ที่ประชุมคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ สั่งเข้มรักษาความลับบุคคลและสถานที่เกี่ยวกับความมั่นคง ลั่นพบเจ้าหน้าที่ทำรั่วเจอฟ้องทั้งวินัย-อาญา เลขาธิการ สมช. ยันไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่สะกดรอยตาม “กี้ร์ อมฮอลล์” เผยให้ไปทำงานอื่น โยนถาม ผอ.สำนักข่าวกรองเอง
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์ และรูปแบบต่างๆ ในการรักษาความลับของบุคคล สถานที่ที่เกี่ยวกับความมั่นคง ให้ครอบคลุมการรักษาความลับโดยไม่ต้องเปิดเผยตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งรวมถึงแนวทางการปฏิบัติภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องการรักษาความลับของทางราชการ โดยเฉพาะในเรื่องเอกสาร
“ในช่วงที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องเอกสารของทางราชการได้รั่วไหลออกไปสู่สาธารณชน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าการรักษาความลับของทางราชการเป็นเรื่องกล่าวของการ ป้องกัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และส่วนราชการต้องมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลขึ้นมา โดยผู้ที่นำเอาเอกสารลับไปเปิดเผย ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะต้องถูกดำเนินการทางวินัย และหากมีความผิดอาญาก็ต้องดำเนินคดีทางอาญาด้วย แต่ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่สามารถดำเนินการได้ นอกจากการกระทำนั้นไปผิดกฎหมายอาญา ก็ต้องดำเนินคดีทางอาญา โดยหน่วยงานราชการที่เป็นเจ้าของเอกสารลับจะเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายเอง” นายถวลิกล่าว
นายถวิลกล่าวต่อว่า เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับเอกสารของทางราชการมีความเข้มข้นและมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเอกสารลับ ไม่ว่าจะเป็น สมช. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆ ไปสร้างจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่ ได้เกิดจิตสำนึกในการจะรักษาความปลอดภัยเอกสาร และต้องไปดำเนินการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่เกิดความรู้ในเรื่องการปฏิบัติต่อเอกสาร และเมื่อมีการรั่วไหลของเอกสารจะต้องทำอย่างไรบ้าง ทั้งนี้หากมีการรั่วไหลของเอกสารก็ให้หน่วยงานต่าง ๆได้หารือกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐ คือ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เพราะหน่วยงานเหล่านี้มีวิธีปฏิบัติในระเบียบรักษาความปลอดภัยว่าหากมีการรั่วไหลของเอกสาร จะต้องทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ครั้งนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. นายศิระชัย โชติรัตน์ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พล.ต.ต.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการ ก.พ.เป็นต้น โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง หรือหยิบยกกรณีที่นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง จับกุมเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติมาหารือแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทราบว่าเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติคนดังกล่าวไปปฏิบัติงานอื่น ไม่ได้ส่งไปเพื่อติดตามตัวนายอริสมันต์ ส่วนจะไปปฏิบัติงานอะไรนั้น ตนไม่ทราบ ซึ่งทาง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติคงจะไปดูแลเรื่องนี้เอง