“อีเพ็ญ” จุ้น!! ทวิตขำ รบ.ตีปี๊บซาอุฯ พอใจความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่าอัลรูไวลี

“อีเพ็ญ” ไม่สำเหนียกเป็นนักโทษหนีคุก ล่าสุดทวีตขำรัฐบาลไทยโฆษณาซาอุฯ พอใจความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่าอัลรูไวลี โดยงานนี้อีเพ็ญไม่วายโม้ปูดข่าวบอกว่าหลังไมค์ซาอุฯ เอ่ยถ้าไม่กระชากหน้ากากคนอมเพชรตัวจริงก็คงไม่คบค้าสมาคมกับไทย

วันนี้ (17 ม.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ระบุถึงคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมี พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งนายจักรภพโพสต์ในทวิตเตอร์ว่ารู้สึกขำที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โฆษณาว่าทางซาอุดีอาระเบีย รู้สึกพอใจกับความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยนายจักรภพระบุอีกว่า ความจริงแล้วมีการเปิดใจหลังจากนั้นว่าถ้าไม่กระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลังคดีนี้ก็คงไม่คบค้าด้วย

อนึ่ง สำหรับคดีที่นายจักรภพกล่าวถึง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางอัยการสูงสุด ได้นำตัวผู้ต้องหาคดีดังกล่าว อันประกอบด้วย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5, พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี นายตำรวจนอกราชการ และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง อาชีพรับจ้าง ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัล-รูไวลี (Mr.Mohammad Al-Ruwaily) นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย พระญาติกษัตริย์ไฟซาล ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ไปฟังการสั่งฟ้องคดีนี้

ทั้งนี้ หลังจากมีการแจ้งให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนทราบว่าคณะทำงานอัยการพิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 จะนำ พล.ต.ท.สมคิด กับพวกรวม 5 คน ที่ตกเป็นจำเลยที่ 1-5 ไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญาที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากทราบข่าว นายนาบิล ฮุสเซน อัซรี อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า เป็นข่าวดีมากสำหรับทางซาอุฯ ที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ ทางซาอุฯ รอคอยให้คดีเข้าสู่ขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมมาเกือบ 20 ปี ถือเป็นคดีแรกใน 3 คดีที่เกี่ยวกับซาอุฯ ซึ่งจะต้องติดตามและมีความหวังกับอีก 2 คดีที่เกี่ยวข้อง คือ คดีฆ่านักการทูต และคดีโจรกรรมเพชรซาอุฯ โดยการสั่งฟ้องคดีอุ้มฆ่านายอัล-รูไวลี่ นี้ ถือเป็นก้าวแรกต่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