“สุเทพ” ปัดนักโทษส่งเมลหา ปธน.คาซัคฯ โอดคุกไทยลำบากประจานประเทศ

“สุเทพ” ยันนักโทษค้าอาวุธต่างชาติส่งอีเมลหาประธานาธิบดีคาซัดสถาน อ้างคุกไทยสุดลำบาก ไม่ประจานประเทศ เป็นสิทธิ์ร้องขอให้นำตัวกลับไปดำเนินคดีในบ้านเกิด ชี้จัดการอาวุธสงครามที่ยึดได้ต้องตามขั้นตอนสหประชาชาติ ด้านเลขาฯ สมช.ยันดูแลผู้ต้องหาดี

วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนักโทษค้าอาวุธที่ถูกขุมขังในประเทศไทย ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ไปขอความช่วยเหลือจากนายนูร์ซุลตัน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยอ้างว่าอยู่ในเรือนจำประเทศไทยลำบากมากว่า ทุกอย่างก็มีขั้นตอน เรามีสัญญาแลกเปลี่ยนนักโทษกับประเทศต่างๆ อยู่ เพราะฉะนั้นกรณีที่ได้รับคำพิพากษาลงโทษ และเข้าไปรับโทษตามกฎหมายไทยอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ประเทศที่นักโทษผู้นั้นถือสัญชาติอยู่ก็มีสิทธิ์ที่จะทำเรื่องมาขอให้นำกลับไปรับโทษต่อในประเทศเขาก็ได้ เราก็เคยทำกับประเทศอื่น ทั้งนี้ ตนไม่คิดว่าการที่นักโทษการทำเช่นนี้เหมือนเป็นการประจานประเทศไทย เพราะเราก็ทำกับประเทศอื่นเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา ส่วนกรณีของการจัดการอาวุธที่ยึดได้บนเครื่องบินขนอาวุธนั้น ตนเชื่อว่าทางสหประชาชาติก็ยังดำเนินการกันไปตามขั้นตอน บางประเทศที่เกิดเรื่องก่อนเหตุการณ์นี้ตั้งนานก็ยังไม่ยุติเลย ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็รายงานตนตลอดเวลา แต่บางเรื่องตนก็เห็นว่ายังไม่สมควรจะนำมาพูดหรือเปิดเผย เพราะบางเรื่องอยู่ในขั้นตอนที่ต้องประสานกับทางสหประชาชาติ

ขณะที่ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร อยู่ระหว่างการดำเนินการของตำรวจและทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยทางสหประชาชาติ ยังไม่ได้คำตอบมาว่าจะทำอย่างไรต่ออาวุธดังกล่าว จึงต้องรอความชัดเจนจากยูเอ็น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ติดตามทวงถามความคืบหน้าในเรื่องนี้ต่อไป ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาร้องขอให้ประเทศของตนเองมารับตัวกลับไปดำเนินคดีต้องดำเนินตามกฎหมายนั้น ยืนยันว่าประเทศไทยให้การดูแลผู้ต้องหาตามมาตรฐานสากล แต่หากมีการร้องขอให้ดูแลความเป็นอยู่ ทางรัฐบาลไทยก็พร้อมจะปฏิบัติ