พันธมิตรฯ ลั่นชุมนุมใหญ่ต้านแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้องนักการเมือง แนะประชาธิปัตย์ยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย อย่าให้พรรคร่วมรุมบีบ ด้านชทพ. มั่นใจเสียงสนับสนุนยื่นญัตติแก้ไข แย้มอาจมีบิ๊กเซอร์ไพร้ส์จากพรรคต่างขั้ว เมินปชป.ไม่ร่วมมือ
วานนี้ (22 ม.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง และประกาศเจตนารมย์ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้ร่วมกันแถลงข่าว ออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ เมื่อพรรคร่วมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็จะต้องคัดค้านแก้ไขที่มุ่งไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัว พวกพ้องจนถึงที่สุด ตามที่พันธมิตรฯได้เคยประกาศไว้ตลอดการชุมนุม 193 วัน
"การชุมนุมประท้วงเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก แต่พันธมิตรฯ ก็พร้อมจะเหนื่อยอีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าใคร หรือพรรคการเมืองใดจะยื่นแก้ไขก็ตาม เพราะพันธมิตรฯมองว่า การแก้ไขในครั้งนี้ คือการตั้งใจให้เกิดความปั่นป่วนของบ้านเมือง"
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ตัวนักการเมืองเอง ทำไมจึงไม่คิดแก้ ส.ส.น่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการออกกฏหมาย ตรวจสอบรัฐบาล หรือแก้ปัญหาใหญ่ๆของชาติ ทำไมจึงไม่ทำ ทำไมจึงมาเสียเวลาอะไรอย่างนี้ แต่เรื่องใกล้ตัวที่สุดกลับไม่ทำ
"ผมมองว่าไม่มี ส.ส.ยุคไหนที่แย่เท่าสมัยนี้ ส.ส.บางคนกระโดดถีบเพื่อน ส.ส.ด่ากัน พูดจาหยาบคายใส่กัน ถือเป็นเรื่องที่แย่ แต่ทำไมกลับไม่แก้ พวกส.ส.รับเงินเดือนเต็มที่ กลับทำงานไม่เต็มที่ บ้างก็ป่วนจนทำสภาล่ม เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก แต่จะมาแก้รธน. เป็นเรื่องที่แก้ไม่ถูกจุด รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา ส่วนพันธมิตรฯจะออกมาชุมนุมทันทีที่ยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอให้รอดูสถานการณ์ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการมุ่งทำให้ชาติปั่นป่วน ยังไงพันธมิตรฯ ก็ต้องออกมาคัดค้านอยู่แล้ว อยู่ดีดีไปทำเรื่องอื่นไม่ได้ หรือทำไมต้องมาทำเรื่องนี้ด้วย"
พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า ทุกครั้งที่แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีการชุมนุมเราจะย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า ยังคัดค้านแก้รธน.50 อยู่ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลในสมัยนั้นออกไป แต่รัฐบาลนี้ พันธมิตรฯไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะออกมาไล่ แต่ถ้าพรรคใดออกมาแก้ไข เราก็พร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และจะทำจนถึงที่สุด แต่ทุกอย่างต้องดูให้รอบคอบก่อนจะออกมาชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดช่วงไหน ต้องดูสถานการณ์กันก่อน
ทั้งนี้ ขอฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า พันธมิตรฯ ยังคงจุดมุ่งหมายเดิม ถ้ามีการแก้ไขรธน. พันธมิตรฯ ก็จะคัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว 193 วัน ถ้ามันจะทำให้ตนต้องติดคุกอีกสักทีก็จะเอา
ด้าน นายพิภพ ธงไชย กล่าวว่าใน 2-3 เดือนนี้ จะมีจุดเปลี่ยนทางการเมือง ซึ่งส่วนตัวมองว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ควรออกมาร่วมสร้างเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง โดยการเสนอแก้ไขรธน.ของพรรคร่วม ทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่ประเทศมีวิกฤติ นักการเมืองกลับไม่แก้ แต่กลับไปเพิ่มวิกฤต ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องกล้าตัดสินใจที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองหรือไม่
ทั้งนี้ ตนแนะนำว่า ถ้าพรรคร่วมยังตัดสินใจที่จะแก้ไขรธน. พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตัดสินใจที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทั้งนี้ ตนเชื่อการที่พรรคร่วมเสนอแก้รัฐธรรมนูญ ในเรื่องเขตเลือกตั้งก็เพียงหวังให้ซื้อสิทธิ์ ซื้อเสียงกันง่ายขึ้น
