“สุริยะใส” เชื่อรัฐบาลจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษายกเลิกมติ ครม.ยกพระวิหารให้เขมรขึ้นมรดกโลก ยัน “นพเหล่” ยื่นอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะพันธมิตรฯ ฟ้องในนามรัฐมนตรี กต. จี้นายกฯ เร่งแจ้งยูเนสโกระงับขึ้นทะเบียน แนะ “กษิต” รีบฟันไส้ศึกในกระทรวง เตรียมนัดคุยท่าทีแกนนำฯ หลังปีใหม่
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้แระสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวภายหลังทราบคำพิพากษาของศาลปกครองให้เพิกถอนมติ ครม.วันที่ 17 มิ.ย.51 ที่เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมและแผนที่แนบท้าย รวมทั้งการเห็นชอบให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ลงนามในแถลงการณ์ร่วม โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 17 มิ.ย.51 ที่ ครม.มติดังกล่าวว่า ตนคิดว่าประเด็นนี้มีความชัดเจนในหลักปฏิบัติของรัฐบาลที่จะต้องเร่งดำเนินการบังคับคดีแจ้ง ต่อยูเนสโก ภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าทางการไทยไม่มีมติใดๆ สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลก เพราะที่ผ่านมาแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะเคยวินิจฉัยว่าแถลงการณ์ร่วมเข้าข่าย หนังสือสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตร 190 หรือ ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่ทางการกัมพูชาก็ไม่สนใจและยังดันทุรังเดินหน้าขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งยูเนสโกจะพิจารณาเรื่องนี้ในราวๆ ต้นปีหน้า และกรรมการมรดกโลกหลายประเทศก็ยังคล้อยตามทางการกัมพูชาอีกด้วย ฉะนั้น รัฐบาลไทยโดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศจะต้องเร่งแจ้งคำพิพากษาของศาลปกครองต่อยูเนสโกโดยเร็ว เพื่อยุติการดำเนินการใดๆ ก็ตามที่ทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศจะไม่มีการอุทธรณ์ เพราะเรื่องเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ในตอนเป็นฝ่ายค้านก็ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของรัฐบาลนอมินีในขณะนั้น ส่วนนายนพดลจะอุทธรณ์คงไม่ได้เพราะพ้นจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศไปแล้ว และในตอนนั้นทางพันธมิตรฯ ได้ฟ้องนายนพดล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่ในนามนายนพดล และตนจำได้ว่าข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศหลายคนไปให้การในลักษณะปกป้องการกระทำที่ผิดกฎหมายของนายนพดล ด้วย ฉะนั้น ตนจึงขอให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ควรพิจารณาและทบทวนบทบาทข้าราชการเหล่านั้นว่าต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ จากคำพิพากษาของศาลปกครองครั้งนี้ ตนถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ของคนไทยทั้งประเทศ ในส่วนของพันธมิตรฯ ที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ต้องสูญเสียมามากมาย แต่ก็ยอมเสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยและปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นของคนไทย ซึ่งสำหรับข้อพิพาทในเรื่องดังกล่าวคาดว่า หลังเทศกาลปีใหม่ แกนนำพันธมิตรฯ จะหารือร่วมกับทีมทนายความเพื่อหาทางเคลื่อนไหวปกป้องอธิปไตยไทยและทวงคืนปราสาทพระวิหารต่อไป
