“ดีเอสไอ-อัยการ” เห็นสอดคล้องให้ออกหมายจับ “อาบู อาลี” เอี่ยวฆ่า 3 นักการทูตซาอุฯ ชี้ถ้ายังตามลากตัวมาฟ้องศาลไม่ทัน 1 ก.พ.นี้ คดีหมดอายุความ 20 ปี เอาผิดใครไม่ได้แล้ว ขณะที่ “ณรัชต์” ระบุแนวทางสืบสวนดีเอสไอเชื่อน่าเกิดจากขัดแย้งลัทธิศาสนา นำไปสู่การออกหมายจับ ด้านตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่งแรงงานไปทำงานซาอุฯ
วันนี้ (7 ม.ค.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงคดีฆาตกรรมนักการทูตซาอุดีอาระเบีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 ว่า คดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ และอัยการ มีความเห็นชอบร่วมกันให้ยื่นคำร้องให้ศาลอาญาออกหมายจับนายอาบู อาลี ชาวตะวันออกกลาง ซึ่งพยานหลักฐานบ่งชี้ว่า เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนักการทูตทั้ง 3 ราย หากยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาลได้ทันภายในวันที่ 1 ก.พ.ที่จะถึงนี้ คดีจะครบอายุความ 20 ปี และจะไม่สามารถดำเนินการใดๆตามกระบวนการยุติธรรมได้อีก
รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อไปว่า คดีดังกล่าวถือว่าการสอบสวนของดีเอสไอประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถสอบสวนจนหาสาเหตุของการฆาตกรรมได้ โดยเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความขัดแย้งทางลัทธิศาสนาระหว่างประเทศซาอุดีอาระเบียกับประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ขณะที่การสอบสวนของตำรวจตั้งประเด็นว่า เป็นความขัดแย้งเรื่องการขัดผลประโยชน์ในการส่งแรงงานไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย
ส่วนคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลลูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย พระญาติกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความเห็นสมควรฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบังซ่อนเร้นทำ ลายศพ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำหรือไม่กระทำการใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ และอัยการยืนยันว่าจะสั่งคดีได้ทันตามกำหนดนัดคือ
วันที่ 12 ม.ค.นี้
ขณะที่วันที่ 11 ม.ค.อุปทูตซาอุฯ จะเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องความร่วมมือในด้านต่างๆ และประเทศไทยจะใช้โอกาสนี้แสดงความจริงใจในการติดตามการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับประเทศซาอุฯ คือคดีการหายตัวไปของนายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุฯ พระญาติกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุ ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 12 ก.พ.นี้
“ดีเอสไอ” ปูดหมายจับมือฆ่าทูตซาอุฯแจกสื่อ ดับข่าวร้อนสอบรถยนต์ยิง “สนธิ”
วันนี้ (7 ม.ค.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงคดีฆาตกรรมนักการทูตซาอุดีอาระเบีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 ว่า คดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ และอัยการ มีความเห็นชอบร่วมกันให้ยื่นคำร้องให้ศาลอาญาออกหมายจับนายอาบู อาลี ชาวตะวันออกกลาง ซึ่งพยานหลักฐานบ่งชี้ว่า เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนักการทูตทั้ง 3 ราย หากยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาลได้ทันภายในวันที่ 1 ก.พ.ที่จะถึงนี้ คดีจะครบอายุความ 20 ปี และจะไม่สามารถดำเนินการใดๆตามกระบวนการยุติธรรมได้อีก
รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อไปว่า คดีดังกล่าวถือว่าการสอบสวนของดีเอสไอประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถสอบสวนจนหาสาเหตุของการฆาตกรรมได้ โดยเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความขัดแย้งทางลัทธิศาสนาระหว่างประเทศซาอุดีอาระเบียกับประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ขณะที่การสอบสวนของตำรวจตั้งประเด็นว่า เป็นความขัดแย้งเรื่องการขัดผลประโยชน์ในการส่งแรงงานไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย
ส่วนคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลลูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย พระญาติกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความเห็นสมควรฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบังซ่อนเร้นทำ ลายศพ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำหรือไม่กระทำการใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ และอัยการยืนยันว่าจะสั่งคดีได้ทันตามกำหนดนัดคือ
วันที่ 12 ม.ค.นี้
ขณะที่วันที่ 11 ม.ค.อุปทูตซาอุฯ จะเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องความร่วมมือในด้านต่างๆ และประเทศไทยจะใช้โอกาสนี้แสดงความจริงใจในการติดตามการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับประเทศซาอุฯ คือคดีการหายตัวไปของนายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุฯ พระญาติกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุ ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 12 ก.พ.นี้
“ดีเอสไอ” ปูดหมายจับมือฆ่าทูตซาอุฯแจกสื่อ ดับข่าวร้อนสอบรถยนต์ยิง “สนธิ”
