นายกฯ ลั่นพร้อมเจรจากับทุกฝ่าย ยินดีหาก “จิ๋ว-เหลิม” หากถกเรื่องผลประโยชน์ของชาติ ย้ำบ้านเมืองมีกฎกติกาไม่คิดนิรโทษกรรมคนผิด ยอมรับลากคอ"นช.แม้ว"ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
วันนี้ (1 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการเมืองในประเทศว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ในช่วงนี้เพราะจะเป็นปมความขัดแย้ง ซึ่งก่อนหน้ารัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ขึ้นมาคุยกันให้เรียบร้อย แต่ในที่สุดพรรคฝ่ายค้านไม่ตกลง ซึ่งพิสูจน์ว่าตนเป็นคนที่คุยและเจรจาได้แต่ต้องเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวม หากจะมาเจรจาต่อรองเอาประโยชน์ส่วนตัว ตนไม่เจรจา เพราะในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของชาติ จะเอาไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวของใครไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผลประโยชน์ของชาติในมุมมองที่แตกต่างกันก็คุยกันได้
“ยินดีไม่มีปัญหา พร้อมพูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย หากไม่พูดถึงเรื่องการเสนอแนวทางนิรโทษกรรมให้ฝ่ายต่างๆ เพราะประเทศมีบทเรียนมาแล้ว เพราะถ้ามีการต่อรองนิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำผิดโดยไม่รักษากติกาของบ้านเมือง เป็นการทำร้ายประเทศไม่รู้จบ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า ปี 2553 นี้ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯ จะยังมีบทบาทอยู่หรือไม่และจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ทวิตเตอร์ยังคงมีอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณยังสามารถแสดงความเห็นอย่างที่เคยกระทำได้หากไม่กระทำผิดกฎหมาย แต่หากผิดกฎหมายก็มีข้อหาเพิ่ม ส่วนที่หลายคนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เลิกยุ่งการเมือง แล้วรัฐบาลไม่สามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศได้ นั้น ต้องยอมรับว่า การจับกุมอดีตนายกฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดนักธุรกิจที่กว่าจะจับได้ต้องใช้เวลาเป็นสิบปี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีหน้าที่รักษากฎหมาย หากมีช่องทางใดในการนำตัวกลับมา ก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เช่นการไปอยู่ในประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตรงนี้จะง่ายหน่อย แต่หากไปอยู่ในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาก็เป็นเรื่องยาก จึงเห็นได้ว่าอดีตนายกฯจะเดินทางไปในประเทศซึ่งไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยกเว้นกัมพูชา
