“เทพไท” เย้ยไข่แม้วแพ้เลือกตั้งซ่อม ชี้คนปราจีนฯ ลงโทษฐานสุมหัว “ฮุนเซน”

โฆษกมาร์คให้รางวัล “มานิต” ชมมีสปิริตยอมลาออกกู้ศรัทธารัฐบาล ยันมีสิทธิ์ชี้แจงหากถูกอภิปราย เย้ย “แม้ว” กระแสตกเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อม เชื่อคนปราจีนฯ รู้ทันเหตุจาบจ้วง-สมคบ “ฮุนเซน” อัดยับเสื้อแดงบุกเขายายเที่ยง หยันไม่ใช่การชุมนุมครั้งสุดท้าย แค่ข้ออ้างต่อท่อน้ำเลี้ยง อมยิ้มมวลชนหยิบมือไม่ถึงหมื่น

วันนี้ (11 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีนายมานิต นพอมรมบดี ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า ถือเป็นการแสดงสปิริตและเสียสละเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้มาตรฐานของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ตรงกับกฎเหล็ก 9 ข้อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นการเรียกศรัทธาของรัฐบาลกลับคืนมา อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าฝ่ายค้านจะนำอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กรณีโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข สองอดีตรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ส.ส.อยู่ก็สามารถใช้สิทธิชี้แจงได้

นายเทพไทกล่าวว่า ไม่อยากให้ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เป็นการปรับเพื่อหนีการอภิปราย ถ้ามีข้อมูลก็สามารถอภิปรายได้ เพราะนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดยังดำรงตำแหน่งอยู่ และก็เป็นสิทธิที่สองอดีตรัฐมนตรีมีสิทธิ์ที่จะชี้แจงได้เช่นกัน และอยากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยว่า กฎเหล็กของนายกฯ ยังศักดิ์สิทธิ์ในทางปฏิบัติ ไม่อยากให้ฉวยโอกาสโจมตี เหมือนในอดีตที่ผ่านมาที่ใส่ร้ายโจมตีนายกฯ ว่าไร้ภาวะผู้นำ หลักลอย วันนี้ชัดเจนแล้วว่าหลักการยังหนักแน่นอนเหมือนเดิม

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ปราจีนบุรี ที่ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ชนะผู้สมัคจากพรรคเพื่อไทยว่า ขอแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทยที่ชนะการเลือกตั้ง และคะแนนที่ได้ก็จะเป็นคะแนนที่เพิ่มให้กับฝ่ายรัฐบาล แต่ผลการเลือกตั้งที่ จ.ปราจีนบุรี และ จ.มหาสารคาม น่าจะบอกนัยทางการเมืองบางประการได้ว่า กระแสของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ร้อนแรงตามที่โหมโฆษณา จากพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดง นับวันที่จะถูกปฏิเสธจากประชาชนที่ จ.มหาสารคามก็ชนะแค่ 1 พันคะแนน แต่ที่ จ.ปราจีนบุรี แพ้ถึงครึ่งต่อครึ่ง อาจจะเป็นเพราะ จ.ปราจีนบุรี ใกล้กับกัมพูชา

นายเทพไทกล่าวว่า พฤติกรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณในการสมคบกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ตอกย้ำความรู้สึกของคนปราจีนบุรีกับพรรคเพื่อไทยผ่านการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้กลยุทธ์ทุกวิธีทางทั้งการโฟนอินหาแกนนำ ออดอ้อนให้คนปราจีนบุรีนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน วันนี้คน จ.ปราจีนบุรี แสดงออกแล้วว่าไม่ต้องการนำนักโทษหนีคุกกลับประเทศไทยอีก ผลการเลือกตั้งคงส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศตลอดเวลาว่าจะให้รัฐบาลยุบสภา จึงเป็นแค่ความเคลื่อนที่นำไปสู่การหวังผลการเลือกตั้ง อาจจะมีการเปลี่ยนขั้ว ทำให้แกนนำเข้าสู่ตำแหน่งได้ แต่ถ้าระดับสมาชิกธรรมดา ร้อนๆ หนาวๆ ไม่มีส่วนได้เสีย อาจจะไม่เสี่ยงเลือกตั้งใหม่เพราะไม่รู้ว่าจะไดเป็น ส.ส.หรือไม่

