xs
xsm
sm
md
lg

ชทพ.ลิงโลด!! ลั่นหนูทำได้รวม 3 พรรคแก้ รธน. ปูดบิ๊กเซอร์ไพรส์พรรคต่างขั้วหนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา
โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา สุดปลื้ม!! ประกาศความสำเร็จรวม ส.ส.3 พรรค แก้รัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ได้แล้ว เชิญสื่อจับตาบิ๊กเซอร์ไพรส์ พรรคต่างขั้วร่วมหนุน โต้ “ดิเรก” ยันแก้หมด 6 ประเด็น เสี่ยงขัดแย้งหนัก เมิน “น้าญัติ” ค้าน บอกรอผลประชุมประชาธิปัตย์อย่างเดียว ไล่กลับไปคิดให้ ส.ส.ฟรีโหวตทำถูกหรือไม่ ปล่อยไก่ตัวโต พูด รธน.40 เคยทำประชามติ

วันนี้ (22 ม.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติพัฒนา แถลงว่า พรรคขอประกาศความสำเร็จในการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 ใน 2 ประเด็น และเบื้องต้นขอขอบคุณพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่มีความกล้าหาญ และเห็นแก่ประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม ที่ร่วมมือกันกับพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม แม้เรายังไม่แน่ใจว่าพันธกิจดังกล่าวที่สุดแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็แล้วแต่รัฐสภา แต่อย่างไรก็ตาม ตนอยากทำนายความเสร็จของเราว่าไม่น่าจะจบสิ้นแค่การรวบรวม เสียงได้ถึง 1 ใน 5 เพื่อที่จะยื่นญัตติฯ แต่เราเชื่อมั่นว่าในที่สุดแล้วเราจะได้เสียงสนับสนุนในรัฐสภาเพียงพอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น

“พรรคยังเชื่อมั่นว่าที่สุดในขั้นตอนการลงมติรับหลักการ และการตั้งคณะกรรมาธิการจะมี ส.ส.มากกว่า 3 พรรคการเมือง เข้าร่วมมือและเห็นพ้องกับพรรคในเรื่องนี้ ผมทำนายว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในขั้นตอนต่อไป ขอให้สื่อจับตาดูก็แล้วกัน ขณะเดียวกันขอขอบพระคุณประชาชนที่มีผลโพลล์บางส่วนที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่า ครึ่งแสดงความเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสองประเด็น” นายวัชระกล่าว

นายวัชระกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แสดงความเห็นคัดค้าน พรรคอยากเรียกร้องให้นายดิเรก พิจารณาถึงที่มาที่ไปของประเด็นที่พรรคขอเสนอ แก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเด็นเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ส่วนประเด็นที่เหลือมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ดังนั้นมองว่าเมื่อพรรคชาติไทยพัฒนาได้ริเริ่มและลงมือทำในส่วนที่ปฏิบัติ ได้แล้วขอให้แต่ละฝ่ายมาร่วมมือกันน่าจะดีกว่า

นายวัชระกล่าวว่า กรณีที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคชาติไทยพัฒนามองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคใหญ่ที่สมาชิกสามารถแสดงความคิดเห็นส่วนตัวได้ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งความคิดเห็นที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของพรรค ส่วนตัวเคารพในตัวนายบัญญัติและเคารพความคิดเห็นของนายบัญญัติ แต่ขอเรียกร้องให้นายบัญญัติเข้าใจถึงจุดยืนและจุดมุ่งหมายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ไม่ได้ต่างไปจากความเห็นของนายบัญญัติที่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน

“ความคิดหรือความเห็นที่ชี้นำหรือดูถูกพรรคอื่นว่าแย่หรือเลวกว่า ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ไม่เหมาะสมกับสังคมไทยที่ต้องการความสมัครสมาน สามัคคี ผมคงรอความเห็นของที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์จะมีความเห็นสรุปในสุด สัปดาห์นี้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าที่นายบัญญัติบอกว่าการเลือกตั้งพวงใหญ่ในรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นความเห็นของประชาชน เพราะเท่าที่จำได้ รัฐธรรมนูญปี 2540 ประชาชนได้ทำประชามติและเห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ขณะที่รัฐธรรมนูญปี 2550 มีการรณรงค์ว่าให้รับไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขกัน พรรคยืนยันว่าการแก้ไขในครั้งนี้พรรคไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเลือกตั้งระบบใดพรรคก็จะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ไม่ได้ตัวเลข ส.ส.เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด” นายวัชระกล่าว

เมื่อถามว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมรับเข้าร่วมด้วยจะเป็นอย่างไร นายวัชระกล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าในวันที่โหวตจริง จะไม่มีการเปลี่ยนใจหรือไม่มีเหตุผลที่ดีเกิดขึ้น พรรคให้ความสำคัญกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเพื่อร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ให้ความสนใจกับคำตอบของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ยังมีเวลามากพอที่จะพูดคุยทำความเข้าใจ ตนจึงได้บอกว่าอาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น โดยอาจจะเกิดจากพรรคการเมืองที่มีความเห็นต่างขั้วกันอย่างสิ้นเชิงที่อาจ เห็นตรงกันในเรื่องนี้ก็ได้

เมื่อถามว่าแสดงได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยแล้วใช่หรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า ในระดับ ส.ส.มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลาอยู่แล้ว ส่วนในระดับผู้บริหารตนไม่ทราบว่ามีการพูดคุยกันอย่างไร ทั้งนี้พรรคได้ยืนยันจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอดโดยไม่เคยเปลี่ยน แปลงจุดยืนเลย เราจึงจะเดินหน้าพยายามต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟรีโหวตในรัฐสภาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหมาะสมหรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องตอบเองว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพรรคใหญ่ อยู่มานานกว่าพรรคชาติไทยพัฒนามาหลาย 10 ปี ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ต้องตัดสินใจว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะฟรีโหวต
กำลังโหลดความคิดเห็น