“ดิเรก” ยังดันทุรังแก้รัฐธรรมนูญตามคณะกรรมการสมานฉันท์ ปูดรัฐบาลเตี๊ยมพรรคร่วมเดินเกมแก้ 2 มาตรา ชม “เพื่อแม้ว” อ่านหมากออก ดัน รธน.40 สู้ หวังต่อรองรัฐ แต่ไม่ทำประชามติ ชี้ปรองดองยาก แนะตั้ง ส.ส.ร.3 แก้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ใน 2 ประเด็นคือ มาตรา 190 สนธิสัญญา และเรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายวิจารณ์ว่า ที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอแก้ใน 2 ประเด็นเป็นเรื่องที่รัฐบาลรับรู้ ทุกคนหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรู้เห็นเป็นใจกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่แค่นิ่งๆ เอาไว้เท่านั้นเอง ให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้เสนอ ตนมาวิเคราะห์ว่าถ้าเดินไปอย่างนี้บ้านเมืองสมานฉันท์ไม่ได้ เราอยากให้มันเกิดสมานฉันท์และเดินไปด้วยกัน ไม่มีเหลี่ยมอะไรกัน ให้ทุกคนคิดว่าเรื่องของบ้านเมืองทุกคนต้องช่วยกันคิดแล้วนะ ทำไมเราไม่มาร่วมแก้ไขให้มันตรงไปตรงมา
นายดิเรกกล่าวต่อว่า ยังอยากให้รัฐบาลหันมามองแนวทางของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่พวกเราได้เสนอให้รัฐบาลทั้ง 3 กรอบ ลดการอคติใส่ร้ายป้ายสีกันและกัน และการเจรจากันเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องพูดกัน ตนอยากให้รัฐบาลทบทวนตรงนี้ทำไปพร้อมกันทั้ง 3 กรอบ การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยากให้เป็นไปตามประเด็นที่เราได้เสนอไว้ ในระยะยาวเราก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญปี 50 ใหม่ด้วย เหตุผลก็คือว่า จริงอยู่มีข้อดีเยอะ แต่ข้อเสียก็เยอะ เอาข้อดีเก็บไว้แก้ข้อเสีย โดยการตั้ง ส.ส.ร.3 ชุดใหม่ มาจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็จะมาจากคนไทยโดยแท้จริง มันก็จะแก้วิกฤตปัญหาได้
“เพราะฉะนั้น การที่ฝ่ายค้านถอนตัวไป และเสนอรัฐธรรมนูญปี 40 เข้ามานั้น ผมว่าฝ่ายค้านอ่านหมากเกมนี้ออก เมื่อเขาถอนไปแล้วจึงได้เสนอแนวทางนี้ขึ้นมา เพื่อให้มีเครื่องมือต่อรองกับรัฐบาล เรายังคิดกันอย่างนี้อยู่ไม่เอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ความสามานฉันท์ก็คงจะยาก เมื่อสมานฉันท์ยากก็จะเกิดปัญหาตามมาในอนาคต รอนึกภาพเอาเองบ้านเมืองจะเป็นยังไง ในฐานะที่เราเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ฯก็อยากจะเห็นบ้านเมืองเดินไปได้ รัฐบาลทำงานได้ ดังนั้นเพื่อให้บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติก็ต้องพูดจากกัน อย่าไปคิดว่าเอาประโยชน์ฝ่ายตัวเองเป็นหลัก ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่มีอะไรดีเท่ากับการคุยกัน ในช่วงเวลานี้คงยากที่จะสมานฉันท์ พี่น้องประชาชนอาจไม่รู้ว่าฝ่ายค้านได้ค้านอย่างไร เขาต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเดียว ไม่มีการทำประชามติ” นายดิเรกกล่าว
