“เทพไท” ฉะพวกกดดัน กกต.ยุบ ปชป. โวยสื่อตั้งฉายานายกฯ ไม่เป็นธรรม

“เทพไท” ซัด “จาตุรนต์” อย่าเอาอารมณ์มากดดัน กกต.ให้ยุบประชาธิปัตย์ คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท เชื่อไม่มี 2 มาตรฐาน ปูด “เพื่อไทย” ใช้ กกต.เก่าเชื่อมเจ้าหน้าที่วางยา พูดชักศึก สื่อตั้งฉายารัฐเรื่องขอกันกิน ซัดตั้งนายกฯ หล่อหลักลอย ไม่เป็นธรรม ชี้กรณี “วิทยา” ชัดยึดกฎเหล็ก 9 ข้อ

วันนี้ (29 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มากขึ้น โดยเฉพาะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมาขับไล่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ออกจากตำแหน่ง ตนไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลใด ทั้งนี้ การพ้นจากตำแหน่ง รัฐธรรมนูญมาตรา 232 บัญญัติไว้ชัด จึงไม่อยากให้นายจาตุรนต์และคนอื่นๆ เอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้งมาตัดสินการทำงานของ กกต. ถ้าเห็นว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบก็ฟ้องศาลหรือยื่นถอดถอนได้ ส่วนที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวหาว่า กกต.พิจารณาคดีของพรรคประชาธิปัตย์ 2 มาตรฐานโดยคดีของพรรคใช้เวลายาวนานกว่า 8 เดือนนั้น การพิจารณาจะช้าหรือเร็ว ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรมหรือ 2 มาตรฐาน แต่เกี่ยวกับข้อกฎหมายและพยานหลักฐานข้อเท็จจริงว่า จะหาข้อสรุปได้แล้วหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้อาจต้องหาหลักฐานมากจึงต้องใช้เวลา

“อยากให้สังคมจับตาขบวนการเคลื่อนไหวกดดัน กกต.เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการชุมนุมใหญ่ รวมถึงการที่มีการอาศัยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ กกต.ระดับล่าง ที่เป็นสารพิษตกค้างจาก กกต.ชุดก่อน เมื่อโครงสร้างระดับล่างไม่เปลี่ยน คนที่เป็นอนุกรรมการตรวจสอบคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ครั้งก่อน ตอนนี้มาเป็นอนุกรรมการตรวจสอบคดีที่นายกฯ แทรกแซงฝ่ายตำรวจ และคดีนายกฯ พบนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยที่บ้านพิษณุโลก คนคนนี้คงให้คุณให้โทษกับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนสมัยก่อนเพื่อให้นำมาสู่ข้อวิจารณ์ในอนาคต การเปลี่ยนแต่หัว แต่คนที่ชงเรื่องระดับล่างยังเป็นกลุ่มเดิม อาจส่งสำนวนที่ไม่ครบถ้วน ทำให้ กกต.พิจารณาได้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงเรียกร้องให้ กกต.ไปดูเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วยว่าให้ความเป็นธรรมในสำนวนเพียงพอแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังอาศัยคอนเนคชั่นเดิมกับ กกต.บางคน ทำให้ กกต.ทำงานยากขึ้น เพราะหากพลิกคำตัดสินของระดับล่างที่ส่งขึ้นมาจะทำให้เป็นแรงกดดันว่า กกต.ทำงาน 2 มาตรฐาน” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวหาว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์รอดจากคดียุบพรรคกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท จะทำให้อนาคตของพรรคดับลงและประชาชนจะลงโทษนั้น พรรคจะพ้นหรือไม่พ้นข้อกล่าวหาอยู่ที่ข้อเท็จจริง และถ้าพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ทำผิดก็ไม่มีใครลงโทษได้ และอนาคตของพรรคอยู่ที่เกียรติประวัติ จุดยืนและแนวทางที่จะเป็นความหวังให้ประชาชนได้หรือไม่

นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาประจำปี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า “หล่อหลักลอย” ว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับนายกฯ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเป็นการตั้งฉายาในมุมมองของสื่อมวลชน เป็นเรื่องขอกันกินมากกว่า อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่สื่อมวลชนอธิบายว่านายกฯ หลักลอยเพราะไม่สามารถกำกับกฎเหล็กจริยธรรม 9 ข้อให้เป็นผลได้นั้น หากดูข้อเท็จจริงแล้วจะเห็นว่าคำอธิบายไม่เป็นธรรม เพราะตลอดเวลา นายกฯ ยังคงยึดกฎเหล็กทั้ง 9 ข้ออย่างเคร่งครัด ตั้งแต่กรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มาถึงกรณีของนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สารธารณสุข (สธ.) ซึ่งชี้ชัดว่านายกฯ สามารถยืนยันกฎเหล็ก 9 ข้อให้มีผลในทางปฏิบัติได้ และไม่หลักลอยตามที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ ตั้งฉายา