นายเทพไทกล่าวถึงการชุมนุมคนแกนนำเสื้อแดงและกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ไม่สมควรอย่างยิ่งที่บุกรุกเข้าไปที่ป่าสงวนโดยใช้เครื่องจักรกลแผ้วถางทำลายสิ่งแวดล้อมเขตอนุรักษ์ น่าจะรักษาสภาพป่าเอาไว้ แต่คนเสื้อแดงก็พยายามที่จะไปบุกยึดทำลาย และการไปชุมนุมครั้งนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่อย่างปกติสุข วันนี้กลับถูกรบกวนจากคนภายในที่หวังผลทางการเมืองเท่านั้น

นายเทพไทกล่าวว่า เชื่อว่าการไปชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้มีจำนวนใกล้เคียงกับที่สำนักงานตำรวจสันติบาลประเมินไว้ที่ 1 หมื่นคน ไม่ถึง 1 แสนคนตามที่ประกาศไว้ ซึ่งเป็นปกติของการชุมนุมที่ต้องการนำตัวเลขไปเบิกจากนายใหญ่ เป็นการหวังผลกำไร ต้องการเงินทอน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะมีการขนฮาร์ดคอร์จากสามจังหวัดภาคอีสานเพื่อมาสร้างความวุ่นวาย เป็นการสร้างข่าวใส่ร้ายรัฐบาล คิดว่ารัฐบาลสร้างความรุนแรง ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะทำเช่นนั้น เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบ อยากเตือนพรรคเพื่อไทยว่า ควรกลับไประวังฮาร์ดคอร์ของกลุ่มคนเสื้อมากกว่า เพราะมีความพยายามสร้างความวุ่นวายแล้วโยนมาเป็นเงื่อนไขของการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แถลงข่าวโดยส่งสัญญาณว่าต่อไปนี้การต่อสู้จะเข้มข้น เป็นการรับสัญญาณมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณผ่านนายนพดล แต่เชื่อว่าแนวร่วมที่อ้างว่าจะมากขึ้นนั้น ข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่าคนเข้าร่วมการชุมนุมน้อยลง แต่ต้องการที่จะเคลื่อนไหวเพื่อให้มีพื้นที่ในสื่อ เช่น การขับไล่นายกฯระหว่างการเปิดงานบางขุนเทียนมินิฮาร์ฟมาราธอน มีคนเพียง 8 คน บางแห่งก็สิบคน สิบห้าคน ยี่สิบคน กำลังคนที่เข้าร่วมกับกระบวนการนับวันจะร้อยลง แต่ความรุนแรงไม่ได้น้อยลง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับนายวีระ มุสิกพงศ์ ประกาศว่าจะเป็นการประกาศเคลื่อนไหวสงครามสุดท้ายเพื่อล้มกลุ่มอำมาตย์ และเป็นการประกาศสงครามครั้งสุดท้ายอยู่หลายครั้ง

ถ้าครั้งนี้ไม่ได้รับสนับสนุนจากประชาชนก็ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นก็จะอ้างว่าจะชุมนุมจนกว่าจะขับไล่รัฐบาลชุดนี้ได้

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนกณีนายนพดพลพยายามที่จะพาดพิงมายังตนว่า โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณโดยเฉพาะความไม่จงรักภักดี จาบจ้างสถาบัน ขอเรียนกว่าการพาดพิงทุกครั้ง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติกรรมจาบจ้างจริง มีการบิดเบือนใส่ร้ายรัฐบาล ก็จำเป็นต้องออกมาชี้แจง เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าเป็นจริง เพราะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ลีลาท่าทางชี้ถึงจิตใต้สำนึก ตั้งแต่กรณีวัดพระแก้ว ใช้ธงทรงพระเจริญต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณลงพื้นที่ การออกรายการวิทยุ และพูดต่อกลุ่มแท็กซี่ การให้สัมภาษณ์ไทม์ ออนไลน์ ล่าสุดประกาศว่าไม่ต้องการให้สังคมไทยมีฐานันดรหรือชนชั้นในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องชี้แจงต่อสังคมว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีจิตใต้สำนึกเป็นอย่างไร อยากให้นายนพดลกลับไปบอกเจ้านายของตัวก่อนที่จะบอกนายอภิสิทธิ์บอกให้ตนหยุดพูด