แกนนำพันธมิตรฯ ลั่นชุมนุมใหญ่ต้านแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้องแน่ “จำลอง” ซัดพรรคร่วมฯ อยู่ดีไม่ว่าดีจงใจป่วนชาติ ปัญหาใหญ่ๆ ไม่แก้ ยันรัฐธรรมนูญไม่ผิด ไล่นักการเมืองแก้สำนึกจริยธรรมตัวเอง อุบออกโรงทันทีที่ยื่นญัตติเข้าสภา บอกรอดูสถานการณ์ก่อน “พิภพ” จี้ “มาร์ค” กล้าตัดสินใจ อย่าสร้างเงื่อนไขเพิ่ม แนะประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถ้าพรรคร่วมตีรวนสลับขั้ว “สมเกียรติ” วอนรัฐบาลอย่ารับลูกแก้ ด้าน “ยะใส” จี้รัฐสอบเอ็ม 79 ถล่ม ทบ.โยงบอมบ์ พธม. ถล่มยิง “สนธิ” ลั่น “อนุพงษ์” ต้องแจงสังคม ใครทำ เตรียมพาคนเจ็บ ญาติวีรชน 7 ตุลา ร้อง ป.ป.ช. 25 ม.ค.นี้
แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2553 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง คำเตือนก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังแกนนำพันธมิตรฯ ตอบคำถามนักข่าว
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง และประกาศเจตนารมณ์ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การนัดประชุมแกนนำพันธมิตรในครั้งนี้ถึงคราวที่จะต้องคุยกันในเรื่องดังกล่าว เพราะจะเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ เมื่อพรรคร่วมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็จะต้องคัดค้านแก้ไขทื่มุ่งไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัวพวกพ้องจนถึงที่สุด ตามที่พันธมิตรได้เคยประกาศไว้ตลอดการชุมนุม 193 วัน โดยยอมรับว่า การชุมนุมประท้วงเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก แต่พันธมิตรฯ ก็พร้อมจะเหนื่อยอีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าใครหรือพรรคการเมืองใดจะยื่นแก้ไขก็ตาม เพราะพันธมิตรมองว่า การแก้ไขในครั้งนี้คือการตั้งใจให้เกิดความปั่นป่วนของบ้านเมือง
จำลอง ย้ำจุดยืนพันธมิตรฯ คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ปัญหาทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ตัวนักการเมืองเอง ทำไมจึงไม่แก้ ส.ส.น่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการออกกฏหมาย ตรวจสอบรัฐบาล หรือแก้ปัญหาใหญ่ๆ ของชาติ ทำไมจึงไม่ทำ ทำไมจึงมาเสียเวลาอะไรอย่างนี้ แต่เรื่องใกล้ตัวที่สุดกลับไม่ทำ ทั้งนี้ตนมองว่า ไม่มี ส.ส.ยุคไหนที่แย่เท่าสมัยนี้ ส.ส.บางคนกระโดดถีบเพื่อน ส.ส. ด่ากัน พูดจาหยาบคายใส่กัน ถือเป็นเรื่องที่แย่ แต่ทำไมกลับไม่แก้ พวก ส.ส.รับเงินเดือนเต็มที่กลับทำงานเป็นที บ้างก็ป่วนจนทำสภาล่ม เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก แต่จะมาแก้รธน.เป็นเรื่องที่แก้ไม่ถูกจุด รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา ส่วนพันธมิตรจะออกมาชุมนุมทันทีที่ยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนขอให้รอดูสถานการณ์ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการมุ่งทำให้ชาติปั่นป่วน ยังไงพันธมิตรฯ ก็ต้องออกมาคัดค้านอยู่แล้ว สมเกียรติ เชื่อ แก้รัฐธรรมนูญคือการรักษาสายพันธุ์นักการเมืองชั่ว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีการชุมนุม เราจะย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า ยังคัดค้านแก้รัฐธรรมนูญปี 50 อยู่ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลในสมัยนั้นออกไป แต่รัฐบาลนี้พันธมิตรฯ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะออกมาไล่ แต่ถ้าพรรคใดออกมาแก้ไข เราก็พร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และจะทำจนถึงที่สุด แต่ทุกอย่างต้องดูให้รอบคอบก่อนจะออกมาชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดช่วงไหน ต้องดูสถานการณ์กันก่อน ทั้งนี้ยังฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า พันธมิตรฯ ยังคงจุดมุ่งหมายเดิม ถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พันธมิตรฯ ก็จะคัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว 193 วัน ถ้ามันจะทำให้ตนต้องติดคุกอีกสักทีก็จะเอา
พิภพ เตือน 3 เดือนอันตราย ประชาธิปัตย์ต้องกล้าตัดสินใจ
