xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ปัด “วิทยา” ไขก๊อกตัดตอนโกง ย้อน พท.ดูตัวเองก่อนแขวะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“เทพไท” ชู “วิทยา” คุณค่าที่ประชาธิปัตย์คู่ควร ซัด “เพื่อไทย” ถามหาสปิริต ส.ส.ตัวเองก่อนแขวะชาวบ้าน เย้ยหาไม่ได้เลยในยุครัฐบาลทรราช โต้ “ทักษิณ” ไขก๊อกไม่ใช่ฆ่าตัดตอน ย้อนมีแต่รัฐบาลนักโทษที่สั่งฆ่าถึง 2,500 ศพ อ้างปราบยาเสพติด ฉะพูดด่า ป.ป.ช.เพราะแทรกแซงองค์กรอิสระไม่ได้ ปัดแก้รัฐธรรมนูญหนีคดียุบพรรค แขวะ “เพื่อแม้ว” ทำการบ้านบ้าง

วันนี้ (30 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุขว่า ต้องขอชื่นชมในการแสดงสปิริตที่ออกมารับผิดชอบถึงการเป็นนักการเมืองคุณภาพของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พรรคได้ยึดปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วเป็นที่รู้กันว่านายวิทยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ ไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข แต่เมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในโครงการดังกล่าวที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานชี้มูลว่าเป็นข้อบกพร่องที่ไม่ควบคุมและจะก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ จึงได้แสดงสปิริตลาออก แต่การที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาแสดงความเห็นซ้ำเติมและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย ตนเห็นว่าเป็นการแสดงความเห็นที่มีอคติต่อนายกฯ มากเกินไป ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าคนของพรรคเพื่อไทยมีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร การที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเรียกร้องความรับผิดชอบจากคนอื่นอย่างสูงส่ง ก็อยากให้กลับไปมองพฤติกรรมของตัวเองว่าที่ผ่านมาตัวเองเคยรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไรบ้าง

นายเทพไทกล่าวต่อว่า นับตั้งแต่ยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ขายหุ้นของเครือชินคอร์ปให้กลุ่มเทมาเส็ก โดยไม่เสียภาษีให้ประเทศชาติแม้แต่สตางค์แดงเดียว จนถึงยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่สุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หนีความจริงโดยการประกาศยุบสภา ทั้งที่สภาฯ ไม่มีความผิดอะไร หรือยุคของนายสมัคร สุนทรเวช หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ก็ถูกกล่าวหาทางการเมืองมากมาย และถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้มูลว่าขาดคุณสมบัติ แต่หลายคนก็ยังมีหน้ากลับมาเป็นรัฐมนตรีในยุคนั้นอีก จึงขอถามมาตรฐานความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยว่าให้กลับไปหาสปิริตจากพรรคตัวเองก่อนที่จะมาเรียกร้องหาจากพรรคการเมืองอื่น

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุผ่านรายการทักษิณไลฟ์ ดอตคอม ว่าการที่นายวิทยาลาออกเป็นการฆ่าตัดตอนรายที่ 3 โดยอ้างว่ามีการฆ่าตัดตอนมา 3 ครั้งแล้วตั้งแต่เรื่องปลากระป๋องเน่าของนายวิทูรย์ นามบุตร อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ เรื่องชุมชนพอเพียงของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ และมาถึงนายวิทยา ทั้งที่จริงแล้วการแสดงสปิริตของนักการเมืองที่นับวันนี้หาได้ยาก โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาลทักษิณที่หาไม่ได้เลย จึงน่าจะเป็นการให้กำลังใจและชื่นชมมากกว่าการออกมาเยาะเย้ยถากถางและทับถม หรืออาจเป็นเพราะไม่ใช่พวกตัวเอง ทำอะไรก็ผิดหมด แสดงความรับผิดชอบก็หาว่าจนมุม จนตรอก ซึ่งตนคิดว่าเป็นการทำงานการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าเป็นการฆ่าตัดตอนนั้น ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการฆ่าตัดตอน มีแต่ในรัฐบาลทักษิณที่สั่งฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ที่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนโลกได้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งในกรณีของนายวิฑูรย์ ผลสรุปก็ชี้มูลแล้วว่า ไม่มีความผิด ซึ่งเชื่อว่าในกรณีของนายวิทยาก็เช่นเดียวกัน

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า กรณีนี้หากส่งไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วก็ไม่มีผล เพราะวันนี้ ป.ป.ช.เปลี่ยนไปเป็น ปชป.แล้วนั้น นายเทพไทกล่าวว่า ถือเป็นการพยายามดิสเครดิตองค์กรอิสระ ที่ครั้งหนึ่งในสมัยที่ตัวเองมีอำนาจและเคยชินกับการแทรกแซงองค์กรอิสระต่างๆ ทุกองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณมาโดยตลอด แต่พอมาวันนี้ไม่เป็นไปตามนั้นก็มาใช้วิธีทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรเหล่านี้อย่างเสียหาย ส่วนการหาบุคคลมาทดแทนนายวิทยา ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายกฯ แล้ว นายกฯ ยืนยันว่าจะปรับครม.เท่าที่จำเป็นในส่วนที่มีการออกไป จะไม่เป็นการปรับใหญ่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะจะถูกครหาได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ปรับครม.เพื่อหนีการอภิปราย จึงขอให้พรรคเพื่อไทยหาข้อมูล ทำการบ้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้โอกาสรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ ถ้าปรับออกจะเป็นการไม่ให้โอกาสในการชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ นายเทพไทยังกล่าวต่อถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องการจุดกระแสแก้รัฐธรรมนูญเพื่อหนีคดียุบพรรค กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ขอให้พรรคเพื่อไทยทำการบ้านก่อนที่จะบิดเบือนกล่าวหาว่าคนอื่น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นผู้เสนอชงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เพียงแต่บอกว่าพร้อมที่จะแก้ไข หากทุกฝ่ายเข้าร่วมและต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชน การเสนอขอแก้ใน 2 ประเด็น คือ มาตรา 94 และมาตรา 190 ของพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่แก้กฎหมายเพื่อหนีความผิดแน่นอน ส่วนการจุดประเด็นให้กลับมาใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ก็อยากให้นำเสนอแนวทางการได้มาของรัฐธรรมนูญ ปี 40 ชัดเจน เพราะการได้มา คือ 1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 มาเป็นปี 40 และ 2.ต้องทำปฏิวัติ รัฐประหารโดยฉีกรัฐธรรมนูญปี 50 และกลับมาใช้ปี 40 ซึ่งทั้ง 2 แนวทางมันไปไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่เข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์เสนอ ส่วนการปฏิวัติก็เป็นไปไม่ได้ จะมีก็เพียงการปลุกผีของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่จะหลอกหลอนกันเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น