“ประเกียรติ” พา “เด็จพี่” บุกสภาฯ ทวงประธานวุฒิ ส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฟัน 9 ป.ป.ช.หรือยัง หลังยื่นถอดฐานกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ ด้าน “นิคม” รับหน้าเสื่อ โยนเรื่องอยู่ที่ศาลฎีการอตอบกลับ
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เป็นผู้รับเรื่องแทน เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ดำเนินคดีต่อประธานกรรมการ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน กระทำทุจริตต่อหน้าที่และกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 249 โดยนายประเกียรติกล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2552 จนถึงวันนี้เกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ทราบความคืบหน้าว่ามีการส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาฯแล้วหรือไม่
โดย นายนิคมกล่าวว่า หลังจากรับเรื่องไว้นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้ตรวจสอบความครบถ้วนของรายชื่อ โดยใช้เวลาตรวจสอบ 9 วัน จากนั้นได้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2552 ซึ่งมีการลงรับเลขที่หนังสือไว้เรียบร้อยแล้ว ตามกระบวนการศาลฎีกาฯจะมีการตั้งองค์คณะขึ้นมาตรวจสอบภายใน 14 วัน โดยทางวุฒิสภาจะติดตามความคืบหน้าในเรื่องต่อไปแล้วจะแจ้งให้ทราบ
นายประเกียรติให้สัมภาษณ์ภายหลังการยื่นหนังสือว่า ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวล่าช้าเกินไป อีกทั้งไม่เคยได้รับทราบความคืบหน้าของกระบวนการไต่สวน โดยข้อร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนมี 4 ประเด็น คือ 1.กรณีที่ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษาถอนคำสั่งสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ที่สั่งไล่ออกจากราชการ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ “โอ๋ สืบ 6” 2.มีการใช้เงินงบประมาณไปชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 3.กรณีการตัดสินคดีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในการสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ ที่มีการร้องขอให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลในการวินิจฉัยโดยอาศัย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร แต่ ป.ป.ช.ไม่ยอมเปิดเผย และ 4.มีการรับเรื่องไว้พิจารณาซ้อนกับอำนาจของศาล ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้รับเรื่องนี้เข้าสู่สาระบบการพิจารณาคดีของศาล จะทำให้ ป.ป.ช.ทั้งหมด ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ตนจึงต้องทวงถามความคืบหน้าในคดี
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เป็นผู้รับเรื่องแทน เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ดำเนินคดีต่อประธานกรรมการ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน กระทำทุจริตต่อหน้าที่และกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 249 โดยนายประเกียรติกล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2552 จนถึงวันนี้เกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ทราบความคืบหน้าว่ามีการส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาฯแล้วหรือไม่
โดย นายนิคมกล่าวว่า หลังจากรับเรื่องไว้นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้ตรวจสอบความครบถ้วนของรายชื่อ โดยใช้เวลาตรวจสอบ 9 วัน จากนั้นได้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2552 ซึ่งมีการลงรับเลขที่หนังสือไว้เรียบร้อยแล้ว ตามกระบวนการศาลฎีกาฯจะมีการตั้งองค์คณะขึ้นมาตรวจสอบภายใน 14 วัน โดยทางวุฒิสภาจะติดตามความคืบหน้าในเรื่องต่อไปแล้วจะแจ้งให้ทราบ
นายประเกียรติให้สัมภาษณ์ภายหลังการยื่นหนังสือว่า ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวล่าช้าเกินไป อีกทั้งไม่เคยได้รับทราบความคืบหน้าของกระบวนการไต่สวน โดยข้อร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนมี 4 ประเด็น คือ 1.กรณีที่ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษาถอนคำสั่งสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ที่สั่งไล่ออกจากราชการ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ “โอ๋ สืบ 6” 2.มีการใช้เงินงบประมาณไปชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 3.กรณีการตัดสินคดีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในการสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ ที่มีการร้องขอให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลในการวินิจฉัยโดยอาศัย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร แต่ ป.ป.ช.ไม่ยอมเปิดเผย และ 4.มีการรับเรื่องไว้พิจารณาซ้อนกับอำนาจของศาล ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้รับเรื่องนี้เข้าสู่สาระบบการพิจารณาคดีของศาล จะทำให้ ป.ป.ช.ทั้งหมด ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ตนจึงต้องทวงถามความคืบหน้าในคดี