ส่วนที่เสนอแก้มาตรา 190 เข้าด้วยนั้น ก็เพียงหวังเอาใจพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะต้องกล้าตัดสินใจ
ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า ถ้าพรรคร่วมไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไม่เข้าร่วมแก้รธน. แล้วขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่ต้องยุบสภาแล้วประชาชนจะเข้ามาสนับสนุนเอง
ส่วนกรณีดังกล่าวจะทำให้กลุ่มเสื้อแดงออกมาร่วมเคลื่อนไหวจนเกิดความปั่นป่วนหรือไม่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ความปั่นป่วนในกองทัพขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังมีทหารนอกแถวได้ซ่องสุ่มกำลัง คลังอาวุธครบถ้วน ตอนนี้เหลือเพียงความปั่นป่วนในรัฐสภาเพียงอย่างเดียว ซึ่งตนมองว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะ
ไม่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนนอกสภา แต่เรื่องแก้ไขรธน.นี้ ถือว่าเป็นการจงใจ ที่จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น ตนเห็นว่า รัฐบาลจะต้องตั้งรับให้ทัน ไม่ใช่ไปรับลูกพรรคร่วม เข้าร่วมแก้รธน. เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้เผ่าพันธุ์ชั่วทางการเมืองได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พันธมิตรฯ จึงต้องออกแถลงการณ์เตือนก่อนที่จะมีการแก้รธน. เกิดขึ้น
ชทพ.คุยอาจมีบิ๊กเซอร์ไพร้ส์
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคประสบความสำเร็จ ในการรวบรวมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 5 ของสมาชิกสภา เพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 ใน 2 ประเด็น โดยเบื้องต้นมีพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าร่วม
"พรรคยังเชื่อมั่นว่า ที่สุดในขั้นตอนการลงมติรับหลักการ และการตั้งคณะกรรมาธิการจะมี ส.ส.มากกว่า 3 พรรคการเมือง เข้าร่วมมือ และเห็นพ้องกับพรรคในเรื่องนี้ ผมทำนายว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ ในขั้นตอนต่อไป ขอให้สื่อจับตาดูก็แล้วกัน"
นายวัชระ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรธน. ว่า ขอให้นายบัญญัติ เข้าใจถึงจุดยืนและจุดมุ่งหมายของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไม่ได้ต่างไปจากความเห็นของนายบัญญัติ ที่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน
"ความคิดหรือความเห็นที่ชี้นำหรือดูถูกพรรคอื่น ว่าแย่หรือเลวกว่า ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ไม่เหมาะสมกับสังคมไทยที่ต้องการความสมัครสมานสามัคคี ผมคงรอความเห็นของที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์จะมีความเห็นสรุปในสุดสัปดาห์นี้ " นายวัชระกล่าว
เมื่อถามว่า หากประชาธิปัตย์ไม่ยอมร่วมแก้ด้วยจะเป็นอย่างไร นายวัชระ กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าในวันที่โหวตจริง จะไม่มีการเปลี่ยนใจ หรือไม่มีเหตุผลที่ดีเกิดขึ้น พรรคให้ความสำคัญกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเพื่อนร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ให้ความสนใจกับคำตอบของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ตนจึงได้บอกว่า อาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น โดยอาจจะเกิดจากพรรคการเมืองที่มีความเห็นต่างขั้วกันอย่างสิ้นเชิง ที่อาจเห็นตรงกันในเรื่องนี้ก็ได้
"พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นพรรคใหญ่ อยู่มานานกว่าพรรคชาติไทยพัฒนามาหลายสิบปี ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องตัดสินใจว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะฟรีโหวต" โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนากล่าว
"ชวรัตน์" พ่วงอีก 2 มาตรา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ออกมาขู่ว่าหากมีฟรีโหวตในการแก้ไขรธน. ทางพรรคอาจจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า พรรคไม่เคยมีความเห็นเช่นนี้ ข่าวที่ออกมานั้นก็ดูแปลก ตอนนี้มีข่าวแปลกๆ ออกมาอยู่เรื่อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข่าวลือ
