xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่ง พม.ช่วยเยียวยาชาวสุราษฎร์ฯ โดนมือมืดยิงตาย นัดถกปฏิรูปที่ดิน 1 ก.พ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรีเชิญตัวแทนเครือข่าวปฏิรูปที่ดินฯ เข้าพบ กรณีชาวบ้านสุราษฎร์ธานีโดนมือมืดยิงตาย จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฎิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย 1 ก.พ.นี้ ระบุรอคำสั่งศาล-อัยการ เปิดทางรัฐเข้าเคลียร์ สั่ง ก.พัฒนาฯ เยียวยาคนเสียชีวิต “สาทิตย์” ยันรัฐพร้อมรับข้อเรียกร้อง จ่อลงพื้นที่ชุมชนสันติพัฒนา อ.พระแสง ชุมชนคลองไทร และชุมชนไทรงาม อ.ชัยบุรี ด้วย

วันนี้ (20 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย จำนวน 22 คน ได้เข้าพบเพื่อร่วมรับฟังและชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เรื่องความขัดแย้งมาประทุขึ้นเกิดขึ้นราวเดือนพฤศจิกายน 2551 ระหว่างบริษัท จิวกังจุ้ย พัฒนา จำกัด กับกลุ่มชาวบ้านชุมชนสันติพัฒนา อ.พระแสง ชุมชนคลองไทร และชุมชนไทรงาม อ.ชัยบุรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ซักถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และชี้แจงในประเด็นที่ตัวแทนเครือข่ายฯ ได้ขอให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาใน 4 กรณีว่า กรณีการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต (นายสมพร พัฒนภูมิ) รัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำลังหาทางช่วยเหลือและเยียวยา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวชาวบ้านอ้างว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2553 เวลา 19.00 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองและปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่วงสนทนาและรับประทานอาหารค่ำที่นอกชานหน้ากระท่อมที่พักของนายฟอง ขุนฤทธิ์ ซึ่งมีนายสมพร พัฒนภูมิ เพื่อนบ้านมานั่งอยู่ด้วยและถูกกระสุนปืนจนเสียชีวิต

ส่วนกรณีที่ขอให้รัฐบาลพิจารณาจ่ายค่าชดเชยแก่เกษตรกรที่ถูกทำลายบ้านเรือน 60 หลังเมื่อเดือนสิงหาคม 2552 นั้น ขณะนี้รัฐบาลได้มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่กระทำความผิดแล้ว โดยให้กรมสอบสวนพิเศษเข้ามาดำเนินการเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย สำหรับ กรณีที่ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการปฏิรูปที่ดินทำกินของเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ชุมชนสันติพัฒนา อ.พระแสง ชุมชนคลองไทร และชุมชนไทรงาม อ.ชัยบุรี) รวมทั้งกรณีการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศนั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวขณะนี้อยู่ที่อัยการ เป็นอำนาจของศาลในการพิจารณาคดี ในส่วนของรัฐบาลไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ หน้าที่ของรัฐบาลคือดำเนินการทุกอย่างภาคใต้ของกฎหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะไม่ให้ความช่วยเหลือ ตรงกันข้าม รัฐบาลพร้อมที่จะอยู่เคียงข้ามกับเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว โดยยินดีจะร่วมกับตัวแทนเครือข่ายฯ เพื่อไปชี้แจงและหารือกับอัยการในการหาทางออกที่เหมาะสม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น มีความคืบหน้า ชัดเจน และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด

ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ที่ขอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฎิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการสั่งการกรณี ปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการประชุมในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553

ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มนี้เคยมาเรียกร้องและนายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมา แก้ไขปัญหาแล้ว อย่างไรก็ตามกรณีทีเกิดขึ้นเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีบริษัทเอกชนเข้าไปเช่าที่ดินดังกล่าว ต่อมา ส.ป.ก.ต้องการนำที่ดินไปปฏิรูป แต่บริษัทดื้อแพ่งไม่ยอมออกจากพื้นที่ จนต้องฟ้องศาล โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้คืนที่ดินไปแล้ว และอยู่ระหว่างอุทธรณ์ แต่ชาวบ้านที่เสียชีวิตได้เข้าไปอยู่ในที่ดินที่ปฏิรูป เพื่อจับจองที่ดินไว้ก่อน จึงเกิดข้อขัดแย้งกับเจ้าของสวนปาล์มเดิมที่มาเช่าที่ดิน

“ผมได้รับทราบข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่มาประท้วง และได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว เห็นว่ารัฐบาลพร้อมรับข้อเรียกร้อง เช่น กรณีญาติของผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตต้องการให้เร่งรัดคดี กรณีที่มีการบุกรุกเข้าไปทำลายบ้าน 60 หลัง ซึ่งจะต้องสอบสวนใหม่ เพื่อให้สามารถเอาผิดกับผู้ที่กระทำผิดได้หลังจากก่อนหน้านี้มีคำสั่งไม่ฟ้อง และกลุ่มผู้ชุมนุมอยากให้ประชุมคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินชุด ใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีตกลงที่จะประชุมในเดือน ก.พ.นี้ นอกจากนี้เรื่องเงินชดเชยผู้เสียชีวิต ผมได้คุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรขัดข้อง ผมยังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยวางมาตรการดูแล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ยิงกันรุนแรงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นอีก” นายสาทิตย์ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสาทิตย์จะลงพื้นที่ ชุมชน สันติพัฒนา อ.พระแสง ชุมชนคลองไทรและชุมชนไทรงาม อ.ชัยบุรี เพื่อดูปัญหา หลังจากที่ชาวบ้านเข้ามาร้องเรียน แต่ไม่มีรัฐมนตรีคนใดกล้าเข้าไปในพื้นที่เลย

ตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย จำนวน 22 คน ร่วมรับฟังและชี้แจงการแก้ไขปัญหา



กำลังโหลดความคิดเห็น