xs
xsm
sm
md
lg

“น้องเดียว” ตั้งทีมดู กม.ป้องข่าวรั่ว ซัดพวก “ขายชาติ” นำข้อมูลส่งเพื่อนบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“สาทิตย์” ตั้งคณะอนุกรรมการดูกฏหมายคุ้มครองป้องกันข่าวสารรั่วถึงมือต่างชาติ ยันพวกนำเอกสารลับเผยแพร่ผิดกฎหมาย ซัดคนนำไปส่งให้เพื่อนบ้าน “ขายชาติ” จี้หาสำนึกความเป็นคนไทย รับประเมินความเสียหายไม่ได้หากต่างชาตินำข้อมูลที่คนไทยให้ไปใช้

วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องแนวทางการให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารมีความเป็นห่วงเรื่องการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลราชการภายในประเทศไทยไปยังต่างประเทศ เช่น เบอร์โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต ข้อมูลด้านสุขภาพจากโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีต่างชาติถือหุ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายมาดูแลส่วนนี้ จึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อศึกษาเรื่องมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่มีการถ่ายโอนไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงดยเฉพาะข้อมูลด้านสุขภาพ ยารักษาโรคส่วนบุคคล ถ้าข้อมูลเหล่านี้หลุดไปถึงบริษัทยาต่างประเทศ แล้วนำมาหาผลประโยชน์เพื่อขายยาจะมีความเหมาะสมหรือไม่ และถ้าต่างชาติรู้ว่าประเทศไทยมีปัญหาด้านใดอยู่ก็จะเป็นปัญหา ขณะนี้กำลังพิจารณามาตรการแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่

นายสาทิตย์ยังกล่าวว่า การนำเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศไปเปิดเผย มีความผิดตามกฎหมายอาญา ข้อหานำข้อมูลความลับที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติไปเปิดเผยต่อต่างประเทศ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดควรไปกำชับระเบียบปฏิบัติเรื่องเอกสารลับต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางการส่งเอกสารลับที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศให้มีความเข้มงวด ไม่ให้หลุดไปถึงต่างชาตินำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งกรณีเอกสารลับนี้ต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนนำไปใช้ด้วย หากนำไปใช้แค่การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็แค่เรื่องหนึ่ง แต่ถ้านำไปให้ต่างชาติใช้ ก็ต้องถามสำนึกความเป็นคนไทยมีมากน้อยเพียงใด ในต่างประเทศถือว่าเป็นการขายชาติ ซึ่งกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ จากท่าทีของต่างประเทศที่ได้ข้อมูลนี้ไปแล้วแสดงออกมานั้น ถือเป็นผลกระทบความเสียหายจากการรั่วไหลของเอกสารลับขั้นแรกแล้ว และยิ่งถ้าความสัมพันธ์ตึงเครียดขึ้นมาจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่คนไทยนำไปให้ก็เป็นเรื่องยากที่จะประเมินความเสียหายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น