ส่วนที่มีข่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ออกมาประกาศว่าจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย หากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรธน.นั้น ตนคิดว่าทางที่ดีควรไปถามเจ้าตัวเองจะดีกว่า ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ยังยืนยันในจุดยืนเดิม
" ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งแกนนำรัฐบาลจะต้องมีการเรียกประชุม และเคลียร์ปัญหาในเรื่องรธน. ทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลจะร่วมกับพรรคแกนนำในการแก้ปัญหา เรื่องการแก้ไขรธน. ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ในมาตรา 265 และ 266 นั้น ก็ยังยืนยันว่ามี 2 ข้อ ที่ต้องแก้ไข" นายชวรัตน์ กล่าว
ปชป.ยันให้รอสัมมนาพรรค
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคว่า ตอนนี้ก็ต่างคนต่างพูด แสดงความคิดเห็นกันไป แต่สุดสัปดาห์นี้จะมีการสัมมนาพรรคกันที่ จ.กระบี่ จะให้พูดจากันทุกประเด็น และวันจันทร์ที่ 25 ม.ค. ก็จะได้ข้อสรุป
เมื่อถามว่า ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่าจะทำให้แนวคิดของพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้รัฐธรรมนูญเดินไปในทางเดียวกัน เมื่อเสนอเข้าสู่สภาฯนายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนหวังที่จะให้ทุกพรรคที่ร่วมกันเป็นรัฐบาล สามรถมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คล้อยตามกัน เพื่อรักษาความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของรัฐบาลเอาไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลัวคำขู่ของนายบรรหาร ที่จะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นคำขู่ ไม่มีหรอกท่านไม่ได้ขู่อย่างนั้น
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ใช่คำขู่จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เป็นไปไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ล่มเพราะเรื่องนี้ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า "รัฐบาลคงไม่ล่มง่ายๆ รัฐบาลนี้แข็งแรง" นายสุเทพกล่าว
วานนี้ (22 ม.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง และประกาศเจตนารมย์ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้ร่วมกันแถลงข่าว ออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ เมื่อพรรคร่วมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็จะต้องคัดค้านแก้ไขที่มุ่งไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัว พวกพ้องจนถึงที่สุด ตามที่พันธมิตรฯได้เคยประกาศไว้ตลอดการชุมนุม 193 วัน
"การชุมนุมประท้วงเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก แต่พันธมิตรฯ ก็พร้อมจะเหนื่อยอีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าใคร หรือพรรคการเมืองใดจะยื่นแก้ไขก็ตาม เพราะพันธมิตรฯมองว่า การแก้ไขในครั้งนี้ คือการตั้งใจให้เกิดความปั่นป่วนของบ้านเมือง"
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ตัวนักการเมืองเอง ทำไมจึงไม่คิดแก้ ส.ส.น่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการออกกฏหมาย ตรวจสอบรัฐบาล หรือแก้ปัญหาใหญ่ๆของชาติ ทำไมจึงไม่ทำ ทำไมจึงมาเสียเวลาอะไรอย่างนี้ แต่เรื่องใกล้ตัวที่สุดกลับไม่ทำ
"ผมมองว่าไม่มี ส.ส.ยุคไหนที่แย่เท่าสมัยนี้ ส.ส.บางคนกระโดดถีบเพื่อน ส.ส.ด่ากัน พูดจาหยาบคายใส่กัน ถือเป็นเรื่องที่แย่ แต่ทำไมกลับไม่แก้ พวกส.ส.รับเงินเดือนเต็มที่ กลับทำงานไม่เต็มที่ บ้างก็ป่วนจนทำสภาล่ม เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก แต่จะมาแก้รธน. เป็นเรื่องที่แก้ไม่ถูกจุด รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา ส่วนพันธมิตรฯจะออกมาชุมนุมทันทีที่ยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอให้รอดูสถานการณ์ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการมุ่งทำให้ชาติปั่นป่วน ยังไงพันธมิตรฯ ก็ต้องออกมาคัดค้านอยู่แล้ว อยู่ดีดีไปทำเรื่องอื่นไม่ได้ หรือทำไมต้องมาทำเรื่องนี้ด้วย"
พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า ทุกครั้งที่แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีการชุมนุมเราจะย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า ยังคัดค้านแก้รธน.50 อยู่ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลในสมัยนั้นออกไป แต่รัฐบาลนี้ พันธมิตรฯไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะออกมาไล่ แต่ถ้าพรรคใดออกมาแก้ไข เราก็พร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และจะทำจนถึงที่สุด แต่ทุกอย่างต้องดูให้รอบคอบก่อนจะออกมาชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดช่วงไหน ต้องดูสถานการณ์กันก่อน
ทั้งนี้ ขอฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า พันธมิตรฯ ยังคงจุดมุ่งหมายเดิม ถ้ามีการแก้ไขรธน. พันธมิตรฯ ก็จะคัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว 193 วัน ถ้ามันจะทำให้ตนต้องติดคุกอีกสักทีก็จะเอา
ด้าน นายพิภพ ธงไชย กล่าวว่าใน 2-3 เดือนนี้ จะมีจุดเปลี่ยนทางการเมือง ซึ่งส่วนตัวมองว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ควรออกมาร่วมสร้างเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง โดยการเสนอแก้ไขรธน.ของพรรคร่วม ทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่ประเทศมีวิกฤติ นักการเมืองกลับไม่แก้ แต่กลับไปเพิ่มวิกฤต ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องกล้าตัดสินใจที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองหรือไม่
ทั้งนี้ ตนแนะนำว่า ถ้าพรรคร่วมยังตัดสินใจที่จะแก้ไขรธน. พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตัดสินใจที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทั้งนี้ ตนเชื่อการที่พรรคร่วมเสนอแก้รัฐธรรมนูญ ในเรื่องเขตเลือกตั้งก็เพียงหวังให้ซื้อสิทธิ์ ซื้อเสียงกันง่ายขึ้น
ส่วนที่เสนอแก้มาตรา 190 เข้าด้วยนั้น ก็เพียงหวังเอาใจพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะต้องกล้าตัดสินใจ
ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า ถ้าพรรคร่วมไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไม่เข้าร่วมแก้รธน. แล้วขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่ต้องยุบสภาแล้วประชาชนจะเข้ามาสนับสนุนเอง
ส่วนกรณีดังกล่าวจะทำให้กลุ่มเสื้อแดงออกมาร่วมเคลื่อนไหวจนเกิดความปั่นป่วนหรือไม่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ความปั่นป่วนในกองทัพขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังมีทหารนอกแถวได้ซ่องสุ่มกำลัง คลังอาวุธครบถ้วน ตอนนี้เหลือเพียงความปั่นป่วนในรัฐสภาเพียงอย่างเดียว ซึ่งตนมองว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะ
ไม่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนนอกสภา แต่เรื่องแก้ไขรธน.นี้ ถือว่าเป็นการจงใจ ที่จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น ตนเห็นว่า รัฐบาลจะต้องตั้งรับให้ทัน ไม่ใช่ไปรับลูกพรรคร่วม เข้าร่วมแก้รธน. เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้เผ่าพันธุ์ชั่วทางการเมืองได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พันธมิตรฯ จึงต้องออกแถลงการณ์เตือนก่อนที่จะมีการแก้รธน. เกิดขึ้น
ชทพ.คุยอาจมีบิ๊กเซอร์ไพร้ส์
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคประสบความสำเร็จ ในการรวบรวมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 5 ของสมาชิกสภา เพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 ใน 2 ประเด็น โดยเบื้องต้นมีพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าร่วม
"พรรคยังเชื่อมั่นว่า ที่สุดในขั้นตอนการลงมติรับหลักการ และการตั้งคณะกรรมาธิการจะมี ส.ส.มากกว่า 3 พรรคการเมือง เข้าร่วมมือ และเห็นพ้องกับพรรคในเรื่องนี้ ผมทำนายว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ ในขั้นตอนต่อไป ขอให้สื่อจับตาดูก็แล้วกัน"
