แล้วว่า เราไม่เห็นด้วย แต่ต้องทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อที่จะติดตามข้อเท็จจริงและสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งเหล่านี้เป็นอำนาจหน้าที่ที่ ส.ส.สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม อยู่ที่นายกรัฐมนตรีฟังแล้วจะมีความรู้สึกอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ อยากให้มีการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมองอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า เมื่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291บัญญัติไว้ว่า ผู้ที่มีอำนาจแก้ไขได้มีใครบ้าง ครม. ส.ส. ส.ว.และประชาชนที่เข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อสามารถดำเนินการได้ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คงต้องย้อนไปถามอีกว่า แล้วจะเขวี้ยงงูไม่พ้นคอทำไม ต้องให้มี ส.ส.ร.3 ขึ้นมาอย่างนั้นหรือ แล้วเรามาทำหน้าที่อะไรกัน

สำหรับกรณีที่มีการมองว่า หาก ส.ส.และ ส.ว.ไม่สามารถแก้กันเองได้ก็ควรให้ทหารเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ตนบอกแล้วว่าให้ทหารแก้สิ ทหารก็สามารถแก้ได้ทุกครั้งอยู่แล้ว ไม่มีใครว่าทหารผิดสักที ส่วนการที่ให้สสร.มาแก้รัฐธรรมนูญนั้นจะทำให้ภาพดูเป็นกลางมากกว่าหรือไม่นั้น นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าเรามีบทบาทหน้าที่แล้วไม่ทำก็ต้องถามตัวองว่าแล้วมาตรงนี้เพราะอะไร ประชาชนเลือกมาแล้วไม่ใช้เวทีตรงนี้ที่มีอยู่ทั้งๆ ที่มีอำนาจมีหน้าที่อยู่แล้วไม่ทำให้เกิดประโยชน์ก็น่าจะต้องกลับไปคิดให้หนักๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น