xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” งัด กม.มั่นคงสางไฟใต้ ฉุดคนหลงผิดให้กลับใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“มาร์ค” ยันนำ ม.21 พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ สางไฟใต้ หวังดึงคนหลงผิดก่อเหตุป่วนใต้กลับใจ หันให้ความร่วมมือฝ่ายรัฐ ตั้งเป้ากุมภาพันธ์หลักเกณฑ์ชัดเจน ไม่สนใจตัวเลขผู้หลงผิดมอบหมายสภาความมั่นคงร่างหลักการ

วันนี้ (10 ม.ค.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะนำมาตรา 21 ใน พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นกรณีที่เราสามารถที่จะมีกระบวรการให้คนที่หลงผิดเข้าไปในกระบวนการและมีปัญหาเรื่องความมั่นคง สามารถที่จะมีกระบวนการพิเศษ แต่ต้องศาลตัดสินสุดท้าย หลักเกณฑ์จะเป็นดุลพินิจส่วนหนึ่งในเรื่องการหลงผิดเข้าไป คงไม่ใช่ลักษณะเป็นคนที่ไปทำคดีที่รุนแรงมากๆ อย่างจงใจ และการที่เขาเข้ามาสู่กระบวนการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ แต่ขณะนี้เราจะต้องประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อวางหลักให้เกิดความชุดเจนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าอะไรจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าคนเหล่านั้นหลงผิด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันทำงาน พูดตามจริงแล้วบางพื้นที่ขณะนี้เราจะพยายาม อย่างที่ตนเองไปที่จังหวัดยะลา เขาก็มีการพูดถึงเรื่องการใช้กระบวนการยุติธรรม ที่สามารถอะลุ้มอล่วยในการที่จะดึงคนที่หลงผิดกลับมาในหลายรูปแบบอยู่แล้ว เมื่อถามว่าตรงนี้เป็นกลไกที่ต้องประสานกระบวนการยุติธรรมด้วย จะเป็นเรื่องยากลำบากในการใช้ดุลพินิจของศาลในการเข้ามาช่วยเรื่องนี้หรือเปล่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถูก ด้วยเหตุผลนี้เราถึงไม่ผลีผลามในการที่จะบอกว่าจะใช้มาาตรานี้ทันที จะต้องใช้เวลากำหนดกติกาให้เกิดความชัดเจนและจะมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตั้งเป้าไว้ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์หลักเกณฑ์ต่างๆจะต้องมีความชัดเจนออกมา ตอนนี้ให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติดูอยู่ เมื่อถามว่า จำนวนตัวเลขผู้หลงผิดมีเท่าไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดถึงตัวเลข ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่พูดในหลักการก่อนว่าเราจะใช้กฎหมายนี้ มาตรานี้ให้เป็นประโยชน์อย่างไร เมื่อถามว่า ช่องทางตามมาตรานี้คิดว่าจะช่วยในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ คใต้ได้มากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนคิดว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยอาจจะถูกดึงเข้าไปอยู่ในกระบวนการด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ หากเราสามารถที่จะดึงคนเหล่านี้ให้กลับมาเป็นแนวร่วมกับทางรัฐได้น่าจะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหามากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น