“เทพเทือก” ยันไม่มีล็อบบี้รอดยุบ ปชป. ปัดจุ้นคดีฆ่าทูตซาอุฯ ช่วย “สมคิด”

“เทพเทือก” ปัด คน ปชป.ล็อบบี้ กกต.ไม่ให้ยุบ ปชป. ยันไม่เคยได้ยิน เตรียมพานายกฯ ลงใต้พรุ่งนี้ เปิดทางหลวงเชื่อมยะลา-ปัตตานี ปัดคนในรัฐบาลแทรกแซงคดีฆ่าทูตซาอุฯ ช่วย “สมคิด” ย้ำไม่มี คาดส่งฟ้องได้ก่อน 12 ม.ค. โวโชคดีคนไทยส่วนใหญ่เอาใจช่วยให้บริหารประเทศไปได้

วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ออกมาระบุว่า มีผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ไปล็อบบี้ ไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องนี้ และไม่คิดว่าเป็นปัญหาเพราะทั้งนายชวน และนายบรรหารล้วนแต่เป็นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ทางการเมืองมามาก เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าอะไรที่เป็นปัญหา แต่พร้อมที่จะไปเรียนถามจากทั้งสองท่าน หากเห็นว่ามีข้อมูลอะไรที่ไม่ตรงกันก็ไปเรียนถามได้

นายสุเทพกล่าวถึงการนำคณะนายกรัฐมนตรี พร้อมสื่อมวลชนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ 7 ม.ค.นี้ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐบาลต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชนในพื้นที่ ชาวแดนภาคใต้ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีเกียรติยศศักดิ์ศรีและมีความสุข ได้มาตรฐาน โดยตนจะนำนายกฯไปดูการทำงานและการพัฒนาในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น กรณีถนนบางสายที่ผู้รับเหมาเอกชนประมูลงานไปแล้วแต่ไม่สามารถก่อสร้างได้ สำเร็จเนื่องจากมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย เราก็ให้ทหารช่างเข้าไปช่วยดำเนินการต่อ และนายกฯ จะเป็นประธานเปิดทางหลวงหมายเลข 418 ซึ่งเป็นถนนสี่ช่องจราจรที่เชื่อมระหว่าง จ.ยะลา กับ จ.ปัตตานี นอกจากนั้นจะนำนายกฯไปดูงานโครงการฟาร์มตัวอย่าง หมู่บ้านประมง และไปเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายในการทำงานในพื้นที่ภาคใต้ คือ การทำให้ประชาชนมีความสุข รักประเทศไทย รักแผ่นดินไทย ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลเมืองไทยเช่นเดียวกันประชาชนคนไทยที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี หรือกรุงเทพฯ ไม่เข้าไปสนับสนุนฝ่ายที่ก่อความไม่สงบ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ในปี 53นั้น รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะตนจะเข้มงวดในเรื่องการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดตามที่ศาลได้ออก หมายจับไว้แล้ว ไม่ว่าจะหลบหนีไปอยู่ที่ไหนก็จะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้

นอกจากนี้ นายสุเทพยังกล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีผู้ใหญ่ในรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงการดำเนิน คดีฆ่านักการทูตซาอุฯ ว่า ทุกคดีความไม่ว่าจะเป็นคดีอาญาในประเทศหรือกับคนต่างประเทศ ไม่มีใครในรัฐบาลนี้ที่จะเข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายโดยเด็ดขาด ถ้ามีการอ้างถึงผู้ใหญ่ตนก็ไม่ทราบว่าคนไหน แต่ในประเทศไทยนี้คนที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดคือหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งคนยืนยันว่านายกฯ ไม่เข้าไปแทรกแซงอย่างแน่นอน และรองลงมาก็คือตนก็ยืนยันว่าไม่แทรกแซงเช่นเดียวกัน ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และตนได้อธิบายเรื่องนี้ให้อุปทูตซาอุดีอาระเบียได้รับทราบแล้ว ซึ่งท่านก็พอใจ เข้าใจว่าคดีในขณะนี้คงส่งให้อัยการพิจารณาแล้วว่าจะสั่งฟ้องเมื่อใด ทั้งนี้ตนคาดว่า ทางอัยการจะพิจารณาส่งฟ้องได้ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ส่วนที่มีข่าวว่าอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษไม่สบายใจที่มีการไปขอให้ช่วยเหลือพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ. 5 นั้น นายสุเทพ ยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่มี ไม่ช่วย และไม่ขอแน่นอน ขณะที่โอกาสฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯนั้น ตนไม่ทราบ ก็ต้องค่อยๆ ว่ากันไป

รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการทำงานในปีที่สองของรัฐบาลว่า เมื่อตอนที่เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ถูกวิจารณ์ว่าคงอยู่ได้ไม่กี่น้ำ อาจอยู่ได้สัก 3-4 เดือน แต่ตนพยายามประคับประคอง ประสานงานกับฝ่ายต่างๆ โดยใช้ความจริงใจเป็นที่ตั้ง พูดจากันด้วยเหตุผล แม้แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นศัตรู แต่มีหน้าที่รักษาบ้านเมืองและระบบประชาธิปไตยให้ดีที่สุด เขาแรงมาตนผ่อนลงได้ก็ผ่อน แต่ที่สำคัญคือต้องดูแลให้กฎหมายบ้านเมืองให้ศักดิ์สิทธิ์ ให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ตนโชคดีที่ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเอาใจช่วย