ขณะที่ นายพิภพ กล่าวว่า ใน 2-3 เดือนนี้ จะมีจุดเปลี่ยนทางการเมือง ซึ่งส่วนตัวมองว่านายอภิสิทธิ์ไม่ควรออกมาร่วมสร้างเงื่อนไข ที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง โดยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่ประเทศมีวิกฤติ นักการเมืองกลับไม่แก้ แต่กลับไปเพิ่มวิกฤติ ฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะต้องกล้าตัดสินใจที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองหรือไม่ ตนแนะนำว่าถ้าพรรคร่วมยังตัดสินใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตัดสินใจที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทั้งนี้ ตนเชื่อการที่พรรคร่วมเสนอแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องเขตเลือกตั้ง ก็เพียงหวังให้ใช้สิทธิซื้อเสียงกันง่ายขึ้น ส่วนที่เสนอแก้มาตรา 190 เข้าด้วยนั้น ก็เพียงหวังเอาใจพรรคประชาธิปัตย์ให้ทำงานได้ง่ายขึ้น นายกรัฐมนตรีจะต้องกล้าตัดสินใจ
ด้าน พล.ต.จำลอง เสริมว่า ถ้าพรรคร่วมไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไม่เข้าร่วมแก้รัฐธรรมนูญแล้วขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่ต้องยุบสภา แล้วประชาชนจะเข้ามาสนับสนุนเอง
ส่วนกรณีดังกล่าวจะทำให้กลุ่มเสื้อแดงออกมาร่วมเคลื่อนไหวจนเกิดความปั่นป่วนหรือไม่ นายสมเกียรติกล่าวว่า ความปั่นป่วนในกองทัพขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังมีทหารนอกแถวได้ซ่องสุ่มกำลังคลังอาวุธครบถ้วน ตอนนี้เหลือเพียงความปั่นป่วนในรัฐสภาเพียงอย่างเดียว ซึ่งตนมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่ก็ให้เกิดความปั่นป่วนนอกสภา แต่เรื่องแก้ไขรธน.นี้ ถือว่าเป็นการจงใจที่จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น ตนเห็นว่ารัฐบาลจะต้องตั้งรับให้ทันไม่ใช่ไปรับลูกพรรคร่วมเข้าร่วมแก้รัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้เผ่าพันธุ์ชั่วทางการเมืองได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พันธมิตรจึงต้องออกแถลงการณ์เตือนก่อนที่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้น
สุริยะใส คาด ระเบิด ทบ.ยิงสนธิ บึ้มพันธมิตรฯ เกี่ยวข้องกันหมด
สำหรับกรณีการลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กองบัญชาการทหารบกนั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า ตนคิดว่า ทางเจ้าหน้าที่น่าจะขยายผลในเรื่องดังกล่าว มาจนถึงกรณีลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มพันธมิตรในระหว่างการชุมนุมด้วย รวมทั้งคดีลอบยิงนายสนธิ เมื่อเดือนเมษายน 52 ซึ่งตนเชื่อว่า น่าจะเชื่อมโยงกัน และจับกุมลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล จนยึดอาวุธสงครามได้จำนวนมาก วานนี้ (21 ม.ค.) ก็น่าจะมีส่วนในการลอบสังหารนายสนธิ ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้ชี้แจงต่อสังคมเอง ว่าเป็นฝีมือใคร ซึ่งถ้าปล่อยให้อึมครึมแล้ว โอกาสที่ข่าวจะถูกบิดเบือน และมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงเป็นไปได้สูง อีกทั้งประชาชนก็จะไม่ได้รับความจริง
พล.ต.จำลอง กล่าวติดตลกว่า ในขณะที่ตนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ แล้วมีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาทำร้ายประชาชนนั้น เวลาตนเดินผ่านกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งในอดีตเคยเป็นโรงเรียนนักเรียนนายร้อย ตนก็เคยคิดว่าสักวันมันจะต้องโดนบ้าง เพราะกองทัพไม่เคยปกป้องประชาชนได้เลย ปล่อยให้มีการยิงสังหารต่อเนื่อง แล้วในที่สุดก็โดนบ้างจริงๆ ขณะที่กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตนมองว่าก็เป็นเรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงทำผิดรัฐบาลก็ควรใช้กฏหมายไปกำเนินคดี และตนไม่กลัวว่าจะเป็นการเชื่อมโยงมาสู่คดีของพันธมิตรฯ เพราะศัตรูของพันธมิตรคือคนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทั้งนี้ พล.ต.จำลองยังได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีบุคคลออกมาต่อว่า ร.ร.นายร้อย จปร.ด้วยว่า คนจบโรงเรียนนายร้อย ชั่วเป็นรายบุคคล ไม่ได้ชั่วทั้งสถาบัน
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ นำโดยนายพิภพ และจำลอง เตรียมพาผู้บาดเจ็บรวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 7 ตุลา เดินทางไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ในวันจันทร์นี้ (25 ม.ค.) เวลา 10.00น. หลังจากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
