วานนี้ ( 11 ม.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า นายอำนาจ วิลาวัลย์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง 130,995 คะแนน ขณะที่พล.อ.สิทธิ์ สิทธิมงคล จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเป็นอันดับสอง 69,440 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 65.86 มีบัตรดีร้อยละ 89.94 บัตรเสียร้อยละ 2.19 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 17,538 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 7.87 สำหรับเรื่องร้องเรียนนั้นขณะนี้มีเพียง 1 เรื่อง คือการหาเสียงใส่ร้ายให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ซึ่งกกต.จะเร่งสืบสวนและเสนอให้ประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 30 วันตามที่กฎหมายกำหนด
ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเป็นจำนวนมากนั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ประชาชนต้องการออกมาทำตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด แต่หลายคนอาจจะเบื่อผู้สมัคร และไม่มีทางเลือกใหม่ๆ จึงอาจเป็นเหตุให้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนสูงกว่านี้
นายสุทธิพล ยังเปิดเผยถึงอาการป่วยของนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ว่าขณะนี้ดีขึ้น และคาดว่าวันนี้ (12 ม.ค.) น่าจะเข้าร่วมประชุมกกต.ได้ตามปกติ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจ แต่จริงๆ แล้วเราเสมอ แพ้หนึ่งชนะหนึ่ง ซึ่งสะท้อนว่าแต่ละพื้นที่ความแตกต่างเป็นตัวกำหนดการแพ้การชนะอย่างกรณีที่พรรคภูมิใจไทย แพ้ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เป็นเพราะยังไม่รู้สถานการณ์ที่นั่น ทั้งความต่างในสิ่งแวดล้อม ทางภูมิศาสตร์ และความคุ้นเคยกับชาวบ้าน ซึ่งตนคิดว่า คะแนนนิยมของพรรคดีขึ้น แต่สำคัญที่สุดคือ ผู้สมัครเป็นคนท้องที่ และมีญาติพี่น้องเป็นนักการเมืองใน จ.ปราจีนบุรี เป็นผู้แทนหลายสมัยอย่างเช่น นายสุนทร วิลาวัลย์
เมื่อถามว่าการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ก็เป็นกำลังใจ คือทางพรรคจะพยายามต่อไป ส่วนคะแนนเสียงจำนวนกว่าหมื่นคะแนนที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนจะสะท้อนถึงความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อย่างไรนั้น ตนไม่ได้มองในส่วนนั้น แต่มองคะแนนเสียงที่ชนะ 6-7 หมื่น ส่วนหมื่นขึ้นไปนั้นยังเอามาพิจารณาไม่ได้ พรรคภูมิใจไทยชนะไป 6 หมื่นกว่า ก็ถือว่าถล่มทลาย
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ จ.ปราจีนบุรี และจ.มหาสารคาม น่าจะบอกนัยยะทางการเมืองบางประการได้ว่า กระแสของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ร้อนแรงตามที่โหมโฆษณา จากพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงนับวันที่จะถูกปฏิเสธจากประชาชน เพราะที่จ.มหาสารคาม ก็ชนะแค่ 1 พันกว่าคะแนน แต่ที่ จ.ปราจีนบุรี แพ้ถึงครึ่งต่อครึ่ง อาจจะเป็นเพราะ จ.ปราจีนบุรี ติดใกล้กัมพูชา
นายเทพไท กล่าวว่าพฤติกรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สมคบกับสมเด็จฮุนเซน ตอกย้ำความรู้สึกของคนปราจีนบุรี กับพรรคเพื่อไทยผ่านการเลือกตั้ง ทั้งๆที่พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้กลยุทธ์ทุกวิถีทาง ทั้งการโฟนอิน โทรศัพท์หาแกนนำ ออดอ้อนให้คนปราจีนบุรีนำพ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน วันนี้คน จ.ปราจีนบุรี แสดงออกแล้วว่า ไม่ต้องการนำนักโทษหนีคุกกลับประเทศไทยอีก ผลการเลือกตั้งคงส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศตลอดเวลาว่า จะให้รัฐบาลยุบสภาจึงเป็นแค่ความเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การหวังผลการเลือกตั้ง อาจจะมีการเปลี่ยนขั้ว ทำให้แกนนำเข้าสู่ตำแหน่งได้ แต่ถ้าระดับสมาชิกธรรมดา ร้อนๆ หนาวๆ ไม่มีส่วนได้เสีย อาจจะไม่เสี่ยงเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เป็นส.ส.หรือไม่
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคยอมรับสภาพการพ่ายแพ้ครั้งนี้ เพราะเป็นรู้กันว่าเป็นพื้นที่ฐานหลักของตระกูลวิลาวัลย์ ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่เกินความคาดหมายอะไร แต่เราพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช่พื้นที่เป้าหมายพรรค โดยพื้นที่หลักอยู่ที่ภาคอีสาน และจ.ปราจีบุรี เป็นพื้นที่หลักของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต ส.ส. ซึ่งมีน้องสาวเป็นนายกอบจ.ปราจีนบุรี การแพ้ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ดี แต่ได้มีการใช้อำนาจรัฐทุกรูปแบบจากพรรคภูมิใจไทย จึงขอให้ กกต. ลงไปควบคุมไม่ให้มีการใช้อำนาจรัฐมากเกิดขอบเขต เพราะผู้สมัครที่ชนะ ไม่มีการเปิดเวทีปราศรัยใดๆ แต่กลับมีการเดินเครื่องเต็มพิกัด เจาะตรงเข้าหาชาวบ้าน ทั้งนี้ จ.ปราจีนบุรี เคยเป็นพื้นที่ของพรรคไทยรักไทย ดังนั้นการเลือกตั้งสมัยหน้าจะพยายามยึดพื้นที่กลับคืนมาให้ได้
ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเป็นจำนวนมากนั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ประชาชนต้องการออกมาทำตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด แต่หลายคนอาจจะเบื่อผู้สมัคร และไม่มีทางเลือกใหม่ๆ จึงอาจเป็นเหตุให้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนสูงกว่านี้
นายสุทธิพล ยังเปิดเผยถึงอาการป่วยของนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ว่าขณะนี้ดีขึ้น และคาดว่าวันนี้ (12 ม.ค.) น่าจะเข้าร่วมประชุมกกต.ได้ตามปกติ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจ แต่จริงๆ แล้วเราเสมอ แพ้หนึ่งชนะหนึ่ง ซึ่งสะท้อนว่าแต่ละพื้นที่ความแตกต่างเป็นตัวกำหนดการแพ้การชนะอย่างกรณีที่พรรคภูมิใจไทย แพ้ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เป็นเพราะยังไม่รู้สถานการณ์ที่นั่น ทั้งความต่างในสิ่งแวดล้อม ทางภูมิศาสตร์ และความคุ้นเคยกับชาวบ้าน ซึ่งตนคิดว่า คะแนนนิยมของพรรคดีขึ้น แต่สำคัญที่สุดคือ ผู้สมัครเป็นคนท้องที่ และมีญาติพี่น้องเป็นนักการเมืองใน จ.ปราจีนบุรี เป็นผู้แทนหลายสมัยอย่างเช่น นายสุนทร วิลาวัลย์
เมื่อถามว่าการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ก็เป็นกำลังใจ คือทางพรรคจะพยายามต่อไป ส่วนคะแนนเสียงจำนวนกว่าหมื่นคะแนนที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนจะสะท้อนถึงความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อย่างไรนั้น ตนไม่ได้มองในส่วนนั้น แต่มองคะแนนเสียงที่ชนะ 6-7 หมื่น ส่วนหมื่นขึ้นไปนั้นยังเอามาพิจารณาไม่ได้ พรรคภูมิใจไทยชนะไป 6 หมื่นกว่า ก็ถือว่าถล่มทลาย
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ จ.ปราจีนบุรี และจ.มหาสารคาม น่าจะบอกนัยยะทางการเมืองบางประการได้ว่า กระแสของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ร้อนแรงตามที่โหมโฆษณา จากพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงนับวันที่จะถูกปฏิเสธจากประชาชน เพราะที่จ.มหาสารคาม ก็ชนะแค่ 1 พันกว่าคะแนน แต่ที่ จ.ปราจีนบุรี แพ้ถึงครึ่งต่อครึ่ง อาจจะเป็นเพราะ จ.ปราจีนบุรี ติดใกล้กัมพูชา
นายเทพไท กล่าวว่าพฤติกรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สมคบกับสมเด็จฮุนเซน ตอกย้ำความรู้สึกของคนปราจีนบุรี กับพรรคเพื่อไทยผ่านการเลือกตั้ง ทั้งๆที่พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้กลยุทธ์ทุกวิถีทาง ทั้งการโฟนอิน โทรศัพท์หาแกนนำ ออดอ้อนให้คนปราจีนบุรีนำพ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน วันนี้คน จ.ปราจีนบุรี แสดงออกแล้วว่า ไม่ต้องการนำนักโทษหนีคุกกลับประเทศไทยอีก ผลการเลือกตั้งคงส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศตลอดเวลาว่า จะให้รัฐบาลยุบสภาจึงเป็นแค่ความเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การหวังผลการเลือกตั้ง อาจจะมีการเปลี่ยนขั้ว ทำให้แกนนำเข้าสู่ตำแหน่งได้ แต่ถ้าระดับสมาชิกธรรมดา ร้อนๆ หนาวๆ ไม่มีส่วนได้เสีย อาจจะไม่เสี่ยงเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เป็นส.ส.หรือไม่
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคยอมรับสภาพการพ่ายแพ้ครั้งนี้ เพราะเป็นรู้กันว่าเป็นพื้นที่ฐานหลักของตระกูลวิลาวัลย์ ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่เกินความคาดหมายอะไร แต่เราพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช่พื้นที่เป้าหมายพรรค โดยพื้นที่หลักอยู่ที่ภาคอีสาน และจ.ปราจีบุรี เป็นพื้นที่หลักของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต ส.ส. ซึ่งมีน้องสาวเป็นนายกอบจ.ปราจีนบุรี การแพ้ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ดี แต่ได้มีการใช้อำนาจรัฐทุกรูปแบบจากพรรคภูมิใจไทย จึงขอให้ กกต. ลงไปควบคุมไม่ให้มีการใช้อำนาจรัฐมากเกิดขอบเขต เพราะผู้สมัครที่ชนะ ไม่มีการเปิดเวทีปราศรัยใดๆ แต่กลับมีการเดินเครื่องเต็มพิกัด เจาะตรงเข้าหาชาวบ้าน ทั้งนี้ จ.ปราจีนบุรี เคยเป็นพื้นที่ของพรรคไทยรักไทย ดังนั้นการเลือกตั้งสมัยหน้าจะพยายามยึดพื้นที่กลับคืนมาให้ได้