xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.ติงรัฐไร้กึ๋นป้องสถาบัน-แก้ไฟใต้ ก่อนผ่านร่างงบ 53 ฉลุย 109 ต่อ 0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรณ์ จาติกวณิช
วุฒิฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบ 53 กร่อย ส.ว.น้อยใจ นายกฯ-รมต.ไม่มาฟังอภิปราย พร้อมติงการใช้งบขาดรายละเอียด เหตุนำไปรวมใน พ.ร.บ.เงินกู้ 8 แสนล้าน ตรวจสอบได้ยาก “กรณ์” แจงงบฯ 53 กับเงินกู้ไทยเข้มแข็งสอดคล้องกัน “ตวง” จวกรัฐไร้กึ๋นพิทักษ์สถาบัน-งบแก้ไฟใต้ไม่ถึงมือ ปชช. สุดท้ายที่ประชุมลงมติผ่านฉลุย 109 ต่อ 0 งดออกเสียง 5

การประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ที่สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้ว เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00 น วันที่ 14 ก.ย. โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งมี ส.ว.แสดงความจำนงขอใช้สิทธิอภิปรายจำนวน 51 คน โดยในช่วงต้นของการอภิปรายนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ยังเดินทางมาไม่ถึงที่ประชุมจนทำให้ ส.ว.หลายคนแสดงความไม่พอใจและลุกขึ้นกล่าวตำหนิที่รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญกับสมาชิกวุฒิสภา

เมื่อถึงเวลา 12.15 น. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้แสดงความไม่พอใจที่นายกรัฐมนตรีไม่มาร่วมฟังการประชุม จึงได้ลุกขึ้นเสนอให้พักการประชุม โดยให้เหตุผลว่า ไม่รู้ว่าพูดให้ใครฟัง ไม่รู้จะพูดกันไปทำไม และไม่ทราบว่าการตกลงกันอะไรหรือไม่ รัฐบาลจึงไม่สนใจมารับฟังการอภิปรายของ ส.ว. แต่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมชี้แจงว่า มีตัวแทน ครม.มาร่วมรับฟังการอภิปรายแล้ว แต่อาจไม่ได้อยู่ในห้อง ขณะที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ซึ่งมาร่วมรับฟังการประชุมอยู่ได้ชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพิจารณางบประมาณ และจะมีตัวแทน ครม.มานั่งฟังกันเป็นระยะๆ

ด้าน นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี กล่าวว่า ไม่ทราบรัฐบาลย่ามใจไปหรือไม่ที่คิดว่าอย่างไรวุฒิสภาก็ต้องลงมติผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ จึงไม่สนใจฟังกัน ฝากประธานไปบอกรัฐบาลด้วยว่าควรให้ความสนใจมากกว่านี้ เพราะขณะนี้ ส.วได้หารือกันแล้วอยากสร้างประวัติสักครั้งด้วยการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ทำให้นายนิคม ต้องกล่าวผ่านไมโครโฟนว่า หากรัฐมนตรีมาแล้วขอให้เข้ามานั่งในห้องประชุมสภา เพื่อฟังการอภิปรายของสมาชิกด้วย

จากนั้น สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อลงทุนไว้น้อยมาก เพราะถูกโยกไปอยู่ใน พ.ร.บ.กู้เงิน จนทำให้ตรวจสอบยาก นอกจากนี้ การจัดสรรงบประมาณไปยังหน่วยงานต่างๆ ยังมีความซ้ำซ้อน รวมถึงไม่มีแผนการบูรณาการที่ชัดเจน รวมถึงเม็ดเงินที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ราคาพืชผลการเกษตรที่เป็นเรื่องสำคัญแต่ยังกลับจัดสรรให้ในปริมาณที่น้อย

