“ปณิธาน” เผยนายกฯ มั่นใจสางคดีซาอุฯ ตามหลักกระบวนการยุติธรรม ยันทูตเดินสายพบ มท.1, รมว.ยธ. ไม่แทรกแซงรัฐ หลังล่าสุดเดินทางเข้าพบนายกฯ วันนี้ โยนอัยการสูงสุดพิจารณาต่ออายุความ เชื่อ “นช.แม้ว” โม้ ได้เป็น กก.ผังเมืองซาอุฯ ไม่กระทบสัมพันธ์รัฐ
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังอุปทูตซาอุดีอาระเบีย เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่านายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจต่อถึงการเร่งเดินหน้าสะสางคดีต่างๆ ให้แก่ประเทศซาอุฯ ว่าจะดำเนินการโดยยึดหลักของกระบวนการยุติธรรม พร้อมยืนยันว่าการที่อุปทูตซาอุฯ เดินสายเข้าพบ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมนั้น ไม่ได้เป็นการเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมภายในของไทย แต่ถือเป็นสิทธิที่อุปทูตสามารถสอบถามความคืบหน้าของคดีความต่างๆ ของประเทศได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้ความมั่นใจว่าคดีต่างๆ จะดำเนินอยู่บนหลักกระบวนการยุติธรรม และหลักฐานที่มี โดยเป็นเรื่องปกติที่อุปทูตจะเข้ามารับฟังความคืบหน้าของคดี และรายงานกลับไปยังประเทศเขา
ส่วนความกังวลต่อกรณีที่อายุความในคดีที่นักธุรกิจซาอุฯ ถูกอุ้มตัว ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 12 ก.พ.53 นั้น นายปณิธานกล่าวว่า เรื่องนี้ทางอัยการจะพิจารณาในรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า อัยการสูงสุดจะพิจารณาว่าจะสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กับพวกในคดีอุ้มนายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียหรือไม่
นอกจากนี้ นายปณิธานยังปฏิเสธถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างว่า ตนได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการผังเมืองของประเทศซาอุดีอาระเบียว่า ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับ รัฐบาลซาอุฯ เพราะถือว่าคดีความต่างๆ เกิดขึ้นมาในหลายรัฐบาลแล้ว อีกทั้งมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้มีการดำเนินการที่คืบหน้าต่อคดีต่างๆ ของซาอุฯ มากกว่ารัฐบาลอื่น