นายวัชระ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรธน. ว่า ขอให้นายบัญญัติ เข้าใจถึงจุดยืนและจุดมุ่งหมายของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไม่ได้ต่างไปจากความเห็นของนายบัญญัติ ที่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน
"ความคิดหรือความเห็นที่ชี้นำหรือดูถูกพรรคอื่น ว่าแย่หรือเลวกว่า ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ไม่เหมาะสมกับสังคมไทยที่ต้องการความสมัครสมานสามัคคี ผมคงรอความเห็นของที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์จะมีความเห็นสรุปในสุดสัปดาห์นี้ " นายวัชระกล่าว
เมื่อถามว่า หากประชาธิปัตย์ไม่ยอมร่วมแก้ด้วยจะเป็นอย่างไร นายวัชระ กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าในวันที่โหวตจริง จะไม่มีการเปลี่ยนใจ หรือไม่มีเหตุผลที่ดีเกิดขึ้น พรรคให้ความสำคัญกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเพื่อนร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ให้ความสนใจกับคำตอบของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ตนจึงได้บอกว่า อาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น โดยอาจจะเกิดจากพรรคการเมืองที่มีความเห็นต่างขั้วกันอย่างสิ้นเชิง ที่อาจเห็นตรงกันในเรื่องนี้ก็ได้
"พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นพรรคใหญ่ อยู่มานานกว่าพรรคชาติไทยพัฒนามาหลายสิบปี ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องตัดสินใจว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะฟรีโหวต" โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนากล่าว
"ชวรัตน์" พ่วงอีก 2 มาตรา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ออกมาขู่ว่าหากมีฟรีโหวตในการแก้ไขรธน. ทางพรรคอาจจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า พรรคไม่เคยมีความเห็นเช่นนี้ ข่าวที่ออกมานั้นก็ดูแปลก ตอนนี้มีข่าวแปลกๆ ออกมาอยู่เรื่อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข่าวลือ
ส่วนที่มีข่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ออกมาประกาศว่าจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย หากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรธน.นั้น ตนคิดว่าทางที่ดีควรไปถามเจ้าตัวเองจะดีกว่า ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ยังยืนยันในจุดยืนเดิม
" ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งแกนนำรัฐบาลจะต้องมีการเรียกประชุม และเคลียร์ปัญหาในเรื่องรธน. ทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลจะร่วมกับพรรคแกนนำในการแก้ปัญหา เรื่องการแก้ไขรธน. ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ในมาตรา 265 และ 266 นั้น ก็ยังยืนยันว่ามี 2 ข้อ ที่ต้องแก้ไข" นายชวรัตน์ กล่าว
ปชป.ยันให้รอสัมมนาพรรค
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคว่า ตอนนี้ก็ต่างคนต่างพูด แสดงความคิดเห็นกันไป แต่สุดสัปดาห์นี้จะมีการสัมมนาพรรคกันที่ จ.กระบี่ จะให้พูดจากันทุกประเด็น และวันจันทร์ที่ 25 ม.ค. ก็จะได้ข้อสรุป
เมื่อถามว่า ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่าจะทำให้แนวคิดของพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้รัฐธรรมนูญเดินไปในทางเดียวกัน เมื่อเสนอเข้าสู่สภาฯนายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนหวังที่จะให้ทุกพรรคที่ร่วมกันเป็นรัฐบาล สามรถมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คล้อยตามกัน เพื่อรักษาความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของรัฐบาลเอาไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลัวคำขู่ของนายบรรหาร ที่จะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นคำขู่ ไม่มีหรอกท่านไม่ได้ขู่อย่างนั้น
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ใช่คำขู่จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เป็นไปไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ล่มเพราะเรื่องนี้ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า "รัฐบาลคงไม่ล่มง่ายๆ รัฐบาลนี้แข็งแรง" นายสุเทพกล่าว