ต่อมาในเวลา 17.30 น. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่า พ.ร.บ.งบประมาณปี 53 และ พ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการไทยเข้มแข็งนั้น มีความสอดคล้องกัน เพื่อให้รัฐบาลมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในส่วน พ.ร.ก.กู้เงินจะเบิกจ่ายได้เดือนตุลาคมนี้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งกำลังอยู่ในชั้นวุฒิสภา ส่วนใหญ่จะเป็นงบประมาณของรัฐวิสาหกิจที่มีเม็ดเงินมาจากการลงทุนของตนเอง เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ รวม 1.43 ล้านล้านบาท ส่วนเงินคงคลังซึ่งมีอยู่เกือบ 3 แสนล้านบาทนั้น ถือว่า มีจำนวนมาก สิ้นปีงบประมาณคาดว่า จะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท เท่ากับต้นปีงบประมาณ 52 ฉะนั้นจึงถือว่า มั่นคง และสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่มีสัญญาณดีขึ้น ซึ่งการใช้งบประมาณจำนวนนี้ทั้งหมดมีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมามีสภาพคล่องตัวมากขึ้น

ด้าน นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า เรื่องการพิทักษ์สถาบัน จนถึงขณะนี้รัฐบาลไม่สามารถจัดการได้ เพราะขณะนี้กระบวนการมีความซับซ้อน รัฐควรให้ภาคสังคมเข้ามาช่วย อาทิเรื่อง เว็บไซต์ พูดกันมาตั้งแต่ปี 51 จนถึงขณะนี้ สะท้อนว่า รัฐบาลไม่มีปัญญาจะแก้ จึงขอฝากไปยังนายกฯ ว่าสถาบันเป็นฟางเส้นสุดท้ายของสังคม ถ้ารัฐบาลปกป้องไม่ได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้

ส่วนเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลต้องทบทวนนโยบายการแก้ไขใหม่ เพราะที่ผ่านมาแก้ไขไม่ได้ งบประมาณที่จัดสรรลงไปเฉลี่ยหัวละ 1 แสนบาท ถ้าแจกเลย จะถึงประชาชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ งบลงไปไม่ถึงประชาชน ถามว่า รัฐบาลจะประเมินการใช้งบในปัจจุบันอย่างไร รวมถึง งบที่ลงไปเป็นเบี้ยหัวแตก เพราะทำกันหลายกระทรวงจึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ รัฐบาลยืนยันว่า ทำมาถูกทาง ถามว่า ถูกทางของใคร เหตุการณ์รุนแรงเกิดไม่เว้นแต่ละวัน

ด้าน นายวรวิทย์ วงษ์สุวรรณ ส.ว.ลพบุรี อภิปรายว่า ในฐานะที่มีนามสกุลเดียวกับ รมว.กลาโหม ขอพูดเกี่ยวกับงบในส่วนของทหารในด้านการท่องเที่ยว โดยมีผลวิจัยระบุว่าสิ่งที่นักท่องเที่ยวใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวคือเรื่องความปลอดภัย ซึ่งในหน่วยทหารของทั้ง กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศมีแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสความงามและศึกษาประวัติศาสตร์มาก แต่กลับมีการจัดงบด้านการท่องเที่ยวให้หน่วยทหารรวมกันเพียงแค่ 10 ล้านบาท ขณะที่กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณทั้งหมดจำนวน 1.5 แสนล้านบาท เทียบได้แค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์ เมื่อรัฐบาลได้ประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติตนขอเสนอให้มีการจัดงบประมาณเพิ่มเติมให้จำนวน 200-300 ล้านบาท กับหน่วยท่องเที่ยวของทหารด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า การประชุมวุฒิสภาได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่ ส.ว.จะอภิปรายสะท้อนปัญหาของรัฐบาลที่แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ในหลายเรื่อง ซึ่งได้มีการแนะนำการทำงานของรัฐบาล

จนกระทั่งเวลา 21.25 น. ที่ประชุมได้มีการลงมติ โดยมีการนับองค์ประชุมก่อน พบว่ามีผู้เข้าประชุม 114 คน ถือว่าครบองค์ประชุม ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่า มี ส.ว.ที่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 จำนวน 109 คน ผู้ไม่เห็นชอบไม่มี ผู้ไม่ลงคะแนนไม่มี ส่วนงดออกเสียงมี 5 คน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้ไว้ด้วย ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับข้อสังเกตดังกล่าว 110 คน งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังการลงมติ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มากล่าวขอบคุณ ส.ว.ที่ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น