“สุเทพ” ไม่พูดคนไทยเอี่ยวบินขนอาวุธ ยันรอเห็นรายงานชัดก่อน อุบซีไอเอ ปูดให้ข้อมูลจับ แต่ยันมีแหล่งข่าวส่งข้อมูลมา ยังไม่รู้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นร่วมสอบหรือยัง คาดเร็วๆ นี้คงทราบรายงานทั้งหมด รับยังไม่มีชาติไหนขอเครื่องบินคืน
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจมีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอาวุธสงครามที่จับกุมได้ว่า ตนคงไม่ลงไปวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการดำเนินคดี จะรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ของไทยทุกฝ่ายสรุปและรายงานผลก่อน เพราะไม่ใช่เรื่องนโยบาย ยังไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปจนกว่าจะเห็นสรุปรายงานที่ชัดเจน พร้อมยังปฏิเสธที่จะระบุถึงปลายทางของเครื่องบินลำนี้ตามที่มีกระแสข่าวเปิดเผยว่าจะเดินทางไปที่กรุงตะเหราน ประเทศอิหร่าน โดยนายสุเทพกล่าวว่า หากเมื่อได้รายงานข้อเท็จจริงแล้วตนจะเปิดเผยต่อสาธารณชน
ส่วนกรณีที่ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ (ซีไอเอ) ยืนยันว่าเป็นคนให้ข้อมูลกับทางการไทยในการจับกุมนั้น รองนายกฯ ด้านความมั่นคงกล่าวว่า ทุกอย่างมีข้อมูล มีแหล่งข่าว จึงได้ส่งมา แต่แหล่งข่าวเป็นใครตนก็ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะหน่วยงานที่ทำการข่าวร่วมกันก็มีกฎกติกามารยาทกันอยู่จึงไม่อยากก้าวล่วงเข้าไป ส่วนที่มีการเปิดเผยข้อมูลของแต่ละฝ่ายออกมาก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายปฏิบัติที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งตามปกติเครื่องบินที่บินไปไหนมาไหนจะต้องส่งไฟลต์แพลนหรือแผนการบินเมื่อต้องบินผ่านน่านฟ้าของแต่ละประเทศเพื่อให้เจ้าของประเทศอนุญาต
นายสุเทพกล่าวต่อว่า โดยกติกาก็ต้องอนุญาต เพราะเมื่อเครื่องบินจากประเทศไทยบินผ่านประเทศไหนก็ต้องอนุญาตให้ ยกเว้นประเทศที่เป็นเจ้าของอาณาเขตเห็นว่าเครื่องบินลำนั้นกระทำการที่ผิดกฎหมาย เมื่อเครื่องบินขออนุญาตมาในช่วงแรก ฝ่ายไทยก็มีแหล่งข่าวสงสัยอยู่แล้ว จึงได้ตอบกลับไปว่าไม่ต้องใช้เส้นทางผ่านประเทศไทยได้หรือไม่ แต่เครื่องบินลำดังกล่าวยืนยันว่าเป็นเครื่องบินที่สามารถบินได้ตามสิทธิตาม ข้อตกลงนานาชาติว่าด้วยการบิน และเหตุผลที่ต้องมาลงประเทศไทยเพื่อเติมน้ำมันจริงๆ เมื่อเครื่องบินจอด เจ้าหน้าที่ของไทยก็เข้าไปตรวจสอบก็ไม่มีอะไร แต่ขากลับเครื่องบินลำนี้ก็แวะมาจอดอีก เจ้าหน้าที่ก็เข้าไปตรวจอีกตามหน้าที่ จนไปเจออาวุธจึงต้องดำเนินการ
ส่วนขณะนี้เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นมาเข้าร่วมการตรวจสอบอาวุธอย่างไรหรือไม่ ตนยังไม่ได้ลงไปดู และจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนที่มีระเบียบปฏิบัติ ข้อกฎหมายที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งหากเราเข้าไปแทรกแซงจะทำให้สับสนวุ่นวายมากขึ้น ทั้งนี้ตนไม่ไปกำหนดเวลาในการทำงานตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพราะทุกคนก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเนิ่นช้าได้ และทุกคนก็ทำงานกันอย่างหนัก คิดว่าไม่กี่วันนี้คงจะรายงานมายังนายกฯและรัฐบาล สำหรับตัวเครื่องบินขณะนี้ยังไม่มีใครมาติดต่อแสดงตัวเป็นเจ้าของ แต่คงต้องคืนเขา ซึ่งตนไม่รู้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องคงต้องไปดูก